UNSCประชุมฉุกเฉินวิกฤตอิสราเอล-ตายพุ่งเกือบหมื่น
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้ประชุมฉุกเฉินกันอีกครั้ง เพื่อหารือวิกฤตอิสราเอล หลังขยายการโจมตีภาคพื้นที่ ทุกฝ่ายจี้ต้องหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม ขณะผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 1หมื่นรายลาย
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หลังจากความพยายามล้มเหลว 4 ครั้งในการบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับข้อมติฉนวนกาซา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ประชุมฉุกเฉินกันอีกครั้งเมื่อบ่ายวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤติที่กำลังดำเนินอยู่ ท่ามกลางการทิ้งระเบิดของอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง และรายงานการบุกรุกภาคพื้นดิน
นายวาซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซีย กล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่จะเอ่ยถึง หายนะที่กำลังเกิดขึ้น โดยยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรายชั่วโมงขนาดของความสูญเสียในรายงานของสหประชาชาตินั้นน่าตกตะลึง โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซากำลังถูกคุกคาม โรงพยาบาลเก้าแห่งไม่สามารถใช้งานได้ และพลเรือนได้รับบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ฉนวนกาซาถูกตัดขาดจากส่วนอื่นๆ ของโลก
มีรถบรรทุกช่วยเหลือเพียง 94 คันเท่านั้นที่เข้าไปในฉนวนกาซา โดยที่อิสราเอลพยายามขัดขวาง และความสิ้นหวังเพิ่มมากขึ้น คำถามของชาวปาเลสไตน์ เนื่องจากจุดยืนของสหรัฐฯ สภาจึงเป็นอัมพาตความขัดแย้งในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การหยุดเพื่อมนุษยธรรมจะช่วยได้ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้หากยังมีการสู้รบภาคพื้นดิน ฉันหวังว่าทุกคนที่นี่จะเข้าใจเรื่องนี้
ด้านลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ชีวิตของคนงานด้านมนุษยธรรมทุกคน และพลเรือนทุกคน ทั้งชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์ จะต้องได้รับการคุ้มครอง จรวดหลายสิบลูกยังคงตกในอิสราเอล ตัวประกันยังคงถูกควบคุมตัวไว้ และชาวกาซากำลังทนทุกข์ทรมาน กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต้องได้รับการเคารพ โดยตระหนักถึงสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง
และแสดงความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ที่เพิ่มขึ้น เราต้องทำทุกอย่างที่เป็นไปได้ เพื่อช่วยชีวิตผู้คน พร้อมเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกทำงานเพื่อป้องกันวิกฤตที่ลุกลาม นี่เป็นเรื่องของสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และสภานี้จะต้องออกมาพูด
ขณะที่ นาย จาง จุน เอกอัครราชทูตจีน กล่าวว่า เสียงข้างมากอย่างล้นหลามในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้สนับสนุนด้านมนุษยธรรมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมวาระพิเศษฉุกเฉิน
แต่อิสราเอลกลับหูหนวกต่อเรื่องทั้งหมดนี้ ด้วยการเริ่มโจมตีภาคพื้นดิน หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการควบคุม สถานการณ์จะทวีความรุนแรงขึ้นจนควบคุมไม่ได้ และภัยพิบัติที่ใหญ่กว่านี้จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางขณะนี้จวนจะล่มสลาย ขอเรียกร้องให้อิสราเอลยกเลิกการปิดล้อม ยกเลิกคำสั่งอพยพ และฟื้นฟูสิ่งของจำเป็นพื้นฐาน
ตลอดจนร้องขอให้มีการใช้ความพยายามทางการทูตอย่างเข้มข้นเพื่อให้ปล่อยปล่อยตัวประกัน และกลับสู่เส้นทางแห่งข้อตกลงทางการเมืองมุ่งมั่นที่จะยุติวงจรแห่งความรุนแรงหากไม่สามารถระงับความรุนแรงได้ อาจเกิดภัยพิบัติทางทหารที่จะลามทั่วทั้งภูมิภาค ชาวกาซา ไม่ต้องการคำสัญญาอีกต่อไป แต่ต้องการการกระทำที่เป็นรูปธรรม ที่อาจนำมาซึ่งสันติภาพ สถาปนาหลักนิติธรรมขึ้นมาใหม่ และช่วยชีวิตพลเรือนแต่หาก นิ่งเฉย เท่ากับไฟเขียวให้ความรุนแรงดำเนินต่อไป โดยเตือนว่าประวัติศาสตร์จะบันทึกการตัดสินใจของสภาในครั้งนี้
ส่วนผู้อำนวยการฝ่ายการระดมทรัพยากรของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ไม่มีอะไรที่จะเป็นการทำลายล้างและน่าสะเทือนใจเลย เราไม่ลืมที่มีผู้เสียชีวิต 1,400 ราย และบาดเจ็บอีกหลายพันคน และถูกจับกุมในการโจมตีอันโหดร้ายของกลุ่มฮามาส แต่การยิงจรวดตามอำเภอใจยังคงดำเนินต่อไปจากฉนวนกาซา
ไปยังพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นของอิสราเอล ส่งผลให้มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตาย การพลัดถิ่น และความบอบช้ำทางจิตใจเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้พวกเขาทนต่อการปิดล้อมและการทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 23 วัน จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 8,000 ราย บาดเจ็บอีกหลายหมื่นคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
