“ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”จะผ่านด่านวงล้อมกับดักระเบิด ของฝ่ายอนุรักษ์สู่บัลลังก์นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทยได้หรือไม่ หรือเป็นได้แค่ “นายกทิพย์” ของ ด้อมส้ม ขึ้นอยู่กับสำนึกแห่งความเป็น ประชาธิปไตยในหัวใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)เอง และสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ที่มาจากการแต่งตั้งของฝั่งตรงข้าม ”พิธา” ซึ่งคาดหวังยาก
จากเจตนารมณ์ของการเขียนรัฐธรรมนูญโดยตั้งโจทย์ไว้เพื่อการสืบทอดอำนาจของคณะบุคคลให้นานสุดหลังการใช้กำลังทำรัฐประหาร การเข้าใกล้เขตหวงห้ามของฝ่ายตรงข้ามแบบ ”พิธา” จึงเป็นพื้นที่อันตรายสุดขีดในสมรภูมิรบแห่งเวทีรัฐสภาที่มีสว.ลากตั้งถูกกำหนดให้ใช้สิทธิ์เป็นด่านหน้า ขวางการรับรอง”นายกฯพิธา”ให้ได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งหรือ 376 เสียงของจำนวนสมาชิกทั้งหมด 750 เสียง..
โอกาสความเป็นไปได้ของ”พิธา” อาจมีหากส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนคำนึงถึงหลักการประชาธิปไตยยึดเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ไม่คิดเพียงผลแพ้ชนะระหว่างขั้วหรือความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรค เช่นเดียวกับ สว.แม้จะมาจากการแต่งตั้งของกลุ่มอำนาจเก่าก็ตามที การออกมาขับเคลื่อนของสว.ตัวตึง 3-4 คนอาจมิใช่เป็น ตัวแทน ในเชิงสัญลักษณ์ของสว.ทั้งหมดร่วม 250 คนซึ่งอาจมีคนเห็นต่างจากการแสดงออกของ สว.กลุ่มขวาตกขอบ โหวตรับรอง ”พิธา”เกิน 64 เสียงบวก 312 คะแนนของกลุ่ม 8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล”พิธา”อาจผ่านด่านหินได้เป็นนายกรัฐมนตรี..
มองฉากทัศน์ ”8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล” ผ่านอาการความรู้สึกของพรรคเพื่อไทยกับความพยายามเน้นย้ำคำขอบคุณออกนอกหน้าในความเห็นชอบต่อข้อเสนอของ “หมอชลน่าน ศรีแก้ว”เองแสดงความเหนือกว่ากับทางออกเสนอคนกลาง “วันมูหะหมัดนอร์ มะทา” เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร กับอีกฝ่ายก้าวไกลที่ออกอารมณ์เจื่อนเฉยของเลขาธิการพรรคและสีหน้าอันไร้ออร่าโอป้าแบบ พ่อส้มคนเดิมของ “ทิม พิธา” ในสภาพถ้อยแถลงข้อตกลงร่วมกันต่างจากความระรื่นของ แกนนำเพื่อไทย โชว์เก๋าเกมเอาชนะ และพยายามตอกย้ำความคิดฝ่ายตนเพียงแต่ให้ก้าวไกลทาบทาม “อาจารย์ วันนอร์”เท่านั้น
เฉกเช่นกับการยอมรับในจังหวะ “รุกได้ถอยเป็น” ของผู้นำ “พิธา”ในเชิงตั้งหลักเพื่อรุกรบในศึกใหญ่กว่าอันเป็นเป้าหมายสูงสุดวัดความจริงใจในขั้ว 8พรรครัฐบาลก้าวไกลและด่านสว.ในวันนัดโหวตวาระรับรองนายกคนที่30ของประวัติศาสตร์ชาติ 13 กรกฎาคมนี้..
การเสนอชื่อ “อาจารย์วันนอร์” เป็นเพียงตัวกลาง ระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับ ก้าวไกลเท่านั้น ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาเพื่อชาติและประชาชนแต่อย่างใด เป็นแนวคิดไร้ซึ่งตรรกะทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยการถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ นอกเหนือจาก “อาจารย์วันนอร์” มีคุณสมบัตรส่วนตัวเหมาะสมที่สุดต่างหาก “วันนอร์” มาจากพรรคประชาชาติลำดับท้ายๆของผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่มีสิทธิ์เพราะมีส.ส.สูงสุดหรือพรรคอันดับรอง แบบพรรคก้าวไกล หรือ เพื่อไทย เป็นเหตุและผลที่เพื่อไทยนำมาอ้างอิงซึ่งไร้หลักการรองรับแบบคำฮิต “พระกับเณรแย่งกันแทบตายสุดท้ายเสร็จโต๊ะอิหม่าม”
การหาทางออกของแกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นการตัดสินใจของคนไม่กี่คนพยายามอ้างเสียง ส.ส. พรรคโดยไม่ได้คำนึงเสียงประชาชนตัวจริงที่เลือกพรรคก้าวไกลมากกว่าเพื่อไทยกว่า 3 ล้านคะแนนจากการคำนวณเป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อได้ 10 ลำดับ มาจากการเลือกตั้งของผู้คนกว่าร้อยละ 75 หรือค่อนประเทศ..
สัญญาณการเมือง การไม่เสนอคู่แข่งกับ “อาจารย์วันนอร์”และ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” จากค่ายเพื่อไทยของ ฝ่ายตรงข้ามแต่กลับเสนอ”วิทยา แก้วภราดัย”แข่งรองประธานสภาคนที่1กับ”ปดิพัทธ์ สันติภาดา”จากค่ายก้าวไกลและ 77 ส.ส.ที่งดออกเสียงเป็นการแสดงความเป็นมิตรกับเพื่อไทยหรือไม่ หาก”พิธา”ไม่ผ่านด่านสว.และสถานการณ์กดดันให้ออกไปเป็นฝ่ายค้านพรรคที่งดออกเสียงเป็นการยื่นไมตรีทางการเมืองต่อพรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณผสมพันธุ์เปลี่ยนขั้ว หรือเป็นเพียงการเมืองฝั่ง 2 ลุงเองยังตั้งหลักไม่ได้ ตั้งตัวไม่ทันกับเกมส่งชื่อ”วิทยา”ลงสู้ หรืออีกมุม ฝ่ายอนุรักษ์ อาจไม่ส่งแคนดิเดตนายกลงแข่งกับ ”พิธา” เป็นเรื่องจริง..รัฐบาลเสียงข้างน้อย จะไม่เกิดขึ้นในตำนานการเมืองไทยหนึ่งเดียวในโลก..
การขับเคลื่อนเกมการเมืองของ พรรคเพื่อไทย เพียงเพื่อชัยชนะต่อ พรรคก้าวไกล ชิงความได้เปรียบเกมต่อเวลาใน 8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกลในวาระโหวตรับรองนายกฯพิธาที่จะมีขึ้น จากความไม่มั่นใจของเพื่อไทยต่อประธานรัฐสภาจะบรรจุญัตติให้โหวตรับรอง “พิธา” กี่รอบเสียมากกว่า หากเก้าอี้ประมุขนิติบัญญัติ เป็นคนของ พรรคก้าวไกล อาจดึงเช็งยาวถึงช่วงเปลี่ยนผ่านสว.ลากตั้งหมดวาระก็ทำได้กฎหมายไม่ห้าม โอกาสส้มหล่น มีสูงมาก จากด่านกับดักสว.และกระบวนการยุติธรรมคดีพิธาถือหุ้นสื่อถูกรุมล้อมรอบด้าน
ขณะเดียวกับความเสี่ยงที่ พรรคก้าวไกล ไม่ยอมเสียสัตย์กับด้อมส้มถอนยวงออกจากการร่วมรัฐบาล 8 พรรคก็มีไม่น้อย หากการเจรจาต่อรองไม่สมดุลนุ่มเนียนพอ เพราะก้าวไกลเองก็ยังเชื่อมั่นการกลับมาหลังการเลือกตั้งฤดูหน้าหัวหน้าพรรคตัวจริง”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”และอดีตแกนนำหลักตัวจี๊ดพ้นพันธการโทษการเมืองเกมคงหนักกว่าสมรภูมิที่ผ่านมาหลายเท่าตัว
ด้อมส้ม ระดับมัธยมปลายในสถานศึกษาที่แอบชื่นชมอยู่ในรั้วโรงเรียนต่างออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงเป็นคะแนนได้เป็นจำนวนมาก ต่างกับสังขารความเฒ่าชราของบรรดาผู้แก่จำต้องจากลาไปบ้าง..อนาคตของลูกหลานก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเขาตัดสินใจเอง หากแต่อนาคตพวกเขาอาจต้องออกมาแสดงพลังขับไล่พรรคการเมืองของอดีตนายกฯจากแดนไกลซึ่งส่อเค้าแปลกประหลาดจ้องผสมพันธุ์ข้ามขั้วกับ พรรคประชาธิปไตยจำแลง โดยแอบอ้างวิกฤตการณ์การเมืองเส้นทางตัน..วันนี้มวลชนก้าวหน้าไปไกลกว่าพรรคการเมืองมากแล้ว..!!
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
