“พวงเพ็ชร” ลงพื้นที่ตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ เน้นย้ำผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย รายการแสดงสินค้าต้องข้อมูลครบ แม้เป็นสินค้านำเข้าต้องมีฉลากภาษาไทยกำกับ พร้อมฝากผู้รับตรวจสอบของขวัญพบปัญหาสามารถคืนได้ภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567
นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบฉลากสินค้ากระเช้าของขวัญ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ปลัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตจตุจักร สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธินและสมาพันธ์ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้ากระเช้าของขวัญปีใหม่ จัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนด รวมทั้งเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เพียงพอ เกี่ยวกับสินค้าตามสิทธิผู้บริโภค ที่ห้างสรรพสินค้าท็อปส์ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว และห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาลาดพร้าว
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการแกะกระเช่าของขวัญปีใหม่ เพื่อตรวจสินค้าภายในอย่างละเอียด ว่าตรงกับรายการที่แสดงไว้หรือไม่ด้วย มีวันหยุดอายุหรือไม่ โดยจากการตรวจทั้ง 2 ปีไม่พบปัญหาใดๆ และผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ ทำตามกฎหมายเป็นอย่างดีเรียบร้อยดี
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี ผู้บริโภคนิยมซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ เพื่อมอบให้กับคนที่รักและเคารพ แทนความรัก ความห่วงใย และความระลึกนึกถึง ดังนั้น ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ จึงได้มีการจัดกระเช้าของขวัญปีใหม่ เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับผู้บริโภค ที่ผ่านมาผู้ประกอบธุรกิจได้ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่อาจมีผู้ประกอบธุรกิจบางรายกระทำการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ฉวยโอกาสนำสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือสินค้าใกล้หมดอายุมาบรรจุในกระเช้าของขวัญปีใหม่ไม่มีการแสดงรายละเอียดหรือข้อมูลของสินค้าอย่างถูกต้องและเพียงพอเพื่อให้ผู้บริโภคใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้า
การลงพื้นที่ในวันนี้ จึงเป็นการกำกับดูแล ตรวจสอบผู้ประกอบให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อเป็นการป้องกันการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ดังนั้น ผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ ขอให้พิจารณาจากข้อมูลในฉลากสินค้าอย่างรอบคอบว่าประกอบด้วยสินค้าอะไรบ้าง มีจำนวนเท่าไหร่ และสินค้าหมดอายุเมื่อใด พร้อมเน้นย้ำว่า สินค้าทุกอย่างต้องมีฉลาก แม้เป็นสินค้านำเข้า ก็ต้องมีฉลากภาษาไทย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า สำหรับผู้ที่ได้รับของขวัญ อยากให้มีการสำรวจของขวัญที่ได้รับว่า ตรงกับรายการสินค้าที่แสดงด้านหน้าหรือไม่ ทั้งวันหมดอายุสินค้า อย. สินค้าบุบเสียหายหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเกิดปัญหาสามารถเปลี่ยนคืนได้ภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมกำชับให้ผู้ประกอบการ ให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการส่งความสุขอย่างแท้จริงในช่วงเทศกาลปีใหม่
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญปีใหม่แสดงฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง ผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นการกระทำของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตามหากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจหรือพบว่ากระเช้าของขวัญปีใหม่ ไม่มีการจัดทำฉลาก สามารถแจ้งเบาะแสไปยัง สคบ. ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สายด่วน สคบ. 1166 หรือแอพพลิเคชั่น OCPB Connect หรือเว็บไซต์ www.ocpb.go.th
ขณะที่แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าหลังจากนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ตรวจตามร้านค้าต่างๆทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร แต่ยอมรับว่า การตรวจร้านค้าเล็กๆค่อนข้างลำบาก ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ค้าขายอย่างซื่อสัตย์ เพื่อคนรับของจะได้ดีใจ ที่ได้รับของขวัญที่คุณภาพ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews