ชาวประจวบฯ ผวาแรงงานเมียนมา หนีเข้าเมือง ติดโควิด 4 ราย สั่งกักตัวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกลุ่มเสี่ยง กว่า 200 ราย
นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด( สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ แถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 จากการระบาดระลอกใหม่พื้นที่ จ.ประจวบฯ เพิ่มอีก 5 ราย
เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมือง 4 รายและเด็กชายวัย 4 ขวบที่ อ.หัวหิน 1 ราย สำหรับแรงงานเถื่อนทั้งหมด 4 ราย ติดเชื้อภายหลังเจ้าหน้าที่จับกุมได้พร้อมกับชาวเมียนมา 32 ราย เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่ หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ต.อ่าวน้อย อ.เมืองฯ ขณะนี้รักษาตัวที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์
จากการตรวจสอบไทม์ไลน์พบว่า หลังการจับกุมมีการนำแรงงานเถื่อนไปฝากขังกระจายไปยัง สภ.เมืองประจวบฯ สภ.อ่าวน้อย และเรือนจำประจวบฯ ทำให้มีเจ้าหน้าที่เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 128 คน โดยรวมผู้สัมผัสเป็นผู้ต้องหาขังรายอื่น ในเรือนจำ 29 ราย แต่เบื้องต้น ทั้งหมดตรวจไม่พบเชื้อ ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำมี 116 คน แพทย์แนะนำให้เฝ้าดูอาการ
ขณะที่เด็กชายอายุ 4 ขวบไม่มีอาการป่วย ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 มีความสัมพันธ์เป็นพี่ชายของเด็กหญิงอายุ 2 ปีซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 3 เดินทางจาก จ.สมุทรสาคร มาเยี่ยมญาติที่ อ.หัวหิน ขณะนี้พักรักษาตัวที่ รพ.หัวหิน ต่อมามีการตรวจสารคัดหลั่งผู้สัมผัสใกล้ชิด 4 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเมียนมา ยอมรับว่ามีโอกาสจะพบผู้อพยพเข้ามาในพื้นที่ แต่จังหวัดมีมาตรการรับมือ
โดยมีการสำรวจสถานที่เพื่อรองรับผู้อพยพ หากเข้ามาในช่องทางด่านสิงขร กำหนดสถานที่ที่วัดรัตนวิเวก ต.คลองวาฬ อ.เมืองฯ รองรับได้ 800-1000 คน ช่องทางป่าละอู ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.3 (ห้วยป่าเลา) ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน รองรับได้ 500-600 คน ช่องชี ที่วัดห้วยตะเคียน บ้านห้วยตะเคียน ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน รองรับได้ 200-300 คน และช่องทางเขาตีนเป็ด ที่วัดบางเจริญ บ้านบางเจริญ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย รองรับได้ 800-1000 คน” การติดเชื้อของแรงงานเถื่อนไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
