เตย บอกความในใจด้วยน้ำตาต่อหน้า ปั้บ คิดกลัวตัวเองดีไม่พอที่จะยืนอยู่ข้างๆ พร้อมเล่ามรสุมที่ทั้งคู่ร่วมกันฝ่าฟันมาจนได้มาเจอความสุขที่แท้จริงคือ คำว่ารักแท้
เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่หวานไม่มีแผ่ว สำหรับปั๊บ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข หรือ ปั๊บ โปเตโต้ และ ใบเตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ ที่ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 พร้อมเปิดใจเล่าเรื่องราวความรักของตัวเองที่ได้เจอมาจนได้มาเจอกัน และนำบทเรียนของความรักทุกครั้งที่ทั้งคู่ได้เจอมานำมาปรับใช้ในรักครั้งนี้ พร้อมเล่าเรื่องราวข่าวเรื่องมือที่สามให้หายคล่องใจ นอกจากนั้น เตย ยังได้เปิดใจพูดทั้งน้ำตาต่อหน้า ปั้บ ว่าเคยคิดว่าตัวเองดีไม่พอที่จะยืนอยู่ข้างๆและเปิดท้ายด้วยเพลงเพราะที่ ปั้บ ร้องได้ซึ้งทำให้อินกันทั้งรายการกับเพลง ยังมีฉัน
ถาม ซึ่งก็ถือว่าเป็นช่วงเริ่มต้นที่เราทั้งคู่รู้จักกัน แล้ว เตย รู้ไหมว่าเขาไม่ใช่ พี่ปั้บ คนเดิมที่เคยคุยด้วย แต่วันนี้เขาเริ่มมีพลังงานบางอย่าง
ปั้บ : ใช่ครับ ผมก็ได้จัดการตัวเองในแบบที่ผมแฮปปี้ในระดับหนึ่ง (คือได้เคลียร์เรื่องเก่าๆ) ใช่ครับ ถึงมันจะไม่ใช่ ถึงมันจะคุย ก็ไม่ได้เกี่ยวแล้วตัวเราเองก็จะเดินหน้าต่อ
เตย : ถามว่ารู้ไหมว่าเขาไม่ใช่ พี่ปั้บ คนเดิมรู้ค่ะ หนูรู้อยู่แล้วเอาจริงๆหนูกับ พี่ปั้บ ค่อนข้างคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเขาจะไม่ได้เป็นผู้ชายที่หยอดนะ เขาจะไม่ใช่คนแบบนั้น แต่เวลาที่เราคุยกันเขาจะเป็นคนที่ Deep taik นิดเพราะฉะนั้นเราเลยรู้สึกว่าพี่เขาน่าจะมีความตั้งใจที่จะอยากคุยกับเราจริงๆ
ปั้บ : ไม่ได้คุยในเชิงที่ว่ากินข้าวกันไหม ไปกินขนมกันเราไม่ได้คุยกันแบบนั้น แต่เราคุยกันแบบว่าชีวิตเป็นยัง ความคิดเป็นอย่างไร ทัศนคติเป็นยังไง อันนี้พูดแบบเป็นภาพรวมนะครับ
ถาม บังเอิญเราเป็นคนที่อยู่ในสปอร์ตไลฟ์ก็คือมีคนนั่งนับไทม์ไลน์ ก็ต้องยอมรับตอนนั้นก็มีกระแสอะไรมากมายเกิดขึ้น
ปั้บ : ผมเข้าใจครับ ผมเข้าใจจริงๆแล้วก็นั่งคุยกับ เตย บอกว่าเราต้องอยู่กับความจริงนะ ก้อนหินยังโดนว่าเลยแล้วเราเป็นใครบางทีเรามีบางอย่างที่มันอธิบายเป็นคำพูดมันก็จะดูเป็นการแก้ตัวสุดท้ายเราอยู่กับความจริงนี่แหละ เราก็จริงใจเราก็เป็นแบบนี้จะให้เราทำยังไง (ตอนนั้นเจอคอมเมนต์อะไรเยอะไหม) เยอะมากเลยครับ เขาก็เข้ามาคอมเมนต์ในหน้าส่วนตัวของเขาเอง แต่เขาไม่ได้เขามาในพื้นที่เรา เราก็จะรู้อยู่แล้วเราก็บอกครอบครัวว่ามันคือความจริง คือเรากลัวว่าคนอื่นว่าเราแต่ในความจริงเราต้องรักกันเพราะสุดท้ายในชีวิตจริง เราไม่ได้อยู่ในนั้นอย่างเดียว มันไม่อยู่ในโทรทัศน์หรือในโซเซียลอย่างเดียว เรายังมีอีกโลกอีกจักรวาลหนึ่งที่เราต้องดำเนินชีวิตด้วยกันเราก็อยู่กับตรงนี้ดีกว่า แล้วเอาตรงนั้นวางไว้
ถาม ในมุมของ ปั้บ เขาอาจจะแข็งแรงกว่าเพราะเป็นผู้ชาย แต่ในมุมของ เตย ที่เป็นผู้หญิง แล้ววันหนึ่งมีคนมาว่าเรารู้สึกยังไงบ้าง
เตย : ถามว่าโกรธไหมมันไม่ได้โกรธ แต่ถามว่ารู้สึกไหมเรารู้สึกค่ะ แต่แค่ว่าเรามานั่งอธิบายเรื่องแบบนี้อะไรมากๆมันเหมือนเป็นการแก้ตัวหรือเปล่า
ปั้บ : ผมยังมานั่งคิดอยู่ว่าทำไมเขาไม่เรียกผู้ชายว่ามือที่สามบ้าง คือ ทำไมหวยมันถึงต้องไปออกที่ผู้หญิง คือจริงๆแล้วมันต้องมาออกที่เราก็ได้นี่
เตย : ตอนนั้นจริงๆแล้วได้พี่ปั้บ ที่ช่วย เตย ได้เยอะมากเราก็เก็บอารมณ์ไว้ก่อนแล้วเรามาแจกแจงว่าสิ่งที่เราต้องโฟกัสตอนนี้คืออะไร ครอบครัวงั้นเราก็ไปโฟกัสที่ครอบครัว งั้นเราก็ไปคุยกับที่บ้านซะว่ามันคืออะไร สิ่งที่เราอธิบายได้มันก็เป็นการอธิบายให้คนในครอบครัวหรือคนที่ใกล้ตัวเราที่สุดได้เข้าใจเราก่อนเรื่องอื่นคือต้องใช้เวลาจริงๆในการพิสูจน์ แต่ถ้ามามองในเรื่องคอมเมนต์หนูไม่ได้รู้สึกโกรธเท่ากับไปแตะครอบครัว
ถาม กับความรักที่เราเจอมามากมายทำให้ทัศนคติหรือความคิดของเราที่มีกับความรักเป็นยังไง แล้วพอเราทั้งคู่ตัดสินใจเป็นแฟนกันคบกันครั้งนี้เรารู้สึกว่าพิเศษกว่าทุกครั้งไหม แล้วเคยมองมาถึงอนาคตในตอนนี้ไหม
ปั้บ : ผมเต็มที่เสมอครับกับทุกความรัก ถามว่ามองอนาคตมาไกลถึงขนาดนี้ไหมที่มีเมียอย่างเป็นทางการอย่างนี้เหรอครับ ไม่คิดหรอกครับ แต่สิ่งที่เขาทำให้ผมเบิกบาน ผมไม่ค่อยมีแฟนแล้วเหมือนเบิกบานข้างในใจ เหมือนทุกครั้งที่เห็นก็จะรู้สึกดี ทุกครั้งที่ไม่ต้องพูดอะไร แอบดูก็มีความสุข ทุกครั้งที่เห็นเขาร้องไห้หรือเหนื่อยกับชีวิต เราก็ไม่ได้อยากจะเข้าไปฉันจะช่วยเธอเองเดี๋ยวฉันจะดูแลเองมันไม่ใช่นะครับ แต่เราเหมือนเห็นชีวิตอีกคนที่เราเห็นเขาเราก็แฮปปี้แล้วครับ อันนี้ที่ต่าง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง มันไม่มีทฤษฎี หรือว่าต่อให้มีความรักมา 100 ครั้ง แต่ละครั้งมันก็ไม่เหมือนกันครั้งนี้มันพิเศษที่ที่มันไม่เหมือนกับครั้งอื่น (เตย น้ำตาไหล ซึ้งในสิ่งที่ ปั้บ พูด) เหมือนมันไม่ได้เกิดจากการที่เราคิดว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ผมไม่มีแผนอะไรในชีวิต สำหรับเรื่องความรัก
ถาม ด้วยความที่แฟนเราอายุเยอะกว่าเรา 11 ปีมันมีปัญหาความแตกต่างระหว่างวัยไหม
เตย : ในความรู้สึก เตย คือเขาเอ็นจอย กับทุกๆโมเมนต์ของหนูเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่บ้าบอที่สุด หรือ เรื่องที่เครียดมากที่สุดเขาอยู่ข้างหนูได้ตลอดเวลาเลย จนกระทั่งบางทีเราจะอยู่ข้างๆเขาได้ดีจริงหรือเปล่า (เตยร้องไห้) คือหนูค่อนข้างที่จะคิดเยอะเวลาเขาเจอปัญหาหรืออะไร เราก็จะ … หรือว่าจริงๆเรายังดีไม่พอหรือเปล่าที่จะอยู่ข้างๆเขา ช่วยเขาแก้ปัญหาต่างๆซึ่งสุดท้ายแล้ว หนูก็แอบคิดคนเดียวนะคะ ก็ไม่เคยพูดกับเขาเหมือนกันเพราะเราไม่อยากเอาเรื่องพวกนี้ไปเพิ่มความหนักใจให้เขา แต่สุดท้ายเราก็เหมือนก็มานั่งคุยกันแล้วก็กลับไปที่วันแรกที่เราคุยกันก็คือว่า จริงๆแล้วเราและเขาอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกสบายใจแค่นี้ก็พอแล้ว เราไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายชีวิตหรือปัญหาอะไรของเขาได้เลย พอมันถึงจุดนั้นจริงๆแล้วเราก็เข้าใจแล้ว เรากลับมาทำหน้าที่ของเราคือเราทำหน้าที่ทำให้เขาสบายใจมากที่สุดแค่นั้น (มันจะรอดไหม) จำไม่ได้ตอนนั้น เหมือนน้อยใจตัวเอง หรือว่าคิดมากไปคนเดียว
ปั้บ : ผมว่าเป็นเพราะผมด้วยนะ เพราะว่าผมเป็นประเภทชอบกดดัน แต่ไม่ได้มีเจตนากดดันนะ เหมือนเราชอบตั้งคำถามเกี่ยวกับความรู้สึก
เตย : ใช่ค่ะหนูว่าข้อดีอย่างหนึ่งที่ทำให้เราทะเลาะกันน้อยมากเลย คือ เราเอาอดีตมาเป็นบทเรียนเพราะฉะนั้นตอนนี้เรามีอะไร เราคุยกันเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยที่สุดหรือเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุด เราต้องคุยกันและต้องคุยกันให้จบและเราจะไม่ปล่อยเวลาแบบสาววัน เดี่ยวเราค่อยมาคุยกันเราจะไม่เราจะตั้งสติคุยให้มันจบเร็วที่สุด หาข้อสรุปให้เร็วที่สุด
ถาม คบกันนานแค่ไหนถึงคิดถึงเรื่องแต่งงาน
ปั้บ : 2-3 ปี ก็คิดถึงเรื่องแต่งงานเลยครับก็เพราะว่าอยากทำให้มันเป็นทางการเท่านั้นเอง
ถาม ความตั้งใจของคนทั้งคู่ที่คิดว่าเราน่าจะเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยกันก่อนแต่งงาน ทั้งสองคนตั้งสินใจอยู่ก่อนแต่ง
ปั้บ : ไม่ได้ตัดสินใจเลยครับมันเป็นไปตามธรรมชาติเราอยากอยู่ด้วยกัน เราก็อยู่ด้วยกัน คือ เรามีเวลาเรียนรู้ด้วยกันเท่าไหร่เราจะเรียนรู้เท่าที่เราจะทำได้ก็ทำให้เรียนรู้ข้อเสียของกันและกันได้เต็มที่
เตย : มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างเช่น ติดเกม แล้วก็เหมือนเวลาของ เตย กับ พี่ปั้บ จะสวนกัน อย่างเราต้องถ่ายละครก็ต้องตั้งแต่ตีห้าถึงสี่ทุ่ม แต่เวลาของ พี่ปั้บ ก็จะเป็นสองทุ่มออกไปทำงานกลับบ้านตีสามตีสองเวลาเราพักผ่อนเขาก็จะแบบกดเกม อ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์ มันเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่สำหรับ เตย เพราะเราต้องนอน เราก็จะบอกเขาว่า พี่ปั้บ ไม่ได้แล้วนะ เตย ขอนอน เตย ขอร้องหยุดเล่นเกมสักที
ปั้บ : ผมก็เถียงเขาว่า เตย รู้ไหมว่าเกมมันคือความสุขเล็กๆน้อยๆในชีวิตของเรา ผมก็เล่นใหญ่ไปอย่างนั้นแหละครับ ที่ผมไม่ไปเล่นห้องอื่นเพราะเราชอบอยู่ด้วยกัน เพราะเราอยากอยู่กับเขาแล้วก็เกมด้วยมันคือแค่นี้ มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องปลุกขึ้นมาคุยกันเลยนะครับ มีอยู่คืนหนึ่ง
เตย : เป็นเรื่องใหญ่ไปเลย แต่พอเราอยู่กับเขานานๆเราจะเริ่มรู้แล้วว่าเขาชอบให้คนอื่นรู้สึกผิดเพราะเขาจะพูดว่า เราไม่ได้ไปเที่ยว เราไม่ได้ไปดื่ม เรามีแต่เกม มีแต่หนังสือมันคือความสุขอย่างเดียวของเราทำไมเราไม่เข้าใจ ตอนแรกคือเรารู้สึกแย่มากฉันทำอะไรผิดแบบนั้นเลยเหรอ แค่เราบอกว่าของนอน สุดท้ายไปๆมาๆไม่ใช่แล้ว เราแค่ต้องจับเขาให้ทันว่าจริงๆแล้วเขาไม่อยากให้ตัวเองผิดก็เลยเหมือนให้มันเป็นเรื่องใหญ่ เตย ก็เลยบอกเขาว่า พี่ปั้บ อยากให้ เตย รู้สึกผิดใช่ไหม เงียบ !! จบคือ ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องตลกไปเลยพอเราจับได้ทุกครั้ง
ปั้บ : สุดท้ายเราก็ปิดเกมสิครับ แต่บางทีก็เข้าใจได้ครับ วันไหนนอนพร้อมกันได้ก็นอนหลักๆก็อยากอยู่ด้วยกันแหละ
ถาม แต่ ปั้บ เป็นคนโรแมนติกตั้งแต่ตอนขอแต่งงาน ไปขอแต่งงานทำไหมมีแสงเหนือ
ปั้บ : มันเป็นภาพในจินตนาการของเราครับ ที่นี่ก็เป็นที่ในฝันของเราคือการขอผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงานในสถานที่ที่มันดีๆเหมือนเป็นนิมิตหมายที่ดีระหว่างเราสองคน (คือถ้าไม่มีแสงเหนือจะไม่ขอ) ไม่ขอครับ เราเพราะชอบด้วยกัน แต่ทริปนั้นคือ อาม่า เตย เสียพอดีด้วยครับ มันก็เหมือนว่ายิ่งทำให้เราต้องตัดสินใจเยอะขึ้นไปอีกจากทริป 10 กว่าวันก็เหลือประมาณ 5-6 วัน
เตย : ตอนนั้นคือเราเพิ่งเข้าโรงแรมเลยค่ะ แล้วพี่ชายก็โทรมาว่า เตย อาม่าไปแล้วนะ เขาไม่ได้เสียปุ๊บปั๊บ เพราะก่อนที่เราจะเดินทางไอซ์แลนด์เราก็ไปหาอาม่าทั้งคู่แล้วบอกท่านว่ารอ เตย ก่อนนะเดี่ยว เตย มาหาก็มีบอกแต่ก็ไม่ทันทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้เนอะคะ
ปั้บ : ผมดูเป็นคนจิตใจเหี้ยมโหดมากไม่ยอมแพ้แบบสุดๆ (ถามแล้วพอวันนั้นพอมีแสงเหนือเป็นยังไง) สมมติว่าบ้านที่เช่า เวลาออกมาหลังบ้านแล้วก็จะมาดูฟ้ากันเราก็จะรู้เลยว่ารำไรอย่างนี้มาแล้ว พอมาแล้วเราก็บอกเพื่อนว่าเราจะเอาแหวนมาขอ เตย แต่งงานแล้วนะถ่ายรูปให้หน่อยเราก็รีบไปเอาแหวนที่เราซ่อนไว้ในกระเป๋าแล้วก็เอามาให้เขา
เตย : เหมือนจะโรแมนติกนะคะ แต่ภาพตอนนั้นคือ พี่ปั้บ นั่งคุกเข่าลงสองข้าง เตย แล้วก็ยื่นกล่องแหวนให้หนู หนูก็อะไรเหรอ ลืมเปิด !! เตย แต่งงานกันนะ เอามือขวามา ขอหนูแต่งงานขอมือขวาหนู
ปั้บ : เพราะผมเข้าใจแบบนั้นมาตลอดว่าเราแต่งงานจะสวมแหวนข้างซ้าย ผมเลยคิดว่าตอนขอก็ต้องข้างขวาสิ (เตยเขาก็เถียงเราว่าไม่ใช่ต้องข้างซ้าย) แล้วพอเขาใส่แหวนคือใส่ไม่เข้าอีกเพราะนิ้วบวม เป็นโมเมนต์ที่แบบจะโรแมนติกก็ไม่ขนาดนั้นก็ตลกด้วย แล้วมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เราแบบจะมาคุยกันยังไงตื่นเต้นไหม ก็ไม่ได้ขนาดนั้นมันก็จบลงไปจริงๆเพราะว่าเขาก็ยังมีโมเมนต์ที่เขาต้องรับผิดชอบก็ยังพูดกับเขาอยู่เลยว่าอยากทำให้สำเร็จในแบบที่ตั้งใจไว้แล้วเราก็กลับบ้าน แล้วหลังจากนั้นอีก 2 ปี ถึงจะแบบตัดสินใจให้เป็นเรื่องเป็นราว
ถาม แต่ในระยะเวลา 2 ปีนั้นก็มีเหตการณ์เกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย โดนเฉพาะเรื่องตอนที่โควิดต้องยอมรับว่าหลายๆอาชีพได้รับผลกระทบและหนึ่งในนั้นคือ นักร้อง ศิลปิน เพราะงานจากที่เคยมีเคยรับงานเยอะที่สุดแค่ไหนเอ่ย
ปั้บ : ถ้าตอนวัยรุ่นตอนต้นก็ 1 เดือนมีสามสิบวันก็จัดเต็มเลยครับ แต่ว่าตอนหลังๆเราก็เริ่มเฉลี่ยนงานแล้วครับ เดือนละประมาณ 10 งาน 15 งานคือเต็มที่แล้วครับ ก็จะมีแบบนี้มาแบบสม่ำเสมอเราก็คิดว่ามันก็มีเสถียรภาพที่ดีดูแลได้สบายมาก มีเงินเก็บ แล้วก็วางแผนแต่งงานก็กำลังสร้างบ้านทำบ้านด้วย มันก็โควิดมาพอดี 5 เดือนคือ ไม่ได้ทำอะไรเลย ศูนย์เลยช่วงนั้นมีปัญหาหลายเรื่องด้วย เรื่องครอบครัว เรื่องบ้านเราด้วย เรื่องแต่งงานด้วย จนถึงผมต้องแบทุกอย่าง (เรื่องทรัพย์สิน และทุกอย่างในชีวิตของเรา) ให้เขาเห็นว่าชีวิตเราเป็นแบบนี้แล้วเธอยังอยากแต่งงานกับเราอีกหรือเปล่า ผมบอกตามตรงว่ามันเป็นศักดิ์ศรีของผมนะ เพราะผมต้องดูแลเขาผมจะไม่ให้เขามายุ่งอะไรกับชีวิตผมเลย
ถาม แล้วสุดท้ายจริงๆแล้วตอนนั้นปัญหาที่มันเป็นปัญหาทุกอย่างเราแก้ยังไง
ปั้บ : แก้ด้วยกำลังใจจากเขาเลยครับ ทุกอย่างมันก็ค่อยๆคลี่คลายในแบบที่มันควรจะเป็นอะไรที่เราควรจะจัดการเราก็จัดการให้เต็มที่ แต่ว่าที่ผ่านมาได้ผมก็เพิ่งมารู้ตัวว่าจริงๆเราก็ไม่ต้องแบกทุกอย่างไว้คนเดียว ไม่ต้องเจ๋งตลอดเวลา ไม่ต้องสตรองคนเดียวก็ได้ยังมีคนที่เขายังคอยช่วยเป็นกำลังใจ ผมว่าทุกคืนมันก็ค่อยๆผ่านไป
ถาม แรงกระทบเข้ามาสู่การใช้เงินบ้านเรา เราต้องปรับยังไงดี
เตย : อย่างพี่ปั้บ เขาจะเป็นคนเต็มที่เรื่องกินอาหาร วันนี้ซีฟูด พรุ่งนี้โอมากาเสะเขาจะชอบมากมันคือความสุขของเขาจริงๆ แต่พอเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายๆเรื่องมันประเดประดังเข้ามาเราก็โอเคเราจะเชฟอะไรได้บ้างของเล่น ของกินเราก็ต้องพักก่อน
ถาม สำหรับนักดนตรีหลายๆเดือนที่ไม่ได้ไปเล่นไปร้องโชว์ก็จะเกิดความหงอย เตย ช่วยในเรื่องนี้ยังไงบ้าง
เตย : ก็มีพูดว่า TikTok ไหมเพราะก่อนหน้านั้นคือ พี่ปั้บ ไม่เอาเลย เขาจะแบบให้พี่ทำอะไร ไม่ทำ สักพักหนึ่งพอเห็นคนไลฟ์ก็สนุก แต่เขาเองไม่ถนัดเลยแล้วแล้วก็เขินแต่พอพอโควิดเนี่ยแหละทำให้เกิดช่วงตามใจพัฒน์ขึ้นมา เขาก็ไลฟ์แล้วก็เห็นได้ชัดเลยนะคะ เวลาที่เขาได้ร้องเพลงได้คุยกันแฟนเพลงถึงแม้จะผ่านหน้าจอคอมเขามีความสุขขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลย จิตใจของเขาเบิกบานเหมือนได้ปลดปล่อย มันผ่อนคลายมากขึ้นจริงๆ
ปั้บ : ที่ผมบอกว่าตามใจพัฒน์เนี่ยเพราะว่าผมเล่นเพราะผมฮีลตัวเองไม่ได้เล่นเพราะว่าให้คุณมีสิทธ์มาบอกว่าให้ผมเล่นเพลงอะไร แล้วผมก็คุณกับ เตย ว่าเรายังรักการร้องเพลงอยู่ ผมเคยลืมไปแล้วโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะลืมมัน แต่พอตอนที่เราเล่นเสร็จเรามีความสุขมากเลยงั้นแสดงว่าสิ่งนี้แหละยังเป็นสิ่งที่ยังหล่อเลี้ยง หล่อหลอมความรู้สึกเราอยู่เรื่อยๆ จริงๆนะครับ ผมช่วงที่ผมได้แบทุกอย่างแล้วผมสบายใจขึ้นเยอะเลย
ถาม เวลามีปัญหาของ ปั้บ ปั้บเองดูเป็นคนที่มีวิธีคิดในการที่จะบอกตัวเอง ตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยมาก แต่ก็มีเหมือนกันที่พอมีปัญหาก็จะเลือกปรึกษาคนรอบตัวเยอะแยะมากมาย ปรึกษาใครไปบ้าง
ปั้บ : พี่อ้น ศรีพรรณ ครับ เหมือนไปเจอกันที่ทำงานแล้วก็ถูกชะตาฟังหลายๆครั้งแนวความคิดแกไม่ฟุ้งเฟ้อ แกไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย พอเราเจอคนแบบนี้เรารู้สึกว่ามันก็ต้องกลับมาสะท้อนตัวเองว่าเราก็แค่กลับมาทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเหมือนเดิม ทำให้มันเต็มที่เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ
ถาม แต่เราเกิดวิกฤติในชีวิตเราได้แบกันแล้วว่าเรามีแต่ความไม่เท่อย่างไรบ้าง สิ่งหนึ่งที่ยังติดอยู่ในใจคือ งานแต่งยังไงดี ตอนนั้นเลยมีการปรับในเรื่องของงานแต่ง
ปั้บ : ปรับตอนแรกเหมือนจะเลื่อนเลยครับ เพราะคิดว่าเลื่อนไหมรอให้มันดีขึ้น ไม่ใช่แค่โควิดนะครับ ทุกอย่างเลย
เตย : จริงๆแล้ว พี่ปั้บ อยากแต่งเพราะว่าเขาอยากให้ตรงตามที่เขาวางเอาไว้ แต่แค่ว่าพอมันเป็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแผนหรือรูปแบบงานทุกอย่างที่วางเอาไว้มันเปลี่ยนหมดเลยค่ะ อยากตอนแรกที่เราคิดเอาไว้คือ อยากเชิญทุกคนที่เรารู้จักที่เรารักที่เคยรวมงานกันตอนแรกแขกเป็นพันคนเลย ไปดูสถานที่ทุกอย่างไว้แล้วแต่โควิดเริ่มใหญ่ขึ้นเริ่มกระจายก็เอาไงดีแต่สุดท้าย พี่ปั้บ อยากก็ยังอยากแต่งก็เลยลดสเกลทุกอย่าง เพราะว่าก็มีผู้ใหญ่ที่เราอยากจะขอบคุณมากๆก็เหลือ 500 – 600 คน แล้วบวกกับว่าสิ่งที่เราชอบเราไปเสนอคนที่จัดงานให้เราได้แรงบันดาลใจมาจาก Teamlab สถานที่ต่างๆที่เราเคยไปเที่ยวกันทุกที่มาไว้ในงานของเรา
ถาม แต่เป็นภาพงานแต่งงานที่น่ารักมากเลย ทุกคนคงได้เห็นจากในสื่อสวยและแปลกตาเพราะมันจะไม่ค่อยเหมือนกับงานแต่งงานใดๆแล้วในงานแต่งงานของ ปั้บ&เตย มีหลายๆคนน้ำตาซึมไปกับงานแต่งของน้องด้วย เพลงก็เป็นเพลงพิเศษ
ปั้ป : เป็นเพลงที่ตอนรู้จัก เตย ใหม่ๆเลยครับ เราแต่งให้วันคล้ายวันเกิดเขา อยากให้สาวประทับใจในปีแรกของวันเกิด
เตย : ในช่วงนั้นในชีวิตหนูมันเหมือนกึ่งๆวิฤกติในชีวิตเหมือนกัน เนื้อเพลงจะประมาณว่าให้กำลังใจยังมีเขาอยู่ตรงนี้นะ แต่ตัดภาพมาที่งานแต่งจริงๆ พี่ปั้บ เหมือนไปร้องให้ตัวเอง
ปั้บ : ณ วันที่ร้องให้ เตย ในวันแต่งงานยังไม่มีชื่อเลยแล้วก็พอหลังจากร้องไปแล้วก็มีหลายๆคนส่งชื่อเพลงมาให้ก็เลยสรุปชื่อเพลงว่า ยังมีฉัน
( ปั้บ โชว์เพลง ยังมีฉัน ในรายการ)
ปั้บ : มันก็เป็นเพลงที่ผมว่ามันก็ใช้ได้กับหลายๆคนนะครับ สำหรับการแต่งงานคือสถานีอีกสถานีหนึ่งที่เราต้องไปต่อไม่ได้หมายความว่ามันจะเพิ่มพลังอะไรให้เราแต่เอาจริงๆพอแต่งงานแล้วมันก็เปลี่ยนนะ ถ้าใครไม่ได้มาสัมผัสก็จะไม่เข้าใจว่าความรู้สึกมันคือยังไง คือที่เปลี่ยนมันอยู่ข้างในครับ มันสงบครับ แล้วมันก็มั่นคง ผมรู้สึกว่าผม รักเขามากขึ้นด้วย
สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news