Home
|
ข่าว

“ทัพช้างศึก” กลับบ้าน หลังจบภารกิจอุ่นเครื่องญี่ปุ่น

Featured Image
นักฟุตบอลทีมชาติไทย เดินทางกลับถึงประเทศไทยหลังเสร็จภารกิจ การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องกับทีมชาติญี่ปุ่น

 

 

 

 

วันที่ 2 มกราคม 2567 เวลา 17.00 น. ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ นักฟุตบอลทีมชาติไทย เดินทางกลับถึงประเทศไทยหลังเสร็จภารกิจ การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องกับทีมชาติญี่ปุ่น

 

การเดินทางครั้งนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชทีมชาติไทยและนักเตะบางส่วนไม่ได้เดินทางมาพร้อมกับทีม ซึ่งทีมชาติไทยจะรวมตัวกันอีกครั้ง ในวันที่ 7 มกราคม 2567 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ รอบสุดท้าย ที่ ประเทศกาตาร์

 

สุภโชค สารชาติ กล่าวว่า “สำหรับการเจอกับทีมชาติญี่ปุ่น เราได้อะไรดีๆ มาเยอะ ทั้งประสบการณ์ วิธีการต่างๆ ได้เห็นว่าระดับเรากับญี่ปุ่นเป็นอย่างไร ส่วนศึกเอเชียน คัพ ที่กาตาร์ ทุกคนก็พร้อม แต่จะต้องรอประกาศรายชื่ออีกครั้ง”

 

 

“เป้าหมายในทีมชาติไทยต่อไป ก็อยากช่วยทีมให้เยอะที่สุด ส่วนกับสโมสร (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร) ก็จะทำผลงานให้ดีเหมือนปีที่ผ่านมา”

 

 

ด้าน นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็คขวาทีมชาติไทย เปิดใจว่า “เกมกับทีมชาติญี่ปุ่นเป็นเกมที่ยากมาก พวกเขามีโครงสร้างทีมที่ดี นักเตะมีความรวดเร็ว แข็งแกร่งมาก และเป็นทีมอันดับ 1 ของเอเชีย เกมนี้เป็นงานที่ยากมากเพราะต้องเจอกับนักเตะที่มีความเร็วตลอดเวลา”

 

“สำหรับ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือใหม่ของทีมเขาเป็นโค้ชที่ดีมาก ส่วนเป้าหมายของผมกับทีมชาติไทยในตอนนี้ อยากจะพาทีมเข้ารอบในฟุตบอลโลก 2026 ให้ได้ และทำผลงานให้ดีในศึกเอเชียน คัพ ที่ประเทศกาตาร์ด้วย”

 

 

สำหรับ การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 นั้น ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่มเอฟ ร่วมกับ ซาอุดีอาระเบีย, คีร์กิซสถาน และ โอมาน โดยมีโปรแกรมกาารแข่งขันดังนี้

 

16 มกราคม 2567 ทีมชาติไทย พบ คีร์กิซสถาน เวลา 21.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ อับดุลดาห์ บิน คอลิฟา สเตเดียม

 

21 มกราคม 2567 โอมาน พบ ทีมชาติไทย เวลา 21.30 น.(ตามเวลาประเทศไทย) ณ อับดุลดาห์ บิน คอลิฟา สเตเดียม

 

25 มกราคม 2567 ซาอุดีอาระเบีย พบ ทีมชาติไทย เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube