รวม”วาทกรรม”เดือด! เชือดชำแหละ”งบปี67″

ศึกซักฟอกร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ. 2567 วาระที่ 1 เข้มข้น ดุเดือดพล่านไปด้วยวาทกรรมที่ฝ่ายค้ายพยายามประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อลดทอน ด้อยค่าฝ่ายรัฐบาล ด้วยประโยค วลี ถ้อยวาจา ที่เต็มไปด้วยคำเหน็บแนม ประชดประชัน แต่ทว่าก็เต็มไปด้วยความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ที่ฝ่ายรัฐบาลต้องพึงสำเหนียก และนำกลับฉุกคิด และกระเทาะกระพี้ออกเพื่อพึงสังวรณ์ถึงแก่นสำคัญหรือเนื้อหาเน้นๆที่ฝ่ายค้านถล่มนั้น มีความเป็นจริงมากน้อยสักเพียงใด

เปิดสมรภูมิด้วย เดอะต๋อม ‘ชัยธวัช’ ผู้นำฝ่ายค้าน อดีตบรรณธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน ผู้ช่ำชองในถ้อยอักษร มาครั้งนี้ พกวาทะกรรมเด็ด อย่างเช่นคำว่า”รัฐบาลรวมการเฉพาะกิจ แบ่งอำนาจกันชั่วคราว” หรือจะเป็นการล้อเลียนนโยบายเพื่อไทยด้วยประโยคที่ว่า “จากคิดใหญ่ทำเป็น กลายเป็นคิดไปทำไป มีจุดหมายรักษาสังคมแบบจารีต ” หรือจะเป็นเหน็บคนชั้น14ว่า “ตอกย้ำสังคมให้อยู่ในหลักนิติธรรมสองมาตรฐาน เรือนจำมีไว้สำหรับพลเรือนสามัญที่ไม่มีอำนาจเงินทอง”

และยังมีประโยคเด็ดอีกที่ว่า “ไม่ได้เห็นเจตจำนงค์รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งพยายามปฏิรูปรัฐไทยอย่างจริงจังอีก สาเหตุเพราะพลังการเมืองที่เป็นพลังใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันได้กลับไปร่วมสมาคมเป็นส่วนหนึ่งกับอำนาจเก่า” ก่อนที่ขมวดปิดท้าย “ขอสรุปภาพรวม ร่าง พ.ร.บ.งบ 67 ที่เสนอมา เป็นเบี้ยหัวแตก สะเปะสะปะ ไม่มียุทธศาสตร์ ทำงานอย่างไม่มีวาระเป้าหมายชัดเจน / หน้าปกอาจจะดูดี แต่พอเข้าไปดูไส้ในแล้วไม่ได้ยึดโยงกับเป้าหมายทางนโยบาย ”

ขณะอีกรายคือแม่เสือสาว “ศิริกัญญา”กับวลีเด็ด “ไม่มีประเทศไหนเขาทำกัน’ นึกว่าต้องแพ้พนันลาไปบวชชีแล้ว หลังพบตัวเลข GDP โต 5.4% ที่ไหนได้โกงสูตรรวมเงินเฟ้อเข้าไปด้วย” หรือจะเป็นวาจาสุดแสบว่า “รัฐบาลจัดสรรงบประมาณของตนเองได้ไม่ถึง 1 ใน 4 เพราะติดประเด็นรายจ่ายบุคลากร, ชำระหนี้ 4 หมื่นล้านบาท, เงินชดใช้เงินคงคลัง 1.1 แสนล้านบาท, งบผูกพัน 3.6 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลก่อนหน้านั้นเป็นผู้ดาวน์ และรัฐบาลของนายเศรษฐา ต้องผ่อนต่อ”