‘กัณวีร์’ แนะรบ.ใส่ใจสันติภาพใกล้ตัวด้วย
‘กัณวีร์’ แนะนำรัฐบาลไทยใส่ใจสันติภาพใกล้ตัวด้วย ระบุรัฐบาลทหารเมียนมายิงถล่มค่ายผู้ลี้ภัยในรัฐคะฉิ่น ต้องช่วยกันเรียกร้องและประณามการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงความเห็นต่อกรณีสถานการณ์สงครามในอิสราเอล โดยระบุว่า ประเด็นสงครามและสันติภาพที่ทั่วโลกให้ความสนใจ คือ ประเด็นที่เกิดขึ้นในอิสราเอลนั้น การโจมตีอย่างไร้มนุษยธรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อหมู่มวลมนุษยชาติ
ในประเทศไทยได้มีหลายภาคส่วนให้ความคิดเห็นและแสดงจุดยืนกันหลากหลาย เนื่องจากพี่น้องประชาชนคนไทยหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ซึ่งอยู่ติดกับไทยฝั่งตะวันตก ดูเหมือนการให้ความสำคัญน้อยกว่าควรที่จะเป็น
นายกัณวีร์ เห็นว่า ผลกระทบฝั่งตะวันตกของไทยมีอย่างมากมาย แต่อาจจะดูว่าผลกระทบของความรุนแรงที่กระทบต่อคนไทยอาจดูน้อยกว่าที่อิสราเอล แต่ในความเป็นจริงนั้น ผลกระทบมันยาวนานและได้ฝังรากลึก จนดูเหมือนสิ่งที่ไม่ธรรมดาอันนี้กลายเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ไทยเริ่มมองเห็นเป็นเรื่องธรรมดานั่นเอง
ขออย่าหลงทิศกันนะครับ เราควรให้ความใส่ใจในประเด็นปัญหาสงครามและสันติภาพในทุกภูมิภาคบนโลกใบนี้แบบเท่าเทียมและดูว่าอะไรจะเป็นผลกระทบต่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ เวลาเราวิเคราะห์ปัญหาสถานการณ์โลกออกมาจะสามารถเห็นได้ว่าประเทศไทยควรวางตัวในจุดใดบนเวทีระหว่างประเทศ
นายกัณวีร์ ย้ำว่า หากมองให้ดีจะเห็นว่าปัญหาในเมียนมา ประเทศไทยสามารถมีบทบาทขับเคลื่อนเรื่องสันติภาพได้ดีที่สุด ทั้งในแง่มุมของภูมิรัฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวิถีการดำรงชีวิต ซึ่งหากวางจุดยืนทางการทูตของไทยดีๆ จะทำให้ผลกระทบต่อคนไทยในพื้นที่ผลกระทบจะสามารถเบาบางลง
ทั้งนี้ การยิงถล่มค่ายผู้ผลัดถิ่นภายในประเทศที่รัฐคะฉิ่นของเมียนมา ที่มีพื้นที่ใกล้กับจีนนั้น อาจดูเหมือนห่างไกลกับไทย แต่มันจะมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ที่จะกลับเข้ามากระทบต่อฝั่งไทยในไม่ช้า ทหารเมียนมาเริ่มเปลี่ยนจุดยุทธศาสตร์ทางทหารไปในดินแดนที่ติดกับจีน อาจเป็นด้วยเหตุผลที่รัฐบาลจีน มิได้มีความเคลื่อนไหวต่อต้านการริดรอนสิทธิมนุษยชนในเมียนมาเนื่องจากมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนอย่างมาก
นายกัณวีร์ กล่าวว่า หากรัฐบาลไทยหลงทาง เดินตามนโยบายเร่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนกับทหารเมียนมาเพียงอย่างเดียวแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นาน ทหารเมียนมาจะกลับมาเพิ่มระดับการปฏิบัติการทางทหารในฝั่งระเบียงชายแดนด้านตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดกับไทยในไม่ช้า
เมื่อวิเคราะห์เรื่องสงครามและสันติภาพโลกอย่างครอบคลุม จะทำให้ไทยมีจุดยืนที่สง่าผ่าเผย รวมทั้ง รักษาอำนาจอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดนไว้อย่างมั่นคง และที่สำคัญที่สุดผลประโยชน์สูงสุดจะตกอยู่กับพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศชาติโดยรวม
ส่วนกรณีปัญหาอิสราเอลและปาเลสไตน์ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ในส่วนที่เคยทำงานด้านสันติภาพมา 12 ปี แน่นอนว่า เราคาดหวังที่จะไม่มีสงครามในโลกนี้ แต่ต้องใช้เวลานาน สิ่งที่เราจะทำได้ คือยืนหยัดในการสนับสนุนสันติภาพ ส่วนจุดยืนทางการทูตของไทย เราต้องก้าวข้าม จากกระบวนทัศน์เดิมที่ยึดหลักอนุรักษ์นิยมอิงความมั่นคง จึงควรปรับเปลี่ยนใช้สิทธิมนุษยชน และมนุษยธรรม ทำงานให้มากขึ้นกว่านี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews