สเวน-โกรัน เอริคส์สัน อดีตผจก.ทีมชาติอังกฤษเปิดเผยว่าถูกวินิจฉัยป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จะมีชีวิตต่อไปได้ไม่เกินปี 2024
สเวน โกรัน อีริคส์สัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษออกมาเผยว่าเขาเป็นมะเร็งในระยะสุดท้ายและอาจจะอยู่ได้เพียงแค่อีกหนึ่งปีเท่านั้น
ก่อนหน้านี้วงการทราบคร่าวๆว่า กุนซือวัย 75 ปี ป่วย แค่ไม่รู้รายละเอียดกระทั่งล่าสุดเจ้าตัวเปิดใจว่าเนื้อร้ายได้กัดกินลุกลามจนการรักษาด้วยเคมีไม่มีผลอีก ระหว่างนี้อาศัยกินยาต้านมะเร็งและดูแลตัวเองเป็นพิเศษของวาระสุดท้าย
ล่าสุด อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษให้สัมภาษณ์กับ Sweden’s P14 radio station เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เขาเผยว่าเขาเป็นมะเร็ง “มันไม่ดีเลย ทุกคนเดาว่าผมเป็นมะเร็งและมันก็เป็นเช่นนั้น แต่ผมจะสู้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เมื่อถูกถามถึงการวินิจฉัยโรคของเขา เขาเผยต่อว่า “บางทีดีที่สุดผมอาจอยู่ได้อีกหนึ่งปี ถ้าแย่ก็น้อยกว่านั้น หรือดียิ่งกว่าก็อยู่ได้นานกว่านั้น”
“คุณไม่มีทางมั่นใจได้เลย มันดีกว่าที่จะไม่คิดถึงมัน”
“คุณสามารถบอกตัวเอง คิดแต่เรื่องดีๆ อย่าหมกมุ่นอยู่กับเรื่องร้ายๆ แน่นอนว่าเรื่องนี้มันเลวร้ายที่สุดแต่มันก็ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น”
เขายังเผยว่า เขาประสบอุบัติเหตุล้มลงในการวิ่ง 5 กิโลเมตรในช่วงต้นปีที่ แล้วภายหลังพบแพทย์เขาได้รับการแจ้งว่าเขาเป็นโรคหัวใจและมะเร็งในตอนนั้น
“พวกเขาไม่ทราบว่าผมเป็นมะเร็งมานานแค่ไหน บางทีอาจจะหนึ่งเดือนหรือหนึ่งปี”
สำหรับ ผู้จัดการทีมชาวสวีดิช คุม “สิงโตคำราม” ชุดโกลเดน เจเนอเรชัน (ยุคทอง) ปี 2001-2006 โดยมีกำลังสำคัญอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด, สตีเวน เจอร์ราร์ด,ริโอ เฟอร์ดินานด์, พอล สโคลส์, เดวิด เบ็คแฮม และ ไมเคิล โอเวน”
ตลอดอาชีพ อีริกส์สัน รับงานคุม 16 ทีมทั้งสโมสรและทีมชาติ เริ่มจาก ไอเอฟเค โกเตเบิร์ก และสร้างชื่อกับ ซามพ์โดเรีย และ ลาซิโอ 2 ทีมของ กัลโช เซเรีย อา
หลังแยกทาง “เดอะ ทรี ไลออนส์” อีริกส์สัน คุม แมนเชสเตอร์ ซิตี 1 ปี ก่อนกลับมารับงานทีมชาติระยะสั้นๆ กับ เม็กซิโก และ ไอวอรี โคสต์
อีริกส์สัน กลับมาคุม เลสเตอร์ ซิตี ก่อนออกจากเกาะอังกฤษ ปี 2011 คุม 3 สโมสรของ ไชนีส ซูเปอร์ ลีก และเกษียณจากอาชีพโค้ชกับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ปี 2019
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
