แม้ “นายกฯเศรษฐา” จะเดินหน้าในฉากถนัดกับคอนเซ็ปต์ “นายกเซล์ลแมนเบอร์1ประเทศไทย” หักกลบลบภาพ “นายกฯหุ่นเชิด”ของ “เจ้าของพรรคเพื่อไทย” อย่างครอบครัว “ชินวัตร” ที่เศรษฐาเคยถูกครหา
และพยายาม เคลียร์คัต กระแสโจมตีนโยบายรัฐบาลที่ถูกวิจารณ์โดยเฉพาะ “นโยบายเรือธง” อย่าง โครงการแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต1หมื่นบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องชี้แจงข้ามทวีปมาทุกวันหลังแถลงความชัดเจนไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (10พ.ย.) ไม่แต่การพยายามฉายภาพ “มรรคผล”ในการเดินสายต่างประเทศหลายประเทศ เพื่อตะโกนบอกโลก ว่า ประเทศไทย รัฐบาลไทย การเมืองไทย กลับมา ในเวอร์ชันปกติไม่ได้เป็น “รัฐบาลทหาร” แล้วสามารถมาลงทุนได้แล้ว
จนมาถึงภารกิจการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ที่ก็ปรากฏภาพความ เป็นเนื้อเป็นหนัง ให้ประชาชนเห็น ไม่แต่ภาพการชวน3บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง AWS-Google-Microsoftตกลงจะมาลงทุนในไทย หรือ การหารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศอย่าง ทั้งญี่ปุ่น แคนาดา ออสเตรเลียและรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐอเมริกา และการร่วมดินเนอร์ติดกับ โจไบเดน ปธน.สหรัฐ ที่นายกฯบอกว่าได้เชิญชวน ให้หลายประเทศมาลงทุนในไทยแง้มว่าจะมีข่าวดี
เรียกว่า หากเป็น เฉพาะในบท “นายกเซลล์แมน” อย่างที่ “นายกฯเศรษฐา” ประกาศมาแต่ต้นที่ไม่เคยหยุดทำงานตั้งแต่วันที่ 22ส.ค.66 ที่สภาโหวตให้เป็นนายกฯ จนมาถึงการยืนยันว่าตนเองเป็นนายกฯ ที่มาในคอนเซ็ปต์เดียวกับพรรคเพื่อไทย ทีมี ภาพจำ ว่า “หาเงินได้ ใช้เงินเป็น” อย่างที่มีการตอบคำถามสื่อ วันก่อนที่ถามถึงอาการ “ไม่มั่นใจ”ของประชาชนว่ารัฐบาลจะมีเงินพอจะนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอเล็ตทั้งที่ก่อนหน้านี้เชื่อว่าเพื่อไทยหาเงินได้ใช้เงินเป็น
โดยบอกว่าตนเป็นนายกฯที่มาจากเพื่อไทย มั่นใจว่าหาเงินได้ใช้เงินเป็น แต่หากในมิติของ “ผลงาน” การบริหารประเทศเชิงผลักดันนโยบาย ไม่ว่าจะเป็น “นโยบายเรือธง” อย่าง “ดิจิทัลวอเล็ต” ที่พอวันนี้นายกฯไม่พูดถึงเรื่องนี้กลับดูเป็น “ผลบวก”จากผลงานต่างประเทศ เช่นเดียวกับ “นโยบายอื่นๆ” ที่ปรากฏภาพการลงดีเทลตามงานอย่างฉุนเฉียวของนายกฯ ก่อนไปสหรัฐ เช่นปม “ขบวนการหมูเถื่อน” หรือปมอื่นๆ ที่ถูกจับตาเช่นกันว่าเมื่อนายกฯกลับมาจะมีความคืบหน้าหรือไม่
โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่ในสัปดาห์นี้มีความเคลื่อนไหวทั้งการวิพากษ์วิจารณ์จาก “ฝ่ายค้าน” อย่าง“ไหม-ศิริกัญญา” ที่แม้จะไปออกรายการดีเบตประเด็นนี้ กับ คนรัฐบาลที่ดูจะเข้าใจนโยบายนี้ อย่าง “หมอเลี๊ยบ”แต่ภาพที่ออกมายังเป็น “ลบ” กับรัฐบาล เช่นเดียวกับการออกมาชี้แจงของผู้เกี่ยวข้องจากรัฐบาลก็ยังถูกมองไปคนละทางเช่นเคย
อย่างล่าสุดเคส “ภูมิธรรม” ที่บอกว่ากำลังส่งไปยังกฤษฎีกา และยอมรับว่าจริงๆ รัฐบาลสามารถออกมาเป็น พรก.กู้ได้แต่เพื่อความสบายใจทุกฝ่ายจึงออกเป็น พรบ.กู้ ที่ต่อมากลายเป็นถูกวิจารณ์ว่า “ย้อนแย้ง” กับการอ้างเหตุผลการกู้ว่า“มีความจำเป็นเร่งด่วน” ทำไมไม่ออกเป็น พรก. ที่ยังไม่นับรวมความเคลื่อนไหวของเหล่าบรรดานักร้องที่ไปยื่นองค์กรอิสระเพื่อตั้งแท่นรอเอาผิด อย่างที่วันนี้ก็มี พี่ศรี “ศรีสุวรรณ” ไปยื่น ปปช.ที่ทั้งหมดถูกหลายฝ่ายวิเคราะห์ปลายทาง ไม่ว่าจะจบที่ “กับดัก” ในขั้นตอนใด คนรับหน้าเสื่อจะไม่พ้น “เซลล์แมนประเทศไทย” ที่ชื่อ “เศรษฐา”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
