“พรหมมินทร์” ยันหลัง พ.ค.67 หมดอำนาจสว.ไม่มีเปลี่ยนตัวนายกฯ
“หมอพรหมมินทร์” ลั่นรัฐบาลเพื่อไทย ใช้ความจริงใจทำผลงานสู้กระแส “พิธา-ด้อมส้ม” ยันประเทศไทยมี “เศรษฐา” เป็นนายกฯ คนเดียว ชี้ หลัง พ.ค.67 หมดอำนาจ สว.ไม่มีเปลี่ยนตัว
ที่ทำเนียบรัฐบาลนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสร้างความนิยมของรัฐบาลหลังทำงานมา 3 เดือนแต่ยังพบว่าผลสำรวจความนิยมคะแนนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังมาเป็นอันดับหนึ่งว่า ผลงานรัฐบาลได้พูดกับได้ทำเป็นคนละเรื่องกัน ที่ผ่านมาเราเดินหน้าเกณฑ์ทหารด้วยความสมัยใจ ปรับลดกำลังพลให้เหมาะสม ทำให้มีบทบาทเหมาะสมกับสถานการณ์โลก สมรสเท่าเทียม PM2.5 ดิจิทัลวอลเล็ต ยึดมั่นตามที่หาเสียงไว้และจะทำให้เป็นจริง เราขอโอกาสทำงานให้ประชาชนเป็นจริง
ส่วนที่บอกว่าทำกับพูดต่างกัน เชื่อว่าหากมีการสำรวจความคิดเห็นช่วง 6 เดือน คะแนนของพรรคเพื่อไทยจะกลับมานำหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดอย่างนั้นเราตั้งใจทำประโยชน์ให้ประชาชนทั่วประเทศโดยไม่เลิกทำเฉพาะพื้นที่ที่เรามี สส.
เมื่อถามว่าเราจะใช้อะไรมาเป็นตัวดึงกระแสให้กับรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ ระบุว่า ความจริงใจและผลงานการปฏิบัติ ตนเชื่อว่าหากเราได้ปฏิบัติและเห็นถึงความจริงใจของเราที่เป็นรัฐบาลของประชาชน
เมื่อถามว่าได้ประเมินการเมืองหลังเดือน พ.ค. 67 ที่ สว.ชุดปัจจุบันหมดวาระอย่างไรเพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทยจะมีอำนาจต่อรองทางการเมืองมากขึ้น นพ.พรหมินทร์ ระบุว่าถือเป็นการคิดแบบเก่าที่แบ่งเป็นพวกเป็นพรรค ส่วนฉายารัฐบาลที่สื่อตั้งให้ว่า “แกงส้มผลักรวม” ถือเป็นการรวมเพื่อประเทศรวมเพื่อประชาชน ต้องขอบคุณที่สื่อชมเราและเราก็ไม่ได้ไปแกงใคร
เมื่อถามว่า 4 ปีของรัฐบาล จะเห็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้ามามีตำแหน่งในรัฐบาลหรือเข้ามานั่งในตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ น.ส.แพทองธารเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย รัฐบาลให้ความสำคัญโดยให้เข้ามาช่วยงานรัฐบาล แต่แน่นอนที่สุดนายกฯ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องปรับเปลี่ยน
เมื่อถามว่าปีหน้าจะเห็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาให้คำแนะนำการบริหารประเทศของรัฐบาลหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ ระบุว่า ความคิดเห็นของทุกคนที่เป็นประโยชน์ไม่ใช่แค่ของนายทักษิณ รัฐบาลรับฟังทั้งสิ้น นายเศรษฐา รับฟังตลอดโดยเฉพาะเสียงประชาชน โดยนำมาปรับใช้สั่งการแก้ปัญหาต่างๆทันที
เมื่อถามย้ำว่าจะทำให้เกิดความสับสนหรือไม่ว่าจะต้องฟังเสียงนายเศรษฐา หรือนายทักษิณ นพ.พรหมินทร์ ระบุว่า นายกฯเศรษฐา เป็นคนรับฟังความคิดเห็นของใครก็ได้แล้วนำมาปรับใช้ ยืนยันว่านายกฯคือนายเศรษฐา
ส่วนปีหน้าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีสองคนเข้ามาบริหารประเทศ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ผมไม่ได้พูดไม่ได้หมายความอย่างนั้น สื่อคนที่ถามฟังภาษาไทยออกหรือไม่หรือหูอื้อ ผมพูดชัดเจนว่ามีนายกฯคนเดียว
ส่วนยืนยันหรือไม่ว่าศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า อำนาจไม่เคยไปจากที่ไหนเลย อยู่ที่นายกรัฐมนตรีชื่อเศรษฐา ทวีสิน เมื่อถามย้ำว่า เดือน พ.ค.เมื่อหมดอำนาจ สว.จะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯใช่หรือไม่ เลขาธิการนายกฯ ตอบว่าไม่มีครับ ทำไมต้องเปลี่ยนประเทศไทยได้ประโยชน์อะไรหรือ
ส่วนปี 2567 จะมีปัจจัยอะไรเสี่ยงต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ หรืออะไรที่กระทบรัฐบาลทำให้อยู่ไม่ครบวาระหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจโลก ส่วนเสถียรภาพของภาครัฐถือว่าแข็งแกร่ง ถ้ามุ่งต่อประโยชน์ประชาชนถือว่าเสียงเราดัง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews