จังหวะ “นายกเศรษฐา”กำลังปั่นงานในฐานะ “นายกฯเซลแมนประเทศไทย”บินลัดฟ้าเยือนยุโรปร่วมประชุม World Economic Forum ประจำปี ค.ศ. 2024 หรือ WEF2024 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยทวิตX กลับมา ทำนองออกตัว ว่า ไปด้วยเครื่องพาณิชย์ มีผู้ร่วมเดินทางไปด้วยเท่าที่จำเป็น ตามข้อจำกัดหลายด้านรู้สึกสะดวก และกระชับ แต่มั่นใจ ว่า จะสามารถนำประโยชน์กลับมาให้ประเทศและคนไทยได้เต็มที่แน่ ในขณะภาพ”การเมือง”ในประเทศไทย ยังกระเพื่อมต่อจากวีกที่แล้วใน2ประเด็นที่ถูกจับตาทั้ง “ปมคนชั้น14″ที่ “กลุ่ม คปท.”แม้จะยุติการประชุมข้ามคืนหน้าทำเนียบฯตั้งแต่วันศุกร์(12ม.ค.)จนเมื่อวาน(14ม.ค.) แต่ก็ “ทิ้งทุ่น”จะกลับมาใหม่อีกครั้ง 2ก.พ. ขณะอีกประเด็น ยังคงมีการ “ต่อยอด”ปม “พรบ.กู้”ที่คาไว้จาก “ไฟไม่เขียว”ของกฤษฎีกามาจ่อที่”บอร์ดเงินดิจิทัล”ที่ “นายกฯเศรษฐา”เป็นประธาน ว่าจะเคาะออกมาอย่างไร เหมือนโฮลรอไว้ก่อน แม้ท่าทีจาก “นายกฯนิด”ยังคงยืนยันดันต่อถึงที่สุด
ที่ 2 ประเด็นดังกล่าวมีการฟอร์โลว์ต่อในกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติโดยสภาสูง สว.250 ที่สัปดาห์ที่แล้วแอ๊คชั่นล่าชื่อ1ใน3 หรือ 84 คน เพื่อขอเปิดอภิปรายโดยไม่ลงมติรัฐบาล ใน 7 ประเด็นปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน ตามม.153 ที่มี2ประเด็นข้างต้นเป็น “ไฮไลท์”ที่ปรากฏร่องรอย จากสว.บางส่วนอ้าง ว่า มีการ “ล็อบบี้”บรรดา สว.ไม่ให้ร่วมลงชื่อเพื่อ เปิดอภิปราย อย่างที่ “สว.กิตติศักดิ์ บอก ว่าอย่าเรียกว่าเป็นการล็อบบี้ หรือการสกัดเพราะ สว. 250 คน มีเอกสิทธิ์ในการที่จะโหวตอย่างไรก็ได้ การจะร่วมลงชื่อหรือไม่ลงถือเป็นเอกสิทธิ ส่วนการโน้มน้าวไม่ให้ สว.ร่วมลงชื่อโดยอ้างเรื่องว่ารัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศ และมีความกังวลในเรื่องของชั้น 14 ที่ “นายทักษิณ”เข้าพักรักษาตัวนั้น จากการได้ฟังมาหลายฝ่ายบอกได้เลยว่าในอนาคต จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เพราะเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนมา และ มองว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะมาตอบทั้งเรื่องของเงินดิจิทัล เรื่องนายทักษิณและเรื่องเศรษฐกิจ เพราะ สว.หลายคนทำการบ้าน และหาข้อมูลเรื่องนี้ที่จะอภิปรายโดย “สว.กิตติศักดิ์”ย้ำว่าเรื่องของ “ทักษิณ”ไม่พ้นที่จะถูกนำมาอภิปรายอยู่แล้ว ส่วนมีข้อมูลอะไรแตกต่างจากที่หลายฝ่ายตรวจสอบอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับ สว.ที่ศึกษาและเก็บข้อมูล ซึ่งมีไว้มากพอสมควร ส่วนใครเป็นคนอภิปรายไม่สามารถเปิดเผยได้ถือเป็นความลับ
กระนั้นอีกประเด็นปัญหาการบริหารจัดการของรัฐบาล แบบ”คู่ขนาน”ที่หลายฝ่ายกำลังจับตาว่าจะส่งผลกระทบกับ โหมดการเมืองนั้น เริ่มมีการจับตา “ผลพวง”จากปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการ “หมูเถื่อน”ที่ไฟเขียวเร่งรัดมาจาก “นายกฯเศรษฐา”ของ DSI ที่ก่อนหน้านี้”บิ๊กDSI”เคยเจอพิษ “หมูเด้ง”ไปแล้วรอบแรกหลังไปบุกค้น “เอกชนเจ้าใหญ่”เข้า โดยหนนี้ อ่านจากภาษากายของ “ผู้กองนัส”รมว.เกษตรฯ ที่ส่ง “สัญญานเข้ม”ๆแบบดุดันไม่เกรงใจใคร เมื่อวันเสาร์(13ม.ค.)ย้ำเตือนแรงๆให้ระวังต้องรับกรรมหรือต้องรับผิดชอบหากไปทำนอกสั่งที่ฝ่ายราชการในกระทรวงเกษตรกำลังดำเนินการ โดยส่งสัญญาน ไปถึงฝ่ายเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ เหล่าบรรดา เจ้าหน้าที่ DSI ที่กำลังคลี่ปมคดีนี้ ที่วีคที่แล้ว มีการเปิดผัง “ขบวนการหมูเถื่อน”ระดับ บิ๊กๆ ที่โยงใยกับ “เฮียเก้า”และกลุ่ม “คนจีน”
ที่ เมื่อไปดู”ไส้ใน”บรรดา “ตัวละคร”ทำท่าว่าจะโยงไปยัง “นักการเมืองใหญ่”ระดับ “บิ๊ก”ใน2พรรคการเมือง ที่เคยร่วมรัฐบาลในยุค”ลุงตู่” เป็น “ผู้กองนัส”ที่แม้จะมีภาพร้องเต้นเพลงเดียวกันในช่วงงานปีใหม่ กับ รมช.เกษตร “ไชยา”ผู้เคยบอกว่าได้รับคำสั่ง “สายตรง”จาก “นายกฯนิด”ให้บดขยี้จิกกัด “ขบวนการหมูเถื่อน”แต่ก็ต้องมา “สะดุดตอ”จนต้องถอยฉาก เพราะไม่มีข้าราชในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ความร่วมมือ แม้จะมีภาพขึงขังกำชับ ด้วยตัวเองของ “นายกฯนิด”กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีหน้าที่จัดการ “ขบวนการหมูเถื่อน”ให้เอาจริงเอาจังไปแล้วก็ตาม ที่ประเด็น “หมูเถื่อน”อันถือเป็น “อีกงาน”ของ “นายกฯนิด”ที่ข้ามปีมาเช่นเดียวกับ “ดิจิทัลวอเล็ต”นี้ กำลังถูกจับตาว่าจะเกิดปรากฎการณ์ “หมูเด้งภาค2″อัน “ซ้ำรอย”กับ “บางคดีใหญ่”ซึ่งเกี่ยวข้องขบวนการยาเสพติด ที่เกี่ยวของกับ”ผู้มีอิทธิพลการเมือง”ถูกกล่าวหาว่าไปเกี่ยวข้องทั้งญาติหรือลูกน้อง ที่ต่อมา”ฝ่ายปฏิบัติการ”ทีลงทุนลงแรง “สอบสวน”จนสาวถึงขบวนการแล้ว แต่กลายเป็นเจ้าหน้าที่เหล่านั้นถูกเด้งกระจาย หรือไม่ ที่ประเด็นนี้ยังถูกมองว่า ไม่ว่าออกมาหน้าไหนผลอย่างไรก็ส่งผลกระทบทางการเมืองโดยเฉพาะการนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ภายในของรัฐบาล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews