ครม.เศรษฐา1 มีรัฐมนตรีผู้หญิงเพียง5คน จากทั้งหมด34คน โดยมาจากหลายพรรคการเมืองด้วยกัน ซึ่งแต่ละคนนั้นก็น่าติดตามกันเลยทีเดียว โดยตลอดระยะเวลาเกือบ2เดือนที่ผ่านมาแต่ละกระทรวงก็เดินหน้าทำผลงานอย่างหนักหวังเอาใจประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้องที่ยังคงถูกจับตาอย่างต่อเนื่อง
เริ่มที่คนแรกนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดีกรีลูกสาวกำนันป้อ วีรศักดิ์ ส.ส. บ้านใหญ่ พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา โดยล่าสุดเธอเดินหน้า Quick Win ร่วมหารือผู้บริหารระดับสูง 5 แพลตฟอร์มชั้นนำของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทย โดยเฉพาะกลุ่ม FIT(Free Independent Travelers)ซึ่งทั้ง 5 แพลตฟอร์มนี้ มีผู้ติดตาม มากกว่า 1,000 ล้านคนต่อวัน ถือเป็นโอกาสดีสร้างการเข้าถึงกลุ่มชาวจีนทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายด้านการท่องเที่ยว
คนที่2นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ค่ายเพื่อไทย ประเดิมงานแรกในสังกัดสำนักนายกฯ กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จ.พิจิตร และพยายามเจรจาให้สองขั้วที่คุมวัด คุยกันแบบสมานฉันท์หลังยืดเยื้อมานาน ซึ่งเธอมองว่า วัดบางคลานเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ มีชื่อเสียง จึงอยากให้วัดกลับมาเปิดให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะบูชา ขณะความคืบหน้าล่าสุดปมวัดบางคลานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมาพบว่าวัดบางคลานได้ถอนฟ้องชาวบ้านบุกรุกวัด รวมถึงทั้งสองฝ่ายยอมเจรจากันแล้วแต่ต้องมีการตรวจสอบคดีของแต่ละคนต่อไป
คนที่3นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สังกัดพรรคเพื่อไทย โดยเธอได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล 5 หน่วยงาน ได้แก่ 1. กรมเจ้าท่า 2. การท่าเรือแห่งประเทศไทย 3. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ 4. สถาบันการบินพลเรือน และ5. บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด ซึ่งวันที่1 พ.ย.66 ที่ผ่านมา เธอ ได้ลงพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจอุปสรรคทางน้ำ เพราะเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวและอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีชื่อเสียง เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ฯลฯ อีกทั้งยังมีการขนส่งสินค้าด้วยระบบคมนาคมทางน้ำเป็นหลัก
คนที่4นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จากค่ายภูมิใจไทย เธอได้ประสานแก้ไขปัญหาอุเทนถวายขยายสถานที่ พร้อมยืนยันว่า ทางกระทรวงอุดมศึกษาฯให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ทุกคนมีความสุขที่สุด โดยจะไม่มีการบังคับ จะเป็นการเจรจากันด้วยดีด้วยเหตุผล เพราะกระทรวงอุดมศึกษาฯมีหน้าที่ดูแลเยาวชน พยายามให้ทุกอย่างจบลงให้ดีที่สุด ทั้งนี้หากบังคับใช้กฎหมายแล้วต้องดูว่า บ้านเมืองสงบหรือไม่ อย่างกรณีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ขยายจากท่าพระจันทร์ไปยังรังสิต ซึ่งไม่ได้เป็นการเก็บกระเป๋าย้ายชั่วข้ามคืน ก็ใช้เวลาในการขยายหลายปีเช่นกัน เพราะฉะนั้น การขยายอุเทนถวายก็คงไม่ได้เป็นการวางแผนย้ายในชั่วข้ามคืนจึงต้องมีการพูดคุยกับศิษย์เก่าด้วย
และคนที่5นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จากรวมไทยสร้างชาติ เธอลงพื้นที่เมืองชล เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมสู่เมืองเศรษฐกิจชั้นนำอาเซียนขณะจ.ชลบุรี มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 4,248 โรงงาน อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ แหลมฉบัง ปิ่นทอง ดับบลิวเอชเอ และปิ่นทอง จำนวน 1,099 โรงงาน นอกนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 3,149 โรงงาน วิสาหกิจชุมชน จำนวน 620 อีกทั้งเธอยังบอกว่าหลังจากกระทรวงพาณิชย์มีมติไม่ให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาล 4 บาทต่อกิโลกรัม กระทรวงอุตสาหกรรมจะกลับไปหามาตรการที่จะมาช่วยเหลือกลุ่มชาวไร่อ้อย
เพราะที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้น้ำตาลเป็นสินค้าควบคุม ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งกระทรวงฯ เห็นใจชาวไร่อ้อยที่ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นและการที่กระทรวงพาณิชย์ดึงเป็นสินค้าควบคุม ไม่ได้เป็นการหักหน้ากระทรวงอุตสาหกรรม แต่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องช่วยกันดูแลราคาสินค้าให้กับประชาชนนั่นเองอย่างไรก็ตามต้องบอกเลยว่าแต่ละกระทรวงต้องเจอกับโจทย์ยากที่สังคมต่างจับตาว่าคณะรัฐมนตรีเศรษฐาชุดนี้จะมีความสามารถแก้ปัญหาหรือเดินหน้าทำผลงานแต่ละเรื่องได้สำเร็จมากน้อยเพียงใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
