งานเข้า รับแต่ ของร้อน ตลอด ตั้งแต่เริ่มออกตัว สำหรับ “นายกฯเศรษฐา” และ “รัฐบาลเพื่อไทย” ที่แม้ “นายกคนที่30” ตัวสูงๆจะได้รับคำชม ว่าขยันทำงานไม่หยุดพักวันหยุดตลอด2เดือน แต่ก็ยังมี “หลายเรื่อง”
ที่คาค้างเติ่งในใจ ของ ผู้คนมิตรรักแฟนเพลง ที่สะเทือนไต ไปกับ กระบวนการยุติธรรม กับเฉพาะ กรณี “คนชั้น14” “ทักษิณ” ที่เพิ่งนอนโรงพยาบาลครบ2เดือนไปเมื่อวันอาทิตย์ (22ต.ค.) ที่ต่อไปนี้ จะมี “คู่เทียบ” ในทุกไฟต์ ที่มีเรื่องราวทำนอง “นักโทษ” ออกคุก ด้วยอาการป่วยจริง หรือ แหกคุก อ้างป่วยหนีจากโรงพยาบาล อย่าง “เปรมชัย เสือดำ” หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด”
ที่แม้ฝ่ายเกี่ยวข้องรวมถึงกรมราชทัณฑ์ฑ์ จะพยายามอธิบายกระบวนการว่า หลักปฏิบัติเป็นเช่น ปกติ เหมือน “นักโทษ”ที่เจ็บป่วยจำนวนมาก แต่ก็อดถูกมองเป็น “ข้ออ้าง” แบบที่ กลุ่ม คปท.ที่บุกไปเยี่ยมเมื่อวันก่อน (22ต.ค.) ตั้งข้อสงสัยและ “หมอวรงค์” เตรียมไปยื่น “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” และ “ปปช.” พรุ่งนี้ (25ต.ค.) เพื่อเอาผิด รมต.และ ข้าราชการ ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม
ไม่แค่นั้น ในระหว่างกลางศึก สงครามอิสราเอล ฮามาส กับ “หน้างาน” รัฐบาลไทย ต้องเร่งช่วยเหลือเหยื่อ “ตัวประกันแรงงานไทย” และการขน “แรงงานไทย” กลับ ให้ได้เร็วที่สุด ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีแนวโน้มเลวร้ายขึ้น ที่เมื่อ “นายกฯนิด” หันมารอบตัว นอกจาก “โจทย์เดิม” กับ “นโยบายเรือธง” แจกเงินหมื่นดิจิทัล ที่ทำท่าว่าจะ “เสียรังวัด” เพิ่ม จากที่ต้องเลื่อนไปให้ชัด
ต่อวันนี้ (24ต.ค.) กับคิวประชุม กรรมการชุดใหญ่ที่ “เศรษฐา” ต้องนั่งหัวโต๊ะ หลังโดนกระแสค้านเพราะไม่ชัด “แหล่งเงิน” ยังมามี “เรื่องใหม่” ในเรื่องเก่า กรณี เปลี่ยนการซื้อเรือดำน้ำ เป็นเรือฟริเกต ของ “บิ๊กทิน” “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ที่เริ่มมีกระแสโจมตี และการเตือนความสุ่มเสี่ยงในกฎหมาย
กระนั้นในจังหวะกำลังนัวกับเรื่องร้อนๆ ของ “นายกฯเศรษฐา” ก็น่าสนใจกับ “บทบาท” การปรากฏของ “อุ๊งอิงค์”บุตรสาวคนเล็กของ “ทักษิณ” ไม่แต่ ท่าที “พร้อมค่ะ” ในการเป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” ที่ประกาศไว้ ก่อนที่พรรคจะมีการประชุมเลือก (27ต.ค.) หากแต่ในโหมด “การบ้าน” เริ่มเห็นการทยอย ชูบทบาทสำคัญ ของ “อุ๊งอิ๊งค์” ประกบมากับ “นายกฯเศรษฐา” เหมือนเป็นเงาหรือศึกษางานนายกฯอยู่ในที ไม่แค่แต่การเป็น “รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์
ซอฟต์พาวเวอร์” ที่ทำเนียบฯ ยังมีล่าสุด ที่จู่ๆ
วันนี้ (24ต.ค.) “อุ๊งอิงค์” โผล่มาเป็น “รองประธานคณะกรรมการพัฒนา ระบบสุขภาพ” ร่วมประชุมกับ “นายกฯเศรษฐา” ที่เป็นประธานนั่งหัวโต๊ะประชุมครั้งแรก โดยมีการหยิบ“นโยบาย30บาทรักษาทุกโรค” ที่ถือว่าเป็นนโยบายที่ปังและประสบความเร็จติดตาติดใจชาวบ้าน ตั้งแต่สมัย “รัฐบาลไทยรักไทย” ยุค “ทักษิณ” มาปัดฝุ่นเป็น “30บาทพลัส” แบบ “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” ที่จะนำร่อง ใน4จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และ นราธิวาส ที่เตรียมมีการคิ๊กออฟอีกไม่นานนี้
ที่สภาพการณ์การเมือง ดังกล่าว ดูบังเอิญไปสอดรับกับทิศทางการวิเคราะห์จากหลายฝ่าย ที่ประเมินผ่านสภาพ“นโยบายเรือธง” แจกเงินหมื่นดิจิทัล ที่มาจาก “เศรษฐา” ในช่วงปลายการหาเสียง ที่ถูกมอง ว่ามีเพียง “เศรษฐา” และ“จุลพันธ์” ที่ออกมา “รับหน้าเสื่อ” แต่ รัฐมนตรีในพรรค และ รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีใครช่วยแจง จนถูกมองว่า“ลอยแพ” “เศรษฐา” ถึงขนาดมีการมองว่า “ผู้กุมสภาพทิศทางเพื่อไทย” เริ่มมองจะมีการปรับเปลี่ยนตัวนายกฯอย่างที่ “เสี่ยหนู” “อนุทิน” ออกมาแจง (24ต.ค.)
ยืนยันไม่ได้ พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้ “ลอยแพ” เพื่อไทย “ตนก็ติดตามเรื่องนี้อยู่ และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะมีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่หากในอนาค มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็ต้องตรวจสอบ เพราะไม่เช่นนั้นจะมาเป็นนโยบายรัฐบาลไม่ได้ และเมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาลพรรคร่วมจะต้องช่วยกันสนับสนุนแต่ก่อนจะออกเป็นนโยบายจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและการตราเป็นพระราชบัญญัติ อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาแล้ว เราก็มีหน้าที่ในการทำให้นโยบายของรัฐบาลได้รับการผลักดัน “ไม่มีการลอยแพอยู่แล้ว แต่อยู่ในเรือนแพ”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews