ความเคลื่อนไหวที่รัฐสภาวันนี้ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” แถลงชี้แจง 3 เหตุผล ไม่ถอยตำแหน่งรองประธานสภาฯ” จนต้องพ้นสมาชิก “ก้าวไกล” โดยต้องการทำสภาโปร่งใส-ดำรงตำแหน่งเป็นกลาง พร้อมย้ำการตัดสินใจครั้งนี้ รอบคอบและยากลำบาก
ขณะเดียวกัน ประธานวันนอร์ ไม่ขอวิจารณ์พรรคก้าวไกล มีมติขับ “ปดิพัทธ์” แต่มั่นใจไม่มีปัญหาแม้ “รองประธานสภาฯ” เป็นฝ่ายค้าน ทั้งนี้ รอถาม กกต.ก่อน เร่งดำเนินการเรื่องผู้นำฝ่ายค้านฯ
โดยวันนี้ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 แถลงข่าวกรณีพรรคก้าวไกลมีมติขับออกจากสมาชิกพรรคและแนวทางการไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่หลังจากนี้ ว่า นับตั้งแต่ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตัดสินใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้ที่ประชุมใหญ่ พรรคก้าวไกล มีมติเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ สส. และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้ ตนเข้าใจดีว่า ตามรัฐธรรมนูญ ตนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ ต่อในฐานะ สส. จากพรรคก้าวไกลได้
นายปดิพัทธ์ ระบุว่า ตนมีเหตุผลประกอบการตัดสินใจ 3 ส่วน คือ
-ต้องการใช้วาระที่เหลือของสภา ในการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อยกระดับการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร ให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพสูง และเป็นของประชาชน อีกทั้งต้องปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาอย่างเป็นกลางต่อทุกพรรคการเมืองในสภา และต่อประชาชนทุกชุดความคิด ไม่ว่าตนจะสังกัดพรรคใด ดังนั้น การที่ตนต้องเปลี่ยนพรรคต้นสังกัด จะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่และแผนงานของตนในฐานะรองประธานสภา ทั้งนี้ มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะสามารถดูแลความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลกได้อย่างครบถ้วน
ขณะเดียวกัน ขอน้อมรับมติของพรรคก้าวไกลที่ต้องการทำหน้าที่ฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ และตัดสินใจให้สมาชิกภาพของตนในฐานะสมาชิกพรรคก้าวไกลยุติลง พร้อมยอมรับ การขับออกครั้งนี้ คิดว่าพรรคก้าวไกลตัดสินใจอย่างยากลำบากและรอบคอบ จึงไม่คิดว่าเป็นการสมคบคิดเรื่องผลประโยชน์กับใคร
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ขอวิจารณ์กรณีพรรคก้าวไกล ขับนายปดิพัทธ์ ออกจากพรรค แต่มั่นใจไม่มีปัญหา แม้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ” เป็นของฝ่ายค้าน ซึ่งอาจจะมีการบรรจุวาระกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ม.112 พร้อมย้ำต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ทั้งนี้ รอถาม กกต. ก่อน เร่งดำเนินการเรื่องผู้นำฝ่ายค้านฯ
ขณะนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา มองว่า พรรคก้าวไกลใช้นิติกรรมอำพราง ในการขับนายปดิพัทธ์ พ้นสมาชิก เพราะไม่ควรทำเช่นนี้ แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วย ซึ่งที่ผ่านมา กล่าวหาคนอื่น แต่ตัวเองกลับทำ อยากได้อำนาจก็ทำเป็นขับไล่ และย้อนในอดีตก็เคยมี สส.ตัวเองไปกับพรรคอื่น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
