อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำเสนอแผนพัฒนาบึงสีไฟให้เป็นแหล่งน้ำเพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว
นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ, นายพิศ วิริยะอารีธรรม ประธานสภา อบจ.พิจิตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมหลวงพ่อเพชร ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อรับฟังแนวทางการฟื้นฟู และ อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำบึงสีไฟ จากนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ที่เสนอกรอบแนวทางการออกแบบโครงการอนุรักษ์ และ ฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำบึงสีไฟ ให้สอดคล้องกับระบบนิเวศ
โดย นายรังสรรค์ กล่าวในที่ประชุมว่าบึงสีไฟ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางเมืองพิจิตร มีเนื้อที 5,300 ไร่เศษ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กรมเจ้าท่าได้ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อทำการขุดบึงสีไฟแล้วนำดินมากองรอขาย ซึ่งขณะนี้ดำเนินการขายดินและขนย้ายดินส่งมอบให้กับผู้ซื้อได้เกือบหมดแล้ว
ขั้นตอนต่อไปที่ชาวพิจิตรมุ่งหวัง นั่นคือการปรับภูมิทัศน์ ทำถนนรอบบึงสีไฟ เติมน้ำเข้าบึงสีไฟเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังขอมีเพียงว่าบึงสีไฟ มีน้ำ มีปลา มีดอกบัว ที่สวยสดงดงาม มีทางจักรยาน มีที่ออกกำลังกายและมีอากาศบริสุทธิ์ ต้องการแค่นี้ไม่ต้องการสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตให้เป็นภาระต่อการดูแล อีกทั้งบึงสีไฟต่อไปคงเป็นแหล่งน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศและการท่องเที่ยวเท่านั้น
ซึ่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า การมาร่วมประชุมในครั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำ มีเป้าหมายในการพัฒนาบึงสีไฟอยู่ 3 ส่วน คือ
- บึงสีไฟจะทำอย่างไรให้มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีคุณภาพน้ำที่ดี มีทิวทัศน์รอบๆบึงสีไฟให้สอดคล้องรับกับแนวทางการอนุรักษ์ฟื้นฟูบึงสีไฟ
- บึงสีไฟต้องเป็นแหล่งน้ำเพื่อประโยชน์ที่มนุษย์จะใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา หรือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจการดำเนินการเป้าหมายจะไม่ขุดดินออกจากบึงสีไฟอีกแล้วแต่อาจขยับเคลื่อนย้ายดินทำเป็นเกาะมีนิเวศ มีน้ำลึก น้ำตื้น เพื่อดึงธรรมชาติกลับมา ให้มีนก มีปลา มีดอกบัว ตามที่ชาวพิจิตรต้องการ
- การพัฒนาบึงสีไฟต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยคนพิจิตรต้องยอมรับเพื่อนำเข้าเสนอ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติโดยผ่าน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news