19 พฤษาคม สมรภูมิสุดท้าย”พิธา”จะฝ่าด่าน250อรหันต์สว.ขึ้นบัลลังก์อำนาจได้สำเร็จหรือไม่ เพราะเหมือนเจ้าตัวจะจะส่งสัญญาณว่าถ้าโหวตรอบ 2ไม่ผ่าน จะยอมถอยให้ค่ายเพื่อไทยเป็นผู้นำหลักในกระดานอำนาจบ้าง
พร้อมกันนั้นเหล่าด้อมส้ม ยังต้องลุ้นอีกดอกในกรณี ศาลรัฐธรรมนูญ นัด ถกคำร้องของ กกต.ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยสถานภาพ สส. สิ้นสุดลงหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไว้ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ส่วนทางออกของวันที่ 19 พฤษาคม นี้ น่าจะมีความเป็นไปได้ใน 4แบบ คือ แบบที่1 พิธา ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลและอีก 7พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะจัดตั้งรัฐบาล 311 เสียง
ซึ่งทางออกนี้เป็นไปได้ยากถึงยากมาก เพราะเชื่อได้ว่าสว.ยังคงไม่เปลี่ยนใจแม้ว่าทางก้าวไกลจะยอมถอยบางส่วน แบบที่ 2 พิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่ค่ายเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทนและยังตั้งรัฐบาลกับอีก 7 พรรคร่วมปัจจุบัน เป็นรัฐบาล 311 เสียง แบบที่ 3พิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทน
ขณะที่พลิกขั้วไปจับพรรคว่าที่ฝ่ายค้าน อย่างค่ายพลังประชารัฐของลุงป้อม พุงพลุ้ย ประเมินเสียงราว 280-310 เสียง แบบที่4 คือ พิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลจะอยู่ในลักษณะเสียงข้างน้อย คือ ว่าที่พรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ประเมินเสียงราว 140-150 เสียง ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพและมีอายุไม่ยืนแน่นอน
ใน 4ทางเลือกนั้น มีทางเลือกแรกและทางเลือกเดียวเท่านั้น ที่พิธาจะได้เป็นนายกฯ ด้วยการหาเสียงมาสนับสนุนตัวเองให้เพิ่มขึ้น แต่ทว่า พิธา และลูกพรรคก็ยังไม่ยอมลดเพดานในเรื่องมาตรา112 พิธาก็รู้ดีว่าถ้าไม่ทำอะไรเลย ผลลัพธ์ ก็จะเหมือนเดิม ซึ่งเป็นสัจธรรมเฉกเช่นปรัชญาของ”อัลเบิร์ต ไอนสไตน์”ที่เคยกล่าวไว้ว่า “มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง” ฉะนั้นแล้วจึงได้เห็นระดับบิ๊กเนมฝั่งประชาธิปไตย ออกแอ๊คชั่นแปร่งๆกันหลายราย
อย่าง เช่น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ออกมายอมรับเป็นคนติดต่อพรรคประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา ให้ยกมือหนุน “พิธา” ในการโหวตนายกฯ หรือ จะเป็น ข่าว ชัยธวัช เลขาฯก้าวไกล ต่อสายคุยกับอีกขั้วอำนาจ ซึ่งต่อมาเขายอมรับโทรหา”เฉลิมชัย” เลขาฯค่ายสีฟ้าจริง สุดท้ายไม่ได้คุย ตั้งใจถามเรื่องจุดยืนตั้ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้ย่อมหมายถึงความพยายามของฝั่ง 8พรรคประชาธิปไตยเพื่อจะเปลี่ยนผลลัพธ์ทั้งๆที่รู้ดีว่ายากลำบากเหลือกเกิน
ส่วนก้าวต่อไปถ้า พิธา ซดน้ำแห้วรอบ 2 ก็น่าจะถึงคิว
ค่ายเพื่อไทย ที่มี 3 ตัวหลัก แต่เบื้องต้น น่าจะเป็น เสี่ยนิด เศรษฐา ที่วันก่อนให้สัมภาษณ์อย่างหล่อว่า “พร้อมเป็นนายกฯ หากถูกเสนอชื่อ เผยสถานการณ์บีบให้ต้องรีบตั้งรัฐบาลเร็วที่สุด ปัญหาเศรษฐกิจ ภัยแล้ง เอลนีโญ ต้องรีบจัดการ เรื่องการเมืองพูดกันมาเยอะแล้ว อยากให้พูดเรื่องปากท้องประชาชนด้วย หน้าที่ของนักการเมือง คือ ดูแลประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง”
ขณะสาวอุ๊งอิง-แพทองธาร ชินวัตร ประกาศชัด! ถึงทีเพื่อไทยเสนอชื่อนายกฯ “เศรษฐา” ดีที่สุด หาก “พิธา” โหวตนายกฯรอบ 2 ไม่ผ่าน ซึ่งประเด็นนี้ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นการโยนหินถามทาง ว่าถ้าแค่เปลี่ยนจาก พิธา เป็น “เศรษฐา” จะให้ผ่านไหม โดยมีรายงานข่าวทางลับมาว่าไม่น่าจะผ่านเพราะยังติดที่มีค่ายก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย เพราะในสมการอำนาจที่สว.ที่ปล่อยผ่านนั้นคือต้องไม่มีก้าวไกลอยู่ในรัฐบาลชุดใหม่นี้ ฉะนั้นแล้ว จึงน่าเชื่อว่า สุดท้ายแล้ว จึงอาจถึงคราวที่ต้องดันให้พิธา กลายเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และจบที่ประเทศไทยมีนายกฯหญิงคนที่ 2 ที่ชื่อ “อุ๊งอิง-แพทองธาร ชินวัตร” ซึ่งท้ายสุดแล้วเลือกสงบจบที่”เพื่อไทย” นั้นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews