Home
|
บันเทิง

รีวิว Bloodhounds ซีรีส์สุดมันส์ที่ไม่ควรพลาด!

Featured Image

          “มวย” เป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ยอดนิยม เป็นการต่อสู้ของคนสองคนบนสังเวียนอันดุเดือด ที่ใช้เพียงแค่กำปั้นเท่านั้น ใครที่สามารถยืนอยู่ได้เป็นคนสุดท้ายก็คือผู้ชนะ

          ถ้าพูดถึงซีรีส์เกาหลีใน Netflix ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของซีรีส์สุดเดือดอย่าง Bloodhounds ติดโผมาด้วยอย่างแน่นอน

         ด้วยเนื้อเรื่องสุดมันส์ของชายที่สิ้นไร้ไม้ตอก จนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับความชั่ว สะท้อนให้เห็นถึงความดีปะทะความชั่ว ผ่านสังเวียนของลูกผู้ชาย

          ในวันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับซีรีส์เรื่อง Bloodhounds ในภาพรวม และความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนที่มีต่อซีรีส์ … ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญเข้าสู่สังเวียนลูกผู้ชายที่ไม่สามารถถอยได้ และไปลุยพร้อมกันเลย!!

เนื้อเรื่องย่อของ Bloodhounds

          ก่อนจะเข้าสู่การพูดคุยเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ เราจะมาพูดถึงเนื้อเรื่องกันก่อน สำหรับผู้ที่ไม่เคยดู และทบทวนความจำสำหรับผู้ที่ดูจบไปแล้ว โดยเนื้อเรื่องโดยย่อเกี่ยวกับสองนักมวยมือใหม่ต้องออกมาถลุงหมัดนอกสังเวียนเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม 

          เพราะหลังจากได้พบกันในการแข่งขันชกมวยรอบสุดท้าย นักมวยดาวรุ่งอย่างคิมกอนอู (รับบทโดย อูโดฮวาน) และนักชกคู่แข่งอย่างฮงอูจิน (รับบทโดย อีซังอี) ก็ได้สานมิตรภาพอันแน่นแฟ้น เนื่องจากทั้งคู่เคยผ่านประสบการณ์สุดทรหดในฐานะนาวิกโยธินมาเหมือนกัน

          ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่เพิ่งก่อตัวยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น เมื่อเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบจอมเจ้าเล่ห์หลอกให้แม่ของคิมกอนอูเป็นหนี้ และมาทำลายร้านกาแฟของเธอ 

          นั่นทำให้ฮงอูจินต้องยื่นมือเข้ามาช่วยแก้แค้น โดยด้วยความช่วยเหลือของประธานชเว (รับบทโดย ฮอจุนโฮ) ตำนานแห่งวงการเงินกู้ที่วางมือไปแล้ว 

           คิมกอนอูและฮงอูจินจึงได้นำฝีไม้ลายมือด้านหมัดมวยของตัวเองมาใช้ในโลกแห่งความจริง เพื่อโค่นผู้นำจอมโฉดของสไมล์ แคปปิตอลอย่างคิมมยองกิล (รับบทโดย พัคซองอุง) รวมทั้งบรรดาลูกน้องที่โหดเหี้ยมของเขา

          แม้ว่าพี่น้องคู่นี้จะเป็นนักมวยมือใหม่ แต่ความกล้าและความมุ่งมั่นที่มวยรองอย่างทั้งคู่สั่งสมมาจากสังเวียนการต่อสู้ อาจเป็นตัวพลิกเกมในศึกนองเลือดครั้งนี้ก็เป็นได้ เฉกเช่นเดียวกับหมาล่าเนื้อที่เมื่อได้งับเหยื่อแล้ว จะไม่มีวันปล่อยไปอย่างเด็ดขาด

          จะเห็นได้ว่าเพียงแค่เนื้อเรื่องก็มีความเดือดแล้ว ต่อไปเราจะพาไปรู้จักกับนักแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งก็ถือเป็นอีกจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย!

นักแสดงจาก Bloodhounds

          เริ่มต้นกันที่พระเอกของเราอย่าง อูโดฮวาน รับบทเป็น คิมกอนอู นักชกมวยดาวรุ่ง วัย 25 ปี อดีตนาวิกโยธิน ฐานะยากจนหนี้สินท่วมท้น 

          พ่อของเขาแพ้คดีหลังโดนเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ฝ่ายแม่ที่เปิดร้านกาแฟ ก็ต้องพบกับปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ดี อันเกิดจากโควิด 19 ส่งผลให้ต้องเป็นหนี้นอกระบบ 

          ตัวของกอนอูทำงานพาร์ทไทม์มากมาย ร่วมทั้งเป็นนักมวยขึ้นแข่งชกบนเวทีด้วย โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้ไปช่วยแม่ใช้หนี้ เขามีนิสัยซื่อ ๆ ชอบช่วยเหลือ เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน พูดน้อย (สำหรับช่องทางในการติดตามอูโดฮวาน สามารถติดตามได้ทางไอจี  @wdohwan)

          ตามมาด้วยพระรองอย่าง อีซังอี รับบทเป็น ฮงอูจิน  อดีตทหารเรือเก่า อายุ 27 ปี ลูกชายของอดีตนักกีฬาชกมวยที่เคยคว้าแชมป์เหรียญทองแดงโอลิมปิก มีนิสัยพูดมาก ติดหรู แต่จริงใจ ชกมวยเก่งแต่เป็นรองคิมกอนอู (สามารถติดตามอีซังอีได้ทางไอจี @leesangyi_)

          และจะขาดไปไม่ได้ สำหรับหนึ่งในตัวละครหลักที่คอยปิดทองหลังพระและช่วยเหลือกลุ่มของพระเอกมาจนตลอดรอดฝั่งอย่าง ฮอจุนโฮ ที่รับบทเป็น ประธานชเวแทโฮ เจ้าหนี้ใจดี พิการเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น 

          เขาเป็นผู้ที่ปล่อยเงินกู้ให้คนป่วยแบบไม่คิดดอกเบี้ย เพราะความกังวลต่อความปลอดภัยของหลานสาวฮยอนจู (คิมแซรอน) ที่กำลังสืบค้นกลุ่มหนี้นอกระบบ จึงว่าจ้าง คิมกอนอูและฮงอูจิน มาเป็นบอดี้การ์ดปกป้องดูแลหลานสาว (สามารถติดตามฮอจุนโฮได้ทางไอจี @huhjh_jcw)

          พูดถึงฝั่งพระเอกกันมาหมดแล้ว งั้นเรามาพูดถึงฝั่งของตัวร้ายกันบ้าง อย่างพัคซองอุง ที่รับบทเป็น คิมมยองกิล เจ้าหนี้นอกระบบที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดหลังประธานชเวพิการ 

          นอกจากนี้เขายังเป็นประธานบริษัทสไมล์แคปปิตอล ที่คอยลวงลูกหนี้ให้มาทำสัญญาหนี้ชีวิตกับเขาเป็นจำนวนมาก 

          เขาต้องการที่จะเปิดบ่อนในโรงแรม แต่ต้องใช้เงินมหาศาล จึงทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมาสร้างบ่อน (สามารถติดตามพัคซองอุงได้ทางไอจีต้นสังกัด @cjes.tagram)

นอกจากตัวละครหลักเหล่านี้ ทางซีรีส์ยังมีการขนนักแสดงสมทบมาอย่างล้นจอ ไม่ว่าจะเป็น

  • ชเวชีวอน (37ปี) รับบทเป็น ผู้อำนวยการฮง ทายาทแชบอลบริษัทอาอิลกรุ๊ป
  • อีแฮยอง (52ปี) รับบท ยางจุง อดีตนักฆ่าเลือดเย็น ลูกสมุนประธานชเว เก่งการใช้มีด ที่ผันตัวมาเป็นเชฟอาหารญี่ปุ่นในร้านที่ตัวเองเป็นเจ้าของ
  • รยูซูยอง (43ปี) รับบท ดูยอง อดีตนักฆ่า ลูกน้องประธานชเว
  • คิมมินแจ (26ปี) รับบท คิมแจมิน ตำรวจสืบสวน เจ้าหน้าที่ไอทีมือฉมัง

          หลังจากรู้ทั้งเนื้อเรื่องโดยย่อและตัวละครในซีรีส์ Bloodhouds กันแล้ว ถัดมาเราจะเข้าสู่เรื่องของความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้กันบ้าง

ความน่าสนใจของ Bloodhounds

การผูกเรื่องที่น่าสนใจ

          เริ่มต้นกันที่อย่างแรก คือการผูกเรื่องที่ชวนให้ติดตาม มีการผูกเรื่องราวให้คืบหน้าไปทีละนิด ด้วยการให้ตัวละครหลักสองคนต้องพัวพันกันด้วยมิตรภาพ โยงดราม่าแบบใจแลกใจ ด้วยการใส่สายสัมพันธ์ของการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องนาวิกโยธินของทั้งสองคน เข้าไปเป็นกิมมิกเล็ก ๆ ในเส้นเรื่อง 

          เนื่องจากตัวละครชเวอูจินรักความเป็นนาวิกจนเข้าเส้นเลือด เป็นการขายขำเล็ก ๆ สไตล์ซีรีส์เกาหลี แต่ก็เป็นการสร้างเหตุผลให้คนดูยอมรับกับความสนิทสนมของตัวละครเอกสองตัว ได้อย่างไม่ติดใจสงสัย

         ความคลั่งไคล้นี้ต่อเนื่องไปถึงตัวละครตัวอื่น ที่ความเป็นนาวิกด้วยกัน ทำให้เกิดการยื่นมือเข้าช่วยเหลือที่ง่ายมากขึ้นไปอีก ทั้งยังค่อย ๆ ต่อยอดเรื่องราวที่ลึกเข้าไปในเรื่องราวความแค้นของแก๊งเงินกู้นอกระบบอีกด้วย

บทมีความเข้มข้น ตัวละครมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน

         อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่าเรื่องราวเป็นการต่อสู้ระหว่างคนดีและคนชั่ว ทำให้มีการประจันหน้าของสองแก๊ง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่ใช่แค่นักเลงตีกัน แต่เป็นเรื่องราวดราม่าที่เข้มลึกกว่านั้น โดยที่ทั้งสองแก๊งต่างมีเพชฌฆาตประจำแก๊ง ที่มีฝีมือระดับพระกาฬอีกด้วย

          ตัวละครมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง มีดราม่าประจำตัวที่ทำให้เราสามารถอินไปกับเรื่องราวของแต่ละคนได้ จนกลายเป็นซีรีส์อาชญากรรมที่ฆ่าฟันกันอย่างน้ำตาเล็ด มีความอบอุ่นของความสัมพันธ์แทรกอยู่ในเนื้อหาตลอดเส้นเรื่อง ตามสไตล์ซีรีส์เกาหลี

ฉากแอคชั่นสุดมันส์

          เนื่องจากตัวซีรีส์เป็นซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้และแอคชั่นเป็นหลัก ทำให้มีฉากบู๊จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าพระเอกจะชนะเสมอไป เพราะทั้งพระเอกและตัวร้ายก็ผลัดกันแพ้ชนะ ทำให้ผู้ชมลุ้นไปตาม ๆ กัน 

          นอกจากนี้ตัวละครฝั่งร้ายยังมีหลายตัว เมื่อปะทะกันจึงเกิดเป็นคิวบู๊สุดมันส์ เป็นการต่อสู้ประชิดตัวที่ดุเดือด ทำออกมาได้กลมกล่อมตามสไตล์ซีรีส์เกาหลี ส่วนใหญ่เป็นซีนต่อยตีกัน ที่มีทั้งต่อสู้ตัวต่อตัวและหลายคน

         และเนื่องจากตัวละครหลักทั้งสองเป็นนักมวย จึงทำให้ฉากบู๊ไม่ใช่การต่อสู้กันแบบมั่วซั่ว เหมือนนักเลงตีกัน แต่เป็นการนำเอาศิลปะการต่อสู้มาประกอบทำให้เกิดความสมจริงมากขึ้นอีกด้วย

          รวมถึงโปรดักชั่นก็ยังอลังการงานสร้าง สามารถถ่ายทอดเล่าเรื่องออกมาได้ดี ชวนให้อินไปกับเหตุการณ์เป็นอย่างมาก

รีวิวซีรีส์ Bloodhounds จากผู้เขียน

          เนื่องจากผู้เขียนชื่นชอบกีฬามวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้สนใจในซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างมากตั้งแต่ที่ตัวซีรีส์ปล่อยตัวอย่างออกมา นอกจากนี้ตัวซีรีส์ยังมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการต่อสู้นอกสังเวียน รวมถึงเรื่องของความดีปะทะความชั่ว ซึ่งทำให้ผู้เขียนประทับใจในพาร์ทนี้เป็นอย่างมาก

          ฉากแอคชั่นสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี ดึงดูดให้เกิดความสนใจ และสิ่งที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือการปูเนื้อเรื่องให้ตัวเอกไม่ได้เก่งเว่อร์มาตั้งแต่ต้น เพราะในช่วงแรกพระเอกก็ยังโดนตัวร้ายอัดเป็นว่าเล่น ก่อนจะหันกลับมาออกกำลังกายและฝึกฝน จนกลับไปเอาชนะตัวร้ายได้

         ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผู้เขียนคิดว่าเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้รับชมได้เป็นอย่างดี ดูจบแล้วอาจจะอยากลุกไปสมัครฟิตเนสหรือออกกำลังกายเพื่อให้มีหุ่นสุดล่ำแบบพระเอกด้วยซ้ำ

          ตัวเอกยังมีคติประจำใจ ว่าพวกเขาเป็นนักมวย ไม่ใช่นักเลง พวกเขาพยายามต่อสู้เต็มที่ แต่จะไม่ทำให้ใครบาดเจ็บถึงตาย 

          อย่างไรก็ตาม ตัวซีรีส์ไม่ได้มีเพียงฉากบู๊ แต่ยังมีทั้งความตลก ดราม่า และความซาบซึ้งจากความสัมพันธ์ของตัวละครอย่างครบรส 

         ที่สำคัญคือซีรีส์เล่าได้สนุกน่าติดตาม พล็อตดี มีความลึกลับชวนค้นหา สำหรับผู้เขียนขอให้คะแนนซีรีส์เรื่องนี้ 9/10 ไปเลย ส่วน 1 คะแนนที่หายไป ก็จากการที่ตอนปลายของซีรีส์ค่อนข้างแผ่วไปเล็กน้อย และสามารถคาดเดาได้ง่ายจนเกินไป แต่นอกเหนือจากนั้นก็ถือว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่น่าติดตาม และพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด!

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

dramakapook

gqthailand

entertainmenttrueid

beartai

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube