“จุรินทร์” ประกาศ จัดประชุมหัวหน้าคณะเจรจา “FTA ไทย-อียู” นัดแรก 18 ก.ค. นี้ ที่กรุงเทพ ตั้งเป้า 2 ปีจบ สร้างแต้มต่อการค้า-ลงทุน-ส่งออก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ตนและนายวัลดิส ดอมบรอฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและกรรมาธิการยุโรปด้านการค้าของอียู ได้ร่วมกันประกาศเปิดการเจรจานับหนึ่ง FTA ไทยกับสหภาพยุโรปเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ตนได้มอบหมายให้ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นเจ้าภาพจัดประชุมและเชิญหัวหน้าคณะเจรจา FTA ของฝ่ายอียูมาหารือที่ไทยในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการการเจรจา FTA ในภาพรวม ก่อนที่ฝ่ายอียูจะเป็นเจ้าภาพการเจรจารอบแรกแบบเต็มคณะในช่วงเดือนกันยายน ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียมต่อไป
โดยการรื้อฟื้นการเจรจา FTA ระหว่างไทยกับอียูเป็นนโยบายสำคัญที่ตนได้มอบให้กระทรวงพาณิชย์ นับเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาหารือกันอีกครั้งหลังจากเกือบ 10 ปี ที่หยุดการเจรจาไป โดย FTA ไทย-อียู เป็นสิ่งที่ภาคเอกชนไทยเรียกร้อง และไทยจะได้รับประโยชน์จากการจัดทำ FTA เช่น ภาษีการส่งออกสินค้าไทยไปอียูจะเป็นศูนย์
สามารถแข่งขันด้านราคาและมีแต้มต่อกับประเทศที่ไม่ได้ทำ FTA กับอียู และทำให้ภาคการผลิตลดต้นทุนการผลิตได้ โดยเฉพาะการนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์และเคมีภัณฑ์ เกิดการแลกเปลี่ยนการลงทุนระหว่างกัน ไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม และช่วยดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกมาลงทุนในไทยอีกด้วย โดยตั้งเป้าเจรจาให้เสร็จภายใน 2 ปี คือ ปี พ.ศ. 2568
ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้เชิญนายคริสตอฟ คีแนร์ หัวหน้าคณะเจรจาของฝ่ายอียูในการเจรจา FTA ไทย-อียู มาร่วมหารือเฉพาะในระดับหัวหน้าคณะ เพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการบริหารจัดการการเจรจา FTA ไทย-อียู เช่น แผนงานการเจรจา ระเบียบวิธีการประชุม รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มเจรจาในแต่ละประเด็น
อาทิ การค้าสินค้า กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการเยียวยาทางการค้า อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช พิธีการด้านศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า การค้าบริการและการลงทุน การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ การแข่งขัน รัฐวิสาหกิจ ทรัพย์สินทางปัญญา การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน ความโปร่งใส กลไกระงับข้อพิพาท การค้าดิจิทัล พลังงานและวัตถุดิบ SMEs หลักปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบ
ทั้งนี้ ในปี 2565 อียูเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทย สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกปี 66 การค้าระหว่างไทยและอียู มีมูลค่า 17,598.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอียู มูลค่า 9,392.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากอียู มูลค่า 8,205.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews