Home
|
ข่าว

“ปดิพัทธ์” ประธานสภาเป็นหน้าที่ทีมเจรจาหาข้อยุติ

Featured Image
“ปดิพัทธ์” ตำแหน่งประธานสภาเป็นหน้าที่ทีมเจรจาหาข้อยุติ จบก่อนวันโหวต 4 ก.ค. ยันยึดหลักการพรรคอันดับหนึ่ง ต้องได้ตำแหน่งนี้ เชื่อเป้าหมายร่วม “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ใหญ่กว่าจะแตกกัน

 

 

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล แคนดิเดตประธานสภาของพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีตำแหน่งประธานสภา ที่ถูกเลื่อนการเจรจาระหว่างพรรคเพื่อไทย กับก้าวไกลออกไปว่าเป็นการเลื่อนเพื่อรอจนกว่าคณะเจรจาจะได้ข้อยุติ ซึ่งในขณะนี้ทางคณะเจรจาได้รับฟีดแบคจากส.ส.แต่ละพรรคและสังคม ตอนนี้รอให้มีการเดินหน้าเจรจา พร้อมยอมรับว่าเรื่องการการเจรจาของคณะดังกล่าวถูกเลื่อนทำให้การหารือของ 8 หัวหน้าพรรคถูกเลื่อนออกไปด้วย

 

 

พร้อมทั้งกล่าวถึงข้อสังเกตว่าพรรคก้าวไกล ถอยออกมาหลังจากที่พรรคเพื่อไทยประกาศต้องการตำแหน่งประธานสภาว่า ในขณะนี้การเจรจายังไม่สิ้นสุด ตราบใดที่ยังไม่มีการโหวตการเจรจาก็ยังสามารถเดินหน้าได้ แต่ด้วยเงื่อนเวลาบีบให้ต้องมีความชัดเจน แต่ก็ต้องให้เวลากับคณะเจรจา ซึ่งทางพรรคก้าวไกลก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับการทำหน้าที่ประธานสภา

 

 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยต้องการเก้าอี้ประธานสภา พรรคก้าวไกลจะยอมถอยหรือไม่ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคเดินหน้าไปได้ นายปดิพัทธ์ ชี้ว่าเป็นหน้าที่ของคณะเจรจาและเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปทันก่อนที่จะมีการโหวต และยกตัวอย่างว่าก่อนที่จะสร้างบ้าน ลงทุน อาจจะมีการทะเลาะเรื่องพิมพ์เขียวให้เรียบร้อย หากปรับแบบแล้วยังไม่พอใจก็ไม่ต้องสร้าง แต่สุดท้ายก็ต้องมีวันสร้างนั่นก็คือวันที่มีรัฐพิธีเปิดประชุมสภา

 

 

“แนวโน้มและเสียงโหวตที่ประชาชนมอบให้ ยังไง 2 พรรคนี้ก็ต้องหาทางตกลงกันให้ได้อยู่แล้ว” นายปดิพัทธ์กล่าว

 

 

นายปดิพัทธ์ยังกล่าวถึงหลักการที่ยึดว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องได้ตำแหน่งประธานสภา เช่นเดียวกับพรรคอันดับหนึ่งที่ต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยยังคงเดินหน้าตามหลักการนี้ และต้องชี้แจงสังคมให้ได้ว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงพร้อม จึงเตรียมแผนในทิศทางที่ควรจะเป็นไว้ หากแผนเปลี่ยนแปลงก็ค่อยว่ากัน

 

 

เมื่อถามว่าประเด็นนี้จะทำให้เพื่อไทย-ก้าวไกลแตกกันหรือไม่ นายปดิพัทธ์ระบุว่าในฝั่งของก้าวไกล คิดว่าในเรื่องนี้เป้าหมายใหญ่คือการฟอร์มรัฐบาล และคิดว่าจะไม่ยอมให้ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งมาทำให้เป้าหมายนี้เสียไป

 

 

ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่ายที่จะวิพากษณ์วิจารณ์ถึงตัวบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ตำแหน่งประธานสภา โดยมีข้อเสนอเรื่องประสบการณ์ ที่ได้รับเสียงสะท้อนมาจากครั้งก่อนจึงต้องมีการทำงานหนักมากขึ้น ค้นคว้าข้อมูลและถามผู้รู้ โดยปดิพัทธ์ระบุว่าไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นประธานสภาที่ดีที่สุดหรือไว้ใจได้อย่างไร

 

 

แต่ได้แสดงความพร้อมในการทำหน้าที่และทำงานหนักร่วมกับทุกฝ่าย ซึ่งตามข้อบังคับก่อนที่จะมีการโหวตจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ชิงตำแหน่ง เชื่อว่าเวทีดีงกล่าวจะสามารถแสดงถึงความตั้งใจที่จะสื่อสารกับส.ส.แต่ทั้งหมดนั้นจะต้องได้ข้อยุติที่ทีมเจรจาก่อน

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube