Home
|
ไลฟ์สไตล์

17 สิงหาคม วันยกย่องแมวดำกับตำนานความเชื่อ ทั้งโชคดีและโชคร้าย

Featured Image

          “แมวดำ”ใครก็ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้ายหรือความตาย เพื่อไม่ให้น้องๆน้อยใจ ทุกวันที่ 17 สิงหาคม ของทุกปีจึงมีการจัดให้เป็น “วันยกย่องแมวดำ” หรือ “Black Cat Appreciation Day” เพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงคุณค่าของแมวดำเฉกเช่นกับแมวสีอื่น ๆ แต่ความจริงแล้วแมวดำ ก็เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีอยู่ด้วยนะ จะมีเรื่องเล่าของน้องแมวดำอะไรกันบ้าง มาดูกันเลย เมี๊ยววว ✨

          ต้องบอกไว้ก่อนว่าแมวดำนั้นไม่ได้ต่างอะไรกับแมวสีอื่นๆที่นิยมเลี้ยงกันเลย ทั้งการมีต้นตระกูลมาจากเสือไซบีเรียนเหมือนกัน ลักษณะสรีระทางร่างกายที่คล้ายกัน จะแตกต่างก็เพียงสายพันธุ์และ“สีขน” และด้วยเหตุผลที่พวกแมวเหล่านี้มีขนสีดำมาตั้งแต่เกิดนี้เอง พวกมันจึงมักถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่จะนำความโชคร้ายมาสู่ผู้เลี้ยง น้องๆมักถูกขับไสไล่ส่ง ถูกทิ้ง รวมไปถึงถูกทำร้าย การที่พวกน้องโดนเพิกเฉยและปฏิบัติใส่อย่างโหดร้ายแบบนี้ ทำให้แมวดำส่วนมากไม่กล้าเข้าหามนุษย์ หนำซ้ำเราอาจจะได้เห็นแผลเหวอะหวะตามร่างกายของแมวดำที่บ่อยครั้งอาจมีสาเหตุมาจากมนุษย์อีกด้วย

แมวดำสัญลักษณ์แห่งความโชคร้าย?

          จุดเริ่มต้นของความเชื่อว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย มีตั้งแต่ในตำนานกรีกโบราณมีการเล่าขานตำนานกำเนิดเฮอร์คิวลีส ว่าเฮอร์คิวลีสเป็นลูกชายของเจ้าหญิงอัลค์เมนี และเทพเจ้าซูส ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในความเจ้าชู้ และชายาขี้หึงอย่างเฮรา ในตอนที่เจ้าหญิงอัลค์เมนีกำลังท้อง เฮราที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังได้ปฏิญาณตัวเองว่าจะขัดขวางไม่ให้เจ้าหญิงอัลค์เมนีคลอดลูกได้ แต่ผู้รับใช้คนหนึ่งของอัลค์เมนี รู้ทันแผนของเฮราและขัดขวาง ด้วยความโกรธเฮราจึงสาปให้ผู้รับใช้คนนั้นกลายเป็นแมวดำ และส่งให้ไปรับใช้เทพธิดาแห่งเวทย์มนตร์และความตายเฮตาเคแทน

          แม้ว่าผู้รับใช้ผู้นั้นจะเป็นคนดีก็ตาม แต่การที่ถูกอวตารเป็นแมวดำ คอยรับใช้เฮตาเคผู้เป็นเทพธิดาแห่งความตาย ก็ทำให้ภาพลักษณ์ของแมวดำเป็นตัวแทนของการดับสูญอย่างเลี่ยงไม่ได้

          เมื่อเข้าสู่ยุคกลาง สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 11 (Gregory XI) ได้เผยแพร่เอกสาร “Vox in Rama” เอกสารนี้เผยแพร่ปี ค.ศ. 1233 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบูชาปีศาจ ในเอกสารนั้นพระสันตะปาปาอ้างว่าแมวดำเป็นอีกตัวตนของ”ซาตาน” และเหตุนี้เองทำให้ผู้คนเริ่มไล่กำจัดแมวดำ ประกอบกับขณะนั้นคริสตจักรพยายามกำจัดลัทธินอกศาสนาหรือพวก “เพแกน” (Paganism) สถานการณ์ของแมวดำก็ยิ่งเลวร้าย

          ด้วยความที่เพแกนบูชาพระจันทร์และมักจะประกอบพิธีกรรมในตอนกลางคืน พวกเขาถูกทำให้ดูเหมือนเป็นพวกแม่มด และแมวที่เป็นสัตว์กลางคืนก็ถูกนำไปเหมารวมด้วย หญิงสาวที่มีพฤติกรรมผิดแผกจากค่านิยมสังคมและแมวดำจึงถูกตีตราบาป โดนไล่ล่าโดยคริสเตียนผู้มีศรัทธาอย่างแรงกล้า(เกินไป) เข้าสู่ช่วงล่าแม่มด หรือ ยุคมืด (Dark Age) อย่างแท้จริง

          ส่วนความเชื่อของฝั่งไทยที่มีความเชื่อกันอยู่แล้วว่า “สีดำ”เป็นสีที่อัปมงคล นำมาซึ่งความโชคร้ายและเป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย อีกทั้งได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ ในยุคที่ความรุ่งเรืองในการเจรจาค้าขายกับต่างประเทศ อย่างประเทศจีนที่เชื่อกันว่าหากแมวสีดำได้กระโดดข้ามศพใดแล้ว ศพนั้นจะคืนชีพกลายเป็นผีร้ายคอยหลอกหลอนชาวบ้านคนอื่น ซึ่งในประเทศจีนจึงมีการแก้เคล็ดเรื่องนี้ด้วยการเอากรรไกรหรือเหล็กวางไว้บนอกศพ เพื่อเป็นการสะกดวิญญาณไม่ให้ลุกขึ้นมา หรือที่ยังหลงเหลือมาจนวันนี้ก็คือใครก็ตามที่เห็นแมวดำข้ามเส้นทางหรือตัดหน้า อาจจะเป็นลางให้เจอกับเรื่องโชคร้าย 

         แต่จะมีใครรู้ไหมว่าความเชื่อของแมวดำมีด้านที่นำโชคอยู่อีกด้วย

 

“แมวดำนำโชค”

          ความเชื่อเรื่องแมวดำใช่ว่าจะมีแต่เรื่องร้ายๆ หรือความตายเสียอย่างเดียว แต่ยังมีความเชื่อเรื่องของโชคลาภ และเป็นตัวแทนของเทพผู้ยิ่งใหญ่

          ในสมัยอียิปต์โบราณ ชาวอียิปต์รักและให้ความสำคัญกับแมวดำมาก ถึงขนาดมีกฎว่าใครฆ่าแมวจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก เพราะด้วยแมวดำลักษณะคล้ายคลึงกับ “เทพีบาสท์” (Bastet) จึงได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของเทพ ทั้งในด้านการปกป้องและนำพาสุขภาพที่ดีมาให้ รวมถึงยังได้รับการยกย่องให้เป็นผู้พิทักษ์สตรี เทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์และการคลอดบุตรด้วย

          ขณะที่ชาวไอริช และชาวสก็อตแลนด์ มีความเชื่อว่าการเดินทางร่วมกับแมวดำจะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่บ้าน

          ส่วนในไทยที่ดูยี้กับแมวดำนัก  คนเฒ่าคนเเก่ที่มีความเชื่อเสมอว่าแมวดำจะนำความโชคร้ายมาให้ซึ่งเป็นความเชื่อที่ดูไร้เหตุผล แต่ความจริงแล้วในสมัยโบราณของไทย ก็มีความเชื่อว่าแมวดำจะนำโชคลาภมาสู่เจ้าของอีกด้วย  เพราะ หากเรายึดตามหลักฐานในตำราโบราณ ทั้งตำราดูแมวสมัยอยุธยาหรือที่บันทึกบนสมุดข่อยในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ของไทยแล้ว จะพบว่าคนไทยสมัยก่อนเชื่อกันว่าแมวดำเป็นแมวที่บันดาลโชคลาภและเงินทองให้กับผู้เลี้ยงได้เช่นกัน ดังโคลงกลอนหลายบทที่กล่าวไว้ว่า 

 

“แมวดำปลอดตลอดล้ำนั้น เลี้ยงไว้จะดีเป็น เสรฐีมีทรัพย์หลาย”

          และในตำราแมวมงคล 17 ชนิดของไทย ก็มีแมวหลายชนิดที่เป็นสีดำ และสรรพมงคลที่นำพา โชคลาภ ความสุข ความเจริญ ให้แก่เจ้าของ

         เห็นได้ว่าความเชื่อผิดๆ มักทำร้ายเพื่อนร่วมโลกมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่น้องแมวดำ ที่ถูกทำร้าย ขับไสไล่ส่ง แต่ยังมีคนเชื่อว่า”งาช้าง”จะให้ความเป็นสิริมงคลกับผู้ที่ครอบครอง ทำให้เกิดการฆ่าช้างเอางากันมากมาย หรือจะเป็นความเชื่อที่ว่า”หนัง”ของสิงห์สาราสัตว์ จะมีสรรพมงคลให้แก่เจ้าของ ซึ่งความเชื่อเหล่านี้แล ที่ทำให้เพื่อนร่วมโลกทั้งหลายต้องถูกทำร้ายเพียงเพราะ ความเชื่อ ความต้องการผิดๆของมนุษย์นี้เอง

          เพราะฉะนั้นวันที่ 17 สิงหาคม ของทุกปี จึงเป็นวันยกย่องแมวดำ เพื่อให้คนได้ตระหนักว่าแมวดำไม่ได้นำพาความชั่วร้าย เลิกสร้างความเชื่อค่านิยมผิดๆให้น้องเหมียวสีดำได้แล้ว รวมไปถึงเลิกให้ค่านิยมของสัตว์ชนิดอื่นในทางผิดๆอีกด้วย

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ขอบคุณข้อมูล

PPTVHD36

Silpa-Mag

Arts Chulalongkon

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube