“เศรษฐา” ลั่นกลางวงสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ไม่ได้มาขายฝัน
“เศรษฐา” โดนช้างพ่นน้ำใส่รับน้อง วิ่งหนีแทบไม่ทัน รับปาก ช่วยหาที่ปลูกหญ้าเนเปียร์ วอนภาครัฐช่วยดันรถกู้ภัยช้าง หาองค์กรเป็นเจ้าภาพดูแลช้างไทย ลั่นกลางวงสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ไม่ได้มาขายฝัน
ช่วงเช้าวันนี้ที่ปางช้างแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยพร้อมด้วยว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ และว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เข้าพบเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ และนายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย ซึ่งปางช้างแม่ริมนั้นนายเศรษฐา เมื่อครั้งเป็นประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ ได้ร่วมผลักดันบริจาคกับสมาคมสหพันธ์ช้างไทยช่วยช้างในการจัดสรรที่ดินพัฒนา เพาะปลูกหญ้าเนเปียร์เป็นอาหารเลี้ยงช้างกว่า 70 ไร่ โดยมีผลผลิตกว่า 20,000 ตันต่อปี
โดยทันทีที่นายเศรษฐามาถึงได้นำหญ้าเนเปียร์ให้ช้างได้กิน จากนั้นนายเศรษฐา พร้อมคณะได้รับฟังเสียงสะท้อนจากตันแทนปางช้าแม่ริม สมาคมสหพันธ์ช้างไทย โดยมีการสะท้อนปัญหาการช่วยชีวิตดูแลช้าง ที่ขณะนี้ยังขาดแคลนรถกู้ภัยช่วยช้างที่มีมูลค่าคันละไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านบาท และในประเทศไทยก็มีเพียง 1 คัน จึงอยากให้รัฐบาลใหม่ช่วยผลักดัน ซึ่งที่ผ่านมาการขนช้างและช่วยชีวิตช้างเป็นไปลำบาก เพราะมีรถกู้ภัยช่วยช้างเพียง 1 คัน และค่าขนช้างครั้งหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท อีกทั้งหลังผ่านช่วงวิกฤตโควิด-19 แล้วการท่องเที่ยวก็ยังไม่ดีขึ้น
นอกจากนี้ นายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย ยังสะท้อนว่า ขณะนี้ยังไม่มีรัฐบาลไหนดูแลระบบเรื่องการเลี้ยงอาหารของช้างอย่างเป็นรูปธรรม จึงอยากให้มีการดูแลช้างผ่านสถาบันคชบาลแห่งชาติ หรืออยากให้รัฐบาลในอนาคตถ้าตั้งองค์กรดูแลช้างสร้างองค์กรใหม่ก็สามารถทำได้ หรือจะให้สถาบันคชบาลแห่งชาติดูแลรับผิดชอบช้างทั่วประเทศก็ได้ อีกทั้ง ถ้าประเทศไทยมีประชากรคนไทย 70ล้านคนอยากแต่ขณะนี้จำนวนช้างในไทยมีเพียง 3,800 เชือกเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤตอย่างมาก
ขณะที่นายเศรษฐา ระบุว่า ตนจะช่วยบอกกับทาง บมจ.แสนสิริ มาทำเชิงรุกด้านการประชาสัมพันธ์ให้กับปางช้างแม่ริมต้น ว่าเป็นการเลี้ยงดูช้างให้มีความเป็นอยู่ที่ดีทำอย่างไร โดยใหม่ประชาสัมพันธ์ถึงการรักษาช้างไม่ใช่เป็นการทรมาน รวมทั้งยังรับปากด้วยว่าจะบอกเพื่อนฝูงที่มีที่ดินที่ไม่ได้พัฒนาให้ช่วยหาพื้นที่ปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อเป็นอาหารให้กับปางช้างแม่ริม
ทั้งนี้ระหว่างเดินทางออกมาจากปางช้าง นายเศรษฐา ได้ถูกช้างแกล้งโดยการสาดน้ำใส่ ทำให้ช่วงหนึ่งนายเศรษฐา ต้องวิ่งหลบและรีบไปขึ้นรถทันที
จากนั้นนายเศรษฐา พร้อมคณะ เดินทางต่อมายังตำบลสะหลวง อำเภอแม่ริม เพื่อพูดคุยกับกลุ่มยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ โดยช่วงหนึ่งตัวแทนกลุ่มได้สะท้อนปัญหา และบอกถึงความต้องการว่าอยากให้มีการเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจรัฐ กระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นมากขึ้น
ทำให้นายเศรษฐา กล่าวกลางวงสนทนา ย้ำว่า ตนมาทำงาน ไม่ได้มาขายฝัน ไม่ได้มาด้อยค่าใคร ตนอยากช่วยชาวบ้านเพิ่มผลผลิตการเกษตรให้มีราคาสูงขึ้น อยากให้เริ่มจากจุดเล็กๆที่ทำได้จริง ก่อนถามไปที่ตัวแทนกลุ่มถึงความต้องการ
และปัญหาที่อยากให้แก้ไขจริงๆ “จะเอาอะไร บอกมาดีกว่า” ส่วนเรื่องภาพใหญ่เปลี่ยนโครงสร้างนั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ตนคงทำไม่ได้ ขณะเดียวกันวงสนทนายังได้มีการพูดถึงการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ทำได้จริง
ตนไม่ได้มาหาเสียง ที่ผ่านมาเรามีผู้นำไร้หัวใจ ไม่เคยสนใจประชาชน บางประเทศอาจต้องการผลผลิตจากเราอยู่เช่น ประเทศอินเดีย แต่เราต้องเข้าใจตลาดโลกที่อาจเปลี่ยนไปด้วย เราต้องค่อยๆเปลี่ยน ยินดีที่วันนี้ได้มา จะเอาปัญหาไปศึกษาเร่งแก้ไข ส่วนเรื่องเปลี่ยนโครงสร้างรอให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีมาทำ ตอนนี้อะไรที่ทำได้สำหรับคนตัวเล็กต้องร่วมด้วยช่วยกันไปก่อน ขอให้กำลังใจทุกคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews