วัคซีนโควิดมาเดินทางคึก-ลุ้นสงกรานต์(click ดูวิดีโอ)
นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกแรกเมื่อปี 2563 จนมาถึงระลอก 2 ปี 2564 การเดินทางของประชาชนด้วยระบบรถโดยสารสาธารณะค่อนข้างจะบางตา แต่หลังจากที่ประเทศไทยได้รับวัคซีนโควิด-19 ทำให้ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา คนกล้าที่จะเดินทางเพื่อท่องเที่ยวมากขึ้น
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ถือว่าการเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะเริ่มกลับมาคึกคักมีประชาชนเดินทางมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นโดยประเมินแล้วอยู่ที่ประมาณ 20,000 คนต่อวันจาก ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปีที่มีการแพร่ระบาดของ โควิด-19 นั้นทำให้ประชาชนเดินทางน้อยมากรวมถึงมีการทยอยคืนตั๋วเดินทางเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ถือว่าปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการเดินทางมากขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการที่ไทยเริ่มมีวัคซีนเข้ามาป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 และมาตรการทางด้านสาธารณสุขของภาครัฐที่ยังคงเข้มงวดอย่างต่อเนื่องรวมถึงความร่วมมือของผู้ที่มาใช้บริการในการสมใส่หน้ากากอนามัยในการใช้บริการ โดยบขส.เองยังคงเข้มงวดเรื่องของมาตรการป้องกัน โควิด-19 ทั้งบนรถโดยสารและภายในอาคารผู้โดยสาร
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าบรรยากาศของการเดินทางของประชาชนจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง หลังจากที่ไทยเริ่มรับวัคซีนในล็อกที่ 2 พร้อมกับมีการทดลองประสิทธิภาพการรับวัคซีนว่าไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าวัคซีนนั้นเป็นปัจจัยหลักในหลายหลายด้านทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวและการเดินทางรวมถึงการเชื่อมั่นของประชาชนที่จะออกมาทำกิจกรรมต่างๆ เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
ขณะที่ นักวิเคราะห์ มองว่า การกลับมาเปิดประเทศของไทยจากนายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้ง ททท. ส่งสัญญาณเตรียมผลักดัน “พาสปอร์ตวัคซีน” ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้าไทยได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ รวมทั้งการขยายระยะเวลาโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ออกไปจากสิ้นสุด เม.ย. นี้ไปเป็น ก.ค. นี้ และการทยอยผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จาก ศบค. จะทำให้ภาพการเดินทางกลับมามีสีสันมากขึ้น
นับว่า วัคซีนโควิด คือความหวังของชาวโลกและคนไทย หลังจากเริ่มมีการฉีดแล้วในหลายประเทศ โดยบริษัทผู้ผลิตได้เริ่มแจกจ่ายไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. นี้ ทำให้บรรยากาศต่างๆ ภายในประเทศเริ่มผ่อนคลาย ซึ่งต้องติดตามผลหลังจากนี้ว่า การได้รับวัคซีนจะช่วยสถานการณ์ทุกอย่างกลับมาปกติโดยเร็วได้หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news