บทตัดแทรกภาพการแถลงตั้งรัฐบาลระหว่างเพื่อไทย(พท.) กับ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) วันนี้(7ส.ค.)กับการเลือก “เดินหน้า”ตั้งรัฐบาล212 หนุน “นายกฯเศรษฐา”
บทตัดแทรกภาพการแถลงตั้งรัฐบาลระหว่างเพื่อไทย(พท.) กับ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) วันนี้(7ส.ค.)กับการเลือก “เดินหน้า”ตั้งรัฐบาล212 หนุน “นายกฯเศรษา”ที่ยังมะรุมมะตุ้มกับปม “ภาษีที่ดิน”ที่ถูก “ชูวิทย์”นำมาแฉ ที่ พท. นาทีนี้ยังยินยัน ไม่เอาลุง โดยหนทางข้างหน้า เพื่อไทย“จะเสียทุกสิ่ง”อย่างที่ “วิโรจน์-ก้าวไกล”ว่าไว้ ทำนอง “ยอมเสียหน้าดีกว่าเสียงทุกสิ่ง”หรือไม่ยังต้องลุ้นในฉากต่อ ว่า การจัดตั้งหลังจากนี้ จะเป็นไปตามสคริปต์ “รัฐบาลช็อคมินต์”5 พรรคภท.,พลังประชารัฐ(พปชร.),
รวมไทยสร้างชาติ(รทสช.),ชาติไทยพัฒนา(ชทพ.),ชาติพัฒนากล้า,ที่ไปคุยกันที่พรรคเพื่อไทยเดิม หรือจะลดสอบตอบโจทย์การอธิบายการว่า “ไม่เสียสัตย์” โดยไม่มีลุงหรือไม่มี“พรรค2ลุง”คือ รทสช.ของ “ลุงตู่”กับ พปชร.ของ “ลุงป้อม”ที่ชักกลับมาฟิตลงพื้นที่ดูชาวบ้านพลุระเบิด หลังเพื่อน ตท.6 รุ่นฝนแรก จัดงานเบิร์ดเดย์78ขวบ11ส.ค.ล่วงหน้าให้ ที่สนามกอลฟ์ทบ.เมื่อวันเสาร์(5ส.ค.)
ที่ปรากฏ “บิ๊กป้อม”เปรย “ ปีนี้78ย่าง79กิจกรรมบางอย่างของผู้สูงอายุนอนแล้วอาจไม่ตื่นก็ได้ใครจะไปรู้ขอให้รักษาสุขภาพและรักกันไว้อย่างนี้”ที่นักข่าวสายทหารประเมิน “ลุงป้อม”ส่งสัญญาน ปลง หรือเปล่า หรือ ยังคงลุ้นเก้าอี้นายกฯอยู่มั้ย ท่ามกลางข่าว และเสียงเชียร์กลางอากาศจาก สว.อย่าง “สว.กิตติศักดิ์”ที่มองข้ามคนที่มีโอกาศเป็นนายกฯคนที่30 จาก “เศรษฐา”หรือ “อุ๊งอิ๊งค์”มาถึง “เสี่ยหนู”และปลายทางที่ “ลุงป้อม”แล้ว
กระนั้นในความเคลื่อนไหวจาก 4 เลื่อน ทั้ง “ทักษิณ”ที่ทวิตวันที่ 5 ส.ค.ว่ามีนัดหมอ ขอเลื่อนกลับไทย10ส.ค.ไปก่อนท่ามกลางข่าวดีลตั้งรัฐบาลไม่ลงตัว แต่ไปโผล่ร่วมเฟรมงานเบิร์ดเดย์ “ฮุนเซน”ที่เขมร กับ“ยิ่งลักษณ์”น้องสาว ที่กลายมาสู่ การเลื่อนโหวตนายกฯรอบ3 ของสภาจากวันที่ 4ส.ค.ออกไปหลัง16ส.ค. โดย อ้างการเลื่อนนัดฟังคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี “ญัตติซ้ำ”ไปวันที่ 16 ส.ค.ที่โยงกับการเลื่อนแถลงตั้ง “รัฐบาลเพื่อไทย”(3ส.ค.)ออกไป โดยอ้างการเลื่อนของสภาฯ ก็น่าสนใจในบางร่องรอยบางอย่าง
ไม่แต่แค่การยืนยันของพท. การตั้งรัฐบาล จะไม่มี 2 ลุง ที่ร้อยโยงมาสู่เหตุการณ์ก่อนการหารือแกนนำ2พรรคภท.-พท.วันนี้(7ส.ค.) หรือจะเป็น การยังคงทอดไมตรีจาก “แฟนเก่า”ที่ยังพร้อมรับการกลับมาเป็นเพื่อนกันอย่าง ก้าวไกลที่ย้ำการตัดสินใจพท.กลับสู่ สมการฝ่ายประชาธิปไตย141+151 อย่างที่ “วิโรจน์”เตือนประวัติศาสตร์การเมือง ฝ่ายอำนาจนิยมหรือฝ่ายอนุรักษ์นิยมเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยม
มีจุดแข็งการรวมตัวกันเหนียวแน่น และใช้ยุทธวิธีเดิม คือแบ่งแยกและปกครอง ตอนนั้นฝ่ายปชต.มี 312 เสียง งัดกับ 424 เสียงยังเหนื่อย ตอนนี้เหลือแค่ 141 เสียงเจอแค่ 188 เสียงยังหนาวแล้ว ตอนนั้นฝั่ง 188 เสียงไม่กล้าส่งเสียง เพราะเรามี 312 เสียง เขาจึงเรียกแบคหลังม่าน ขึ้นมาเติม ตอนนี้เขาไม่ส่งเสียงเพราะเจอแค่ 188 เสียงก็ตายแล้ว
น่าสนใจเช่นว่าในจังหวะภท.กำลังรวม พท.เป็น“สารตั้งต้นรัฐบาล”แม้ภาษากาย “เสี่ยหนู”วันนี้ จะดูชิลๆ ยิ้มแย้มสบายใจก่อนหน้าการเข้าไปคุยกับเพื่อไทย แต่ภาพที่ จู่ๆ เมื่อวาน(6ส.ค.) ปปช.ก็สั่งสอบปมคดีที่ดินเขากระโดงของ “ศักดิ์สยาม”หากพบผิดจะชงศาลฎีกานักการเมือง อันเป็นคดีที่ “ประเสริฐ”เลขาพท.เคยไปยื่นปปช. หลังจากก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญ เพิ่งสั่งให้ “ศักดิ์สยาม”หยุดปฏิบัติหน้าที่รมว.คมนาคม ในคดีถูกกล่าวหา ถือหุ้นบุรีเจริญที่มีผลประโยชน์ ในโครงการรัฐที่โยง รมต.ก็น่าคิด
เช่นกันในทิศทางที่ปปช.ถูกมองไปถึง1ใน2ลุง ว่า หรือถึงเวลาปลายทาง จะเป็นไปอย่างที่ “สว.กิตติศักดิ์”ประเมินว่า เมื่อเพื่อไทย เศรษฐา ถอนตัว อุ๊งอิ๊งค์-ชัยเกษม ไม่พร้อม มาถึงพรรคที่3 ภท.“เสี่ยหนู” ที่ก็อาจจะยังไม่พร้อม ก็ย่อมถึงเวลาของ “บิ๊กป้อม”ที่เป็นพรรคที่ 4 ภายใต้สถานการณ์บางอย่างที่จำเป็นต้องมี รัฐบาลสมานฉันท์หลังความไม่สงบหรือไม่.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
