Home
|
ต่างประเทศ

จีนจัดงานเสวนาประจำปีระหว่างพิพิธภัณฑ์ในประเทศเอเชียตะวันออกที่นครฉางซา

Featured Image

กลุ่มการสื่อสารระหว่างประเทศของจีนจัดงานเสวนาประจำปีระหว่างพิพิธภัณฑ์ในประเทศเอเชียตะวันออก (The Annual Dialogue between Museums of East Asian Countries) ที่ พิพิธภัณฑ์ฉางซา ในมณฑลหูหนานของจีน โดยบรรดาผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์และตัวแทนเยาวชนจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่มประเทศอาเซียน ได้มาร่วมเสวนากันในหัวข้อ “การเรียนรู้ร่วมกันและการสืบสานอารยธรรมเอเชียตะวันออก”

หวง เว่ย ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานและการจัดการ กลุ่มการสื่อสารระหว่างประเทศของจีน (China International Communications Group) กล่าวว่า “10+3 ประเทศได้ร่วมกันสร้างอารยธรรมเอเชียตะวันออกที่รุ่งเรือง ขณะที่มรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวยและของสะสมของพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ล้วนเป็นหน้าต่างบานสำคัญที่เปิดกว้างให้ทั่วโลกได้เรียนรู้เกี่ยวกับอารยธรรมเอเชียตะวันออก”

อีฮีซบ เลขาธิการประจำสำนักเลขาธิการความร่วมมือไตรภาคี (Trilateral Cooperation Secretariat) กล่าวว่า “พิพิธภัณฑ์มีบทบาทสำคัญในการรักษาความทรงจำร่วมกันของเรา ตลอดจนรักษาสมบัติในอดีตของเราเพื่อสร้างคุณค่าให้กับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต พิพิธภัณฑ์เป็นช่องทางที่ดีสำหรับเยาวชนในการเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศของตนเองและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อวางรากฐานสำหรับความร่วมมือและการพัฒนาอย่างสันติต่อไปในอนาคต”

สือ จงจวิ้น เลขาธิการศูนย์อาเซียน-จีน (ASEAN-China Center) กล่าวปาฐกถาผ่านวิดีโอว่า ความหลากหลายก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างอารยธรรม ซึ่งส่งเสริมการเรียนรู้ซึ่งกันและกันและการพัฒนาร่วมกันต่อไป พร้อมกันนี้ คุณสือแสดงความเชื่อมั่นว่าการเสวนาครั้งนี้จะช่วยกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนจาก 10+3 ประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของภูมิภาคเอเชีย

ในโอกาสนี้ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสปป.ลาว รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์พระราชวัง สถาบันตุนหวง และพิพิธภัณฑ์ฉางซา ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในการยกระดับการแบ่งปันประสบการณ์และความร่วมมือระหว่างพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในประเทศเอเชียตะวันออก รวมถึงการเสริมสร้างศักยภาพของเทคโนโลยีใหม่เพื่อปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ ในงานเสวนายังมีการอภิปรายอย่างเข้มข้นของเยาวชนจากจีน ไทย อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ เกี่ยวกับความรับผิดชอบของเยาวชนในการเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและมีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมร่วมกัน

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube