Home
|
ข่าว

“พิธา-ชัยธวัช” นำก้าวไกล ร่วมรำลึก 47 ปี 6 ตุลา 19

Featured Image
“พิธา-ชัยธวัช” นำก้าวไกล ร่วมรำลึก 47 ปี 6 ตุลา 19 ชี้เป็นบทเรียนที่ไม่ควรลืม ต้องถอดบทเรียนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลไม่ได้สำคัญ

 

 

พรรคก้าวไกล นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค , นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และ สส.พรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมงานครบรอบ 47 ปี 6 ตุลาฯ ที่หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์

 

 

โดยนายพิธา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนวางพวงหรีดรำลึก ว่า คิดว่าเป็นบทเรียนที่ไม่ควรลืมว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นที่นี่เมื่อ 47 ปีที่แล้ว ไปได้ไกลมากถึงขนาดไหน เพราะฉะนั้น พวกเราในฐานะนักการเมือง ในฐานะประชาชนในยุคปัจจุบัน จะต้องถอดบทเรียนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และทำให้เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เป็นไปไม่ได้อีกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมมองว่า เป็นประวัติศาสตร์ที่ทำให้คนตั้งใจจะศึกษาและทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

ทั้งนี้ นายพิธาเป็นหนึ่งในคนธรรมศาสตร์ มีประสบการณ์หรือความผูกพันกับเหตุการณ์นี้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วที่เรียน อยู่ฝั่งตรงข้ามสนามฟุตบอลที่เป็นสถานที่ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อในอดีตที่ผ่านมา มีหลักฐานที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เราได้เห็นมุมมองต่างๆ มีโครงสร้างอะไรบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถที่จะเข้าถึง พยายามที่ทำให้เราลืม เป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องการให้ทดแทนด้วยความว่าง เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ 4 ปีที่ผ่านมา ตนก็มีความพยายามศึกษาประวัติศาสตร์และเสาะหาข้อเท็จจริง จนถึงเวลานี้ยังไม่มีบทสรุปว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นก็ยังไม่มีคำตอบให้สังคม

 

 

ทั้งนี้ คิดว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ เข้าถึงความจริงที่มีคนพยายามจะปกปิดมาตลอดมากกว่ารุ่นของตนเยอะ นายพิธา ย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลไม่ได้สำคัญ และคิดว่าพรรคก้าวไกลก็ยังพยายามทำงานเพื่อทำให้เหตุการณ์แบบ 6 ตุลาฯ เป็นไปไม่ได้ เช่น การยื่น พ.ร.บ. นิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีการเมือง เพื่อจะเป็นการถอดฟืนออกจากกองไฟ ไม่ให้มีโอกาสทำให้เกิดความแตกแยกที่ไม่มีวันจบวันสิ้น

 

 

ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ คงไม่ใช่การรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเท่านั้น เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนปัญหาทางการเมือง ตนคิดว่ายังเป็นโจทย์ที่ตกค้างในปัจจุบันหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็น ในการแสดงออกทางการเมือง การที่ระบบกฎหมายและอำนาจรัฐควรจะต้องเคารพชีวิตร่างกายของประชาชน ไม่ใช่อนุญาตให้อำนาจใดใดมาพรากชีวิต พิพากษาประชาชน ยังไม่ต้องนับว่าเรายังมีคนที่ถูกดำเนินคดีอย่างรุนแรงโดยเฉพาะความคิดเห็นทางการเมือง

 

 

ตอนนี้เรามีคนที่ถูกดำเนินคดีหลาย 1,000 คน ในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้เมื่อวานพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฏหมายนิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีการเมือง ส่วนตัวมองว่านักเคลื่อนไหวที่ออกมาต้องการทำให้สังคมดีขึ้น โดยเป้าหมายแรกที่รัฐบาลควรทำก่อนคือกันคืนความยุติธรรม เพื่อทำให้ทุกฝ่ายลดกำแพง เดินหน้าและใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยในการที่จะร่วมกันแสวงหาฉันทามติใหม่ของสังคมไทยว่าแม้เราจะเห็นต่างกันแต่เราอยู่ร่วมกันได้” นายชัยธวัช กล่าว

 

 

ส่วนฝั่งรัฐบาลเตือนว่าต้องระวัง เพราะการยื่นร่างกฎหมายนิรโทษกรรม อาจนำไปสู่การสร้างความขัดแย้งใหม่ นายชัยธวัช เชื่อว่ากระบวนการนิติบัญญัติในสภาจะเป็นพื้นที่ที่ทำให้เราความคิดเห็นที่ยังไม่ตรงกันมาออกแบบร่วมกันอย่างรอบคอบและรอบด้าน ถ้าพรุ่งนี้จะผ่านสภาได้บังคับใช้ได้ไม่ใช่พวกก้าวไกลพรรคเดียว แกนนำพรรครัฐบาลกับเพื่อไทยหรือพรรคอื่นๆแม้กระทั่ง สว. ก็ต้องมีความเห็นที่เป็นจุดร่วมกัน ตนขอเชิญชวนพรรคการเมืองต่างๆ ถ้าเป็นไปได้สามารถส่งร่างของตนเองมาประกบได้

 

 

ดังนั้น ตนคิดว่าใช้กระบวนการทางสภาดีกว่าใช้อำนาจบริหารอย่างเดียว ถ้าเกิดไปออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม อันนี้ยิ่งเป็นกระบวนการที่รวบรัดและขาดการมีส่วนร่วม แต่กระบวนการทางสภาผ่านหลายขั้นตอน

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube