กทม. เตรียมพร้อมป้องกันผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 21 – 22 มี.ค.นี้ สำรวจและติดตั้งเครื่องสูบน้ำจุดเสี่ยง
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึง กรณีกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือน พายุฤดูร้อน บริเวณประเทศไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 21-22 มี.ค.นี้ ซึ่งในช่วงวันดังกล่าวประเทศไทยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไปว่า สำนักการระบายน้ำได้เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ โดยตรวจสอบประสิทธิภาพของอุโมงค์ระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ และบ่อสูบน้ำให้พร้อมใช้งานทุกสถานี ลดระดับน้ำในคลองให้อยู่ในระดับต่ำ สำรวจและติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราวในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง เปิดทางน้ำไหล จัดเก็บขยะวัชพืช
สำรองเครื่องสูบน้ำกรณีฉุกเฉิน จัดหน่วยเร่งด่วน (BEST) พร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ให้สามารถเข้าพื้นที่ในทันที นอกจากนั้น ยังได้ประสานการไฟฟ้านครหลวงกรณีฉุกเฉิน หรือไฟฟ้าดับ รวมถึงประสานหน่วยงานภายนอกที่มีโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ หากพบสิ่งกีดขวางทางน้ำ กรุงเทพมหานครจะขอคืนพื้นที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ให้ส่งผลกระทบ หรือเกิดความเดือดร้อนกับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังได้เตรียมการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากป้ายโฆษณาล้มในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงจากพายุฤดูร้อน โดยให้สำนักการโยธาและสำนักงานเขตแจ้งเจ้าของป้ายโฆษณาให้ตรวจสอบการใช้งานและความมั่นคงแข็งแรงของป้าย หากพบป้ายโฆษณาที่มีสภาพเก่าชำรุดอาจเป็นอันตราย จะมีคำสั่งให้เจ้าของป้ายดำเนินการแก้ไข หรือให้รื้อถอน รวมทั้งดำเนินคดีกับป้ายที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมสำรวจตรวจสอบต้นไม้ขนาดใหญ่ ตัดแต่งกิ่งไม้ที่เสี่ยงต่อการหัก ฉีกขาดลดทอนความสูง ลดแรงปะทะของลมและฝน รวมทั้งค้ำยันให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรงถูกต้องตามหลักวิชาการ สำหรับกรณีต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่เอกชนให้ประสานเจ้าของพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news