Home
|
ข่าว

ธงนำข่าว | “มายาคติการเมือง”!!

Featured Image

          การเข้ามาบริหารประเทศของ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะ นายกรัฐมนตรี กำลังสื่อความหมายด้วยคติความเชื่อทางวัฒธรรมการเมืองไทย พยายามกลบเกลื่อนให้เป็นที่รับรู้เสมือนเป็นธรรมชาติให้ผู้คนคุ้นเคยและยากต่อการเข้าถึงความจริง รูปธรรมอำนวยการสร้าง “นายกฯหุ่นเชิด”และคณะ 

          จัดการตัวละครลงตามบทในเค้าโครงเรื่องที่พล็อตขึ้น ตั้งแต่แรกเจรจาผสมพันธุ์ข้ามขั้ว การต่อรองสมการการเมืองและได้ข้อตกลงสมประโยชน์และอำนาจในตำแหน่งจัดตั้ง “ครม.เศรษฐา1” เล่นเหลี่ยมโหดหักเก้าอี้ประธานรัฐสภา 

          ล่าสุดแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)คนใหม่ พยายามทำเหมือนสวม “พลังอำนาจที่มองไม่เห็น”ยากต่อการอธิบายเหตุและผลที่ชัดเจน บิดเบี้ยวกฎระเบียบ ยิ่งขยายรอยแตกแยกเพิ่มความไม่เชื่อมั่นทั้งตัวบุคคลและองค์กร แต่ “นายกฯ”กลับกระทำตนเหมือนเป็น “คนมากบารมีแฝง” สั่งการให้ ”บิ๊กตร.” จูบปากกันโชว์แก้ปัญหา..

          ภาพที่สร้างกับความเป็นจริงในทางปฏิบัติกลับย้อนแย้งกันเสมอมา ทำให้เป็นรัฐบาลถูกลดทอนความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น 

          นโยบายเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญก็กลบเกลื่อนเพียงแค่ตั้งคณะกรรมการศึกษาการทำประชามติ ด้วยบริวารว่านเครือเข้ามาเป็นอรหันต์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ภารกิจยังไม่เข้าประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย วางเกมกินเวลายื้อเป็นตัวประกันจนครบเทอม “รัฐบาลเศรษฐา” ก่อนศึกเลือกตั้ง เช่นเดียวกับ นโยบายหาเสียงแจกเงินดิจิตอลคนละ 10,000 บาท ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการคลังตัวจริงออกมาเตือนภัย กู้เงินมาแจก ได้ไม่คุ้มความหายนะ กับ “คำถาม” ที่ยังไม่มี “คำตอบ” เอาเงินมาจากไหนกลับบอกการคุยกันของนายกฯกับ “ผู้ว่าฯแบงค์ชาติ”เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เริ่มทำเป็นขึงขังไม่ต้องอธิบาย ต่อท้ายที่สุดเม็ดเงินกว่า 5 แสนล้านบาทไหลไปเข้ากระเป๋า “กลุ่มทุนการเมือง” หรือไม่.. 

          ขณะประเด็นเร่งด่วนการฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมที่ทำได้เลย เพียงให้ “นช.ทักษิณ ชินวัตร” หายป่วยทิพย์ ออกจาก ห้องวีวีไอพีโรงพยาบาลตำรวจ เข้าคุกกรมราชทัณฑ์แบบไม่เป็น นักโทษเทวดา ให้ผู้คนเด็กเยาวชนเขาเชื่อมั่นการบังคับใช้เพิ่ม ความศักดิ์สิทธิ์ ใน ข้อกฎหมาย แต่ก็ไม่ดำเนินการ กลับมีประเด็นมากลบเกลื่อนซ่อนเงื่อนอยู่หลังฉาก ตั้งแต่ “คดีบ้านกำนันนกยิงนายตำรวจ” ปั่น “คดีค้นบ้านพักบิ๊กโจ๊ก” ล่าสุด “เยาวชน 14 ปี” กราดยิงผู้คนล้มตายในห้างดังกลางเมืองหลวง..

          ความเป็นจริงฝ่ายอำนาจกำลังสกัดฝั่งตรงข้ามแบบสุดทางในทุกกระบวนการท่า ทั้งฝ่ายบริหาร ตุลาการและนิติบัญญัติกำจัดฝ่ายค้านลดระบบถ่วงดุลในระบบประชาธิปไตย โดยใช้ผลพวง ผลไม้พิษ จากต้นไม้พิษคสช. ประสานผลประโยชน์กับ “ระบอบทักษิณ”ที่ฝังรากลึกต่อเนื่องมายาวนานในสังคมอุปถัมภ์ เฉกเช่น”ปมเยาวชน 14 ปี” กราดยิงกลางห้างดัง เป็นปัญหาเรื้อรังไร้ซึ่งการแก้ไข เกิด ระบบส่วย เกาะกรังในวงการธุรกิจนอกกฎหมาย ตั้งแต่ “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฯ” ถึง “กสทช.” ที่วางคนไม่เหมาะกับงานความรู้ความเข้าใจมาทีหลัง ไม่เท่าทันจัดการกับ เว็บไซต์หรือโลกออนไลน์ขายปืนเถื่อน วงการธุรกิจมืดกลับมีพัฒนาการไปไกลถึงขั้นใช้ “ปัญญาประดิษฐ์ระบบ AI.” แค่คิด “ผลิตภัณฑ์อาวุธปืนสารพัดนึก” ก็แสดงขึ้นมาให้เลือกช้อปแล้ว

ครับ..!! 

 

พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube