ตร.กาฬสินธุ์ เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบปากคำเหตุนักเรียนชาย ม.3 ฝึกลูกเสือโหดสั่งมุดน้ำจมดับ
พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.อัศวิน หงษ์โยธี พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก เจ้าของคดีได้เรียกกลุ่มเพื่อนนักเรียนของ ด.ช.ทองนพเก้า พร้อมด้วยนายสมภาร อายุ 54 ปี นางบัวชื่น อายุ 48 ปี พ่อและแม่ของ ด.ช.ทองนพเก้า เข้ามาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้น รวมทั้งผู้บริหารและคณะครูของเรียนมาสอบปากคำเพื่อสาเหตุการเสียชีวิต โดยส่วนใหญ่เพื่อนของผู้เสียชีวิต ระบุว่าการเข้าร่วมกิจกรรมค่ายลูกเสือ ทุกคนจะถูกสั่งให้เข้าฐานหนีสงครามหลบระเบิดมุดน้ำ โดยที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและช่วยเหลือจมน้ำ เช่น เสื้อชูชีพ หรือห่วงยาง รวมทั้งไม่มีการกั้นแนวเขตน้ำตื้นและน้ำลึก ส่วนทางด้านผู้อำนวยการและคณะครู เบื้องต้นยังไม่พร้อมที่จะให้ปากคำ เนื่องจากอยู่ในอาการเสียใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายสุนทรา กุลาสา ผู้อำนวยการโรงเรียน ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยใช้สถานที่สาธารณะหมู่บ้าน ซึ่งมีสระน้ำสาธารณะห่างอยู่ด้านข้างทิศเหนือ มีถนนคั่นกลาง จากโรงเรียนประมาณ 20 เมตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมค่ายลูกเสือทุกปี โดยในการจัดกิจกรรมได้ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกัน กลุ่มละ 13-15 คน เข้าร่วมกิจกรรมฐานต่างๆ รวม 6 ฐาน ประกอบด้วย ฐานลำเลียงน้ำ ฐานบัวตูมบัวบาน ฐานท่องกฎและคำปฏิญาณ ฐานเงื่อน ฐานปิดตาไต่เขา และฐานหลบระเบิด แต่ละฐานจะมีครูผู้ควบคุมดูแล 2 คน ซึ่งฐานที่เกิดเหตุเด็กนักเรียนจมน้ำนั้นเป็นฐานที่ 6 ฐานสุดท้าย ได้ให้นักเรียนลงไปในน้ำ เพื่อล้างเนื้อล้างตัว ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุทางคณะครูก็ได้มีการเฝ้าระวังและเช็กจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกฐานส่วนกรณี ด.ช.ทองนพเก้า ที่จมน้ำเสียชีวิตนั้น คาดว่าไม่มีใครสังเกตเห็น ด.ช.ทองนพเก้า เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งไม่ได้มาร่วมกิจกรรมในช่วงเช้า แต่กลับมาเข้าร่วมในช่วงบ่าย ซึ่งทางคณะครูผู้ควบคุมได้เช็กจำนวนนักเรียนหลังจากทุกคนขึ้นมาจากหนองน้ำก็พบว่าครบจึงไม่ได้เอะใจ กระทั่งมาทราบทีหลังว่าหายตัวไปและจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางโรงเรียนและคณะครูก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news