การประชุมร่วมรัฐสภา วาระพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่สอง วุ่นวายทันที หลังพรรคเพื่อไทยยังคงเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคก้าวไกลต่อที่ประชุม ทำให้สมาชิกบางส่วน งัดข้อบังคับข้อ 41 ว่า ทำไม่ได้
ขณะเดียวกัน “พิธา” โชวสปิริตประกาศกลางที่ประชุม น้อมรับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ สส.ชั่วคราว พร้อมระบุ หลังเลือกตั้ง 14 พ.ค. ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ถือว่าชนะมาครึ่งทางแล้ว ขณะเพื่อนสมาชิกต่างปรบมือให้กำลังใจสนั่นห้องประชุม
การประชุมรัฐสภา วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม จากนั้น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ หลังการเสนอชื่อมีการประท้วงทันที จากนายอัครเดช มุ่งพิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกโต้แย้งว่า การเสนอชื่อของนายพิธานั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะชื่อของนายพิธา เคยเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อ 13 กรกฎาคม แล้ว แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบดังนั้น จึงถือว่าเป็นญัตติที่ตกไปแล้ว ดังนั้น การเสนอญัตติซ้อนอีกครั้งไม่สามารถทำได้ และขัดกับข้อบังคับที่มีสถานะเป็นกฎหมาย
โดยมีข้อโต้แย้งจากฝั่ง 8 พรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน อาทิ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เช่นเดียวกันว่า การหารือของนายอัครเดชนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นขั้นตอนของการเลือกนายกรัฐมนตรีตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม นายอัครเดช ยืนยันว่า การเสนอชื่อนายพิธาให้โหวตรอบ2นั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะจะขัดกับข้อบังคับข้อ 41 ทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลและมีทีท่าว่าบรรยากาศในที่ประชุมวุ่นวาย และใช้เวลาอภิปรายอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม เมื่อเวลา 11.50 น. ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้อง กรณี กกต. ให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ สส. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมถึงมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฎิบัติหน้าที่ สส.ชั่วคราว ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมโดยเฉพาะนายพิธา ได้ออกจากห้องประชุม จนเมื่อเวลา 12.05 น. นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภาลุกขึ้นอภิปรายแจ้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
สั่งให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ ถูก ส.ส.พรรคก้าวไกลประท้วง จนมีเหตุวุ่นวาย และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานการประชุมได้กล่าวด้วยน้ำเสียงโมโหว่า จะถกเถียงกันอีกกี่ครั้ง ตนเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ พร้อมขอให้นั่งลง ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ประท้วงนายกิตติศักดิ์ว่าในประเด็นคำวินิจฉัยของศาล ควรรอหนังสือราชการ อย่าใจร้อนหรือกระเหี้ยนกระหือรือ
หลังจากที่เกิดประเด็นวิวาทะระหว่างนายวิโรจน์และนายกิตติศักดิ์ พบว่า นายพิธาได้เดินกลับเข้าห้องประชุม และนั่งในเก้าอี้ประจำของตัวเอง
ขณะเดียวกัน ประธานการประชุมยังคงเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง เวลา 14.40 น. นายพิธา ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ภายหลังมีเอกสารจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตนเองยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรับทราบคำสั่งดังกล่าว โดยยืนยันว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอื่น
พร้อมฝากข้อความถึงประชาชน และอำลาประธานสภาฯจนกว่าจะพบกันใหม่ และหวังว่าสมาชิกรัฐสภา จะใช้รัฐสภาดูแลประชาชน และมั่นใจว่า หลังการลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว และชนะมาได้ครึ่งทางแล้วโดยขอให้ ส.ส. ช่วยกันดูแลประชาชนต่อไป
จากนั้น นายพิธา ได้ถอดบัตรประจำตัวแสดงตนวางไว้บนที่นั่งประจำตัวของตนภายในรัฐสภา โดยมี ส.ส.จาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ลุกขึ้นปรบมือดังกึกก้องห้องประชุมเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายพิธา ก่อนที่นายพิธา จะชูกำปั้นขวาเป็นสัญลักษณ์ และมีเพื่อน ส.ส.เข้ามาชนกำปั้น พร้อมจับมือให้กำลังใจก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมไป
ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ขอบคุณนายพิธา ที่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
