“สมชาย” ย้ำ สว.ต้องตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯ ตามหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ตัวถ่วงการตั้งรัฐบาล ขณะยินดีต้อนรับ “ทักษิณ” กลับไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เชื่อไม่มีนัยทางการเมืองที่เลือกกลับวันโหวตนายกฯ แต่ยอมรับได้ข่าวปิดดีลที่สิงคโปร์
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ว่า รอดูการแถลงของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ก่อนว่าจะเสนอใคร ถ้าเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ก็พิจารณาไป ซึ่งต้องฟังคำแถลง ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่อย่างไร มีพฤติกรรมทางจริยธรรมเหมาะสมหรือไม่ เราก็ตรวจสอบคุณสมบัติตามหน้าที่
ถ้าวันนี้นายเศรษฐา มาแถลงข่าวด้วยก็จะดี เหมือนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตพรรคก้าวไกลมาแถลง เราจะได้ให้นักข่าวซักถามแทน เพราะข้อกล่าวหาก็แรงอยู่ แต่ก็ต้องฟังคำชี้แจงด้วย ให้ข้อมูลกับ สว.ซึ่งจำเป็นจะต้องอธิบาย ฃเพราะภายภาคหน้าจะมีปัญหาความซื้อสัตย์สุจริตหรือไม่ โดยตนตั้งหลักเกณท์ไว้ 4 ข้อ คือ ซื่อสัตย์สุจริต มีวิสัยทัศน์ รอบรู้ และสร้างแรงบันดานใจ เพราะฉะนั้นถ้าตกข้อใดข้อหนึ่ง ก็ไม่โหวตให้
แต่ถ้าตอบได้และปฏิเสธข้อกล่าวหา ชี้แจงเรื่องที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ กล่าวหาเรื่องบริษัทนอมินี โดยเฉพาะเรื่อง รปภ.กับแม่บ้าน ซื้อที่ดินทองหล่อ ที่เห็นตามเอกสาร ก็ยังไม่เป็นคำอธิบายที่ชัดเจน โดยเรื่องนี้กระทบไปถึงในอนาคต ผู้นำจะต้องไม่ฉ้อราชบังหลวง ถ้าชี้แจงได้ตนเชื่อว่า สว.ก็ให้ผ่าน แต่ถ้าชี้แจงไมได้ สว.ก็ไม่ให้ผ่าน ซึ่งก็คือคุณสมบัติของตัวบุคคล แต่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ให้ สว.ดูองค์ประกอบอื่นด้วย
นอกจากนี้ยังต้องนโยบายร่วมของแต่ละพรรค เพราะแต่ละพรรคหาเสียงกันคนละทางคนละแบบ จะมาปรับ มาหลอมรวม ให้ถือว่าเป็นสลายขั้ว เพื่อประเทศชาติ เพื่อความมั่นคงของรัฐ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินหน้าประเทศไปอย่างไรก็แถลงไปร่วมกัน ส่วนสิ่งที่กลัวแต่ก็เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็มีคำตอบ คือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่สามารถแก้ไขได้รายมาตรา ประหยัดเงินด้วย ที่ไม่จำเป็นต้องไปทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ สามารถแก้ไขโดยใช้ผลการศึกษาของกรรมาธิการจากทั้งฝั่ง สส.และ สว. โดยไม่ต้องตั้ง สสร.มาร่างฯ ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นใครมาจากไหน
ทั้งนี้ ตนขอเสนอว่า ถ้าอยากให้การโหวตให้ผ่านไปด้วยความเห็นชอบ ก็ไม่จำเป็นจะต้องแถลงว่าเป็นวาระแห่งชาติ วาระแรก ในการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แต่การล้มรัฐธรรมนูญและร่างใหม่โดยไม่มีกำหนด เขียนขึ้นมาใหม่ มาตรา 112 ที่เป็นกังวล เจอแค่ตัดมาตรา 6 มาตราเดียว ใหญ่กว่ามาตรา 112 เป็นร้อยเท่า มาตราอื่นๆใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ใช้กับคณะกรรมการองค์กรอิสระถูกเซ็ตซีโร่หรือหายไปหมด มาตราเรื่องการปฎิรูปอาจจยกเลิกไปก็ได้
แต่ถ้าบอกว่าเขียนใหม่แล้วไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างที่ผมว่า คำถามคือจะเขียนใหม่ทำไม ในเมื่อรัฐธรรมนูญแก้ไขได้” นายสมชายกล่าว และย้ำว่าส่วนตัวไม่เคยมีปัญหากับพรรคเพื่อไทย ไม่เคยปฎิเสธว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และไม่เคยมีปัญหากับพรรคก้าวไกลในตอนที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ พรรคเพื่อไทยก็เสนอได้ 3 รายชื่อ ตามบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ถ้าไม่ได้นายเศรษฐาก็คงไม่ไปไกลถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ตามขั้นตอน ตามรัฐธรรมนูญถ้าไม่เสนอชื่อ 3 คนของพรรคเพื่อไทย ถึงจะไปชื่อของคนอื่น เหมือนตอนที่เคยไปชื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สว.อยากเห็นรัฐบาลใหม่เดินหน้าประเทศ สว.ไม่อยากเป็นแพะ เป็นอุปสรรค ในการไปถ่วงการจัดตั้งรัฐบาล
นอกจากนี้ นายสมชาย ยังกล่าวถึงการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ว่าตนเห็นด้วย ถ้าเข้าสู่ระบบราชทัณฑ์ไปรับโทษและจะไปขอพระราชทานอภัยโทษอย่างไร ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่สังคมก็จะรู้สึกว่าเดินหน้าไปได้
ส่วนที่นายทักษิณกลับมาในวันโหวตนายกรัฐธรรมนูญมีนัยยะทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่าไม่มีนัยยะ เพราะนายทักษิณสามารถกลับได้อยุ่แล้ว เพราะเป็นคนไทย เพียงแต่ที่ผ่านมา บอกว่าจะกลับหลายครั้งก็ไม่ทำ ซึ่งมองว่าไม่มีผลอะไรกับการโหวตนายกรัฐมนตรี ในสภาก็ว่ากันไป นายทักษิณ ยอมเข้ากระบวนการก็ถือว่าทุกอย่างประนีประนอม ถือว่าสลายขั้วอย่างแท้จริง
ส่วนที่มีข่าวไปปิดดีลที่สิงคโปร์ หรือไม่นั่น นายสมชาย กล่าวว่า ก็ได้ข่าวว่า มีคนบอกว่าคุยกันที่สิงคโปร์ก็มีจริง ก็รอฟังแถลงในบ่ายวันนี้ว่าที่คุยกันมาจะจบอย่างไร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
