ผลประชุมระดับโลก ชี้การแบนบุหรี่ไฟฟ้าไทยล้มเหลวแนะไทยเร่งควบคุมให้ถูกกฎหมาย สกัดนักสูบหน้าใหม่
เวทีเสวนา Global Forum on Nicotine 2023 ถกปัญหาการลดอันตรายจากยาสูบ พร้อมระบุการแบนบุหรี่ไฟฟ้าไทยล้มเหลว เพราะละเลยเรื่องการลดอันตรายจากยาสูบและปิดกั้นทางเลือกของผู้สูบบุหรี่ ย้ำประเทศไทยควรพิจารณาแนวคิดในเรื่องการลดอันตรายจากยาสูบ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ อาทิ อังกฤษ นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา กรีซ ฟิลลิปปินส์ ที่รับแนวคิดเรื่องการลดอันตรายจากยาสูบมาใชhช่วยชีวิตผู้สูบบุหรี่
เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (ECST) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 21 ถึง 24 มิถุนายน เวทีเสวนาระดับโลกอย่าง Global Forum on Nicotine 2023 ซึ่งจัด ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ โดยมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ ผู้กำหนดนโยบาย ที่เกี่ยวข้องกับนิโคตินจากทั่วโลกเข้าร่วมคับคั่ง โดยเวทีเสวนาดังกล่าวได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและผลการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของการลดอันตรายจากยาสูบ (tobacco harm reduction science) นโยบายและทิศทางของการลดอันตรายจากยาสูบในอนาคต รวมทั้งมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) และเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน กล่าวถึง “คู่มือการควบคุมยาสูบ” ซึ่งมุ่งเน้นประเด็นที่บุหรี่ไฟฟ้าถูกมองเป็นภัยคุกคาม แม้จะได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพโดยหลายประเทศทั่วโลกก็ตาม
“หลายปีที่ผ่านมาผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในไทยจำนวนมากสามารถเลิกบุหรี่ได้ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า แต่การที่บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมายในไทย ก็ทำให้ยากต่อการควบคุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน และเป็นบ่อเกิดของปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย ทั้งการสร้างธุรกิจใต้ดิน เกิดการทุจริตคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้คนยังมองบุหรี่ไฟฟ้าอย่างมีอคติ หากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย รัฐสามารถควบคุมได้ ปัญหาก็จะลดลง เพื่อประโยชน์ของผู้สูบบุหรี่ในขณะที่ยังป้องกันเด็กและเยาวชนได้”
นอกจากนี้ นายอาสายังกล่าวถึงการประชุมประเทศภาคีสมาชิกกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกครั้งที่ 10 หรือ FCTC COP10 ระหว่างวันที่ 20 ถึง 25 พฤศจิกายนที่กำลังจะมาถึงว่า
“ไทยมักอ้างว่าต้องแบนบุหรี่ไฟฟ้าตามคำแนะนำของ WHO FCTC เพราะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะมีอีกกว่า 80 ประเทศที่บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการควบคุมภายใต้กฎหมายเช่น นิวซีแลนด์ อังกฤษ เขาก็เป็นสมาชิกกรอบอนุสัญญาฯ เช่นกัน แล้วทำไมถึงเขาขายบุหรี่ไฟฟ้าได้ ลดอัตราการสูบบุหรี่ได้ เราเห็นว่าหลายพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลก็สนับสนุนการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าแทนการแบนเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชน ดังนั้นการที่ประเทศไทยจะไปสนับสนุนการแบนเท่ากับสวนทางนโยบายของพรรคการเมืองที่กำลังจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ เราเองก็ไม่สนับสนุนการสูบบุหรี่ทุกรูปแบบอยู่แล้วเพราะการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นถ้าเลิกสูบบุหรี่ทุกรูปแบบได้จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”
