“แลนด์บริดจ์” คั่นเบรค “ดิจิทัล”
เปิดทำการมาวีคนี้ ทุกฝ่ายหันมา “บิ๊ว” “โครงการแลนด์บริดจ์” ในพื้นที่ภาคใต้ที่ “นายกฯ” ลงทุน ขน ครม.ไปประชุมสัญจรที่ระนอง ที่เป็นหนึ่งในพื้นที่โครงการร่วมกับชุมพรที่จะเป็นสถานที่ก่อสร้าง โดยคนที่ยิ้มกว้างคือ ภูมิใจไทย “หัวหน้าหนู-อนุทิน” ไม่แต่เพราะถูกแซวเป็น “เขยระนอง” เพราะแฟนสาวเป็นคนระนอง
หากแต่รู้กันดีว่าเอาเข้าจริงโครงการนี้เป็นของ “ภูมิใจไทย” ที่ผลักดันมาตั้งแต่ยุค “ลุงตู่” แล้ว แม้ในช่วงต้น “รัฐบาลเศรษฐา” จะทำท่าไม่บรรจุในนโยบายแต่ที่สุดก็มาบรรจุไว้ แถมอยู่ ๆ ยังจัดครม.สัญจรที่นี่ และทำท่าว่าบรรยากาศที่ว่าจะมีม็อบต้านแรงก็ดูเรียบร้อย ส่วนหนึ่งอาจเพราะพื้นที่ระนอง มีผลกระทบเพียง20% ส่วนอีก80% ไปอยู่ที่ จ.ชุมพร
แม้จะมีภาพฟอร์โลว์ต่อจากสัปดาห์ที่แล้วที่ 2 ประเด็นไฮไลท์ที่ “รัฐบาลเศรษฐา”ตกเป็นเป้าถล่มอย่าง ดิจิทัลวอเล็ต และ กรณี “คนชั้น14” ถูกมัดรวมกระเพื่อมเคลื่อนไหวจากฝ่ายต่าง ๆ ที่เคยเป็น “โจทย์เก่า” ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม คปท.และกลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆหรือแม้กระทั่งการขยับของ สว.250 ที่ถูกวิเคราะห์ จะ “ฝากผลงาน” การทำหน้าที่ ไว้ให้จดจำกับการ “เปิดศึกซักฟอกรัฐบาลโดยไม่ลงมติ “ใน7 ประเด็น ที่มาวันนี้(22ม.ค.)ได้ฤกษ์รวบรวมชื่อ 98 สว.ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป กับ “ประธานวุฒิ-พรเพชร”
โดยบอกต้องการให้เห็นปัญหาการทำงานที่ผ่านมาและย้ำไม่มีเจตนาล้มรัฐบาล ซึ่งประธานวุฒิเตรียมประสานงานรัฐบาลวันนี้ก่อนปัดเป็นผลงานโบว์แดงทิ้งทวน สว. อย่างที่ “สว.เสรี”บอกว่าจะเน้นปมแจกเงินดิจิทัลและกรณี “ทักษิณ” ที่กระทบกระบวนการยุติธรรม
ในขณะที่ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาในประเด็น “คนชั้น14” ก็มีโพลนิด้าออกมาสำรวจในหัวข้อกรณีทักษิณกับความอยู่รอดของรัฐบาลที่ออกมา ทำนองว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 39.6%เห็นว่าประเด็นนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับความอยู่รอดของรัฐบาลเศรษฐาแถมยังมีความเห็นกรณีจะมีการชุมนุมประเด็นนี้ของกลุ่มต่อต้าน จะลุกลามนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่ที่ส่วนใหญ่มากกว่า 41% เห็นว่าจะไม่นำไปสู่วิกฤตการเมืองรอบใหม่แน่นอน
และถึงมีก็จะไม่ใหญ่โตเหมือนในอดีต จนทำให้ “สว.สมชาย” ออกมาเปรยดัง ๆผ่าน FB ว่า “เอาเลยครับ เอาที่สบายใจ ปล่อยวางกันให้หมด ปล่อยนักโทษกันให้หมดทุกเรือนจำไปเลยถ้าคนในสังคมไทย เห็นว่าไม่มีปัญหา ธุระไม่ใช่ !!! #คุกมีไว้ขังคนจน”
ในขณะที่ประเด็น “ดิจิทัลวอเล็ต” มีคนรัฐบาลอย่าง “พิชิต” ที่ปรึกษานายกฯออกมาเหน็บไปที่บางฝ่ายบางองค์กร ทำนองข้อเสนอเรื่องนี้ที่ออกมาในช่วงนี้ถูกจังหวะหรือไม่เพราะอาจเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยพูดไปถึงเอกสารที่ออกมาจากคณะทำงานศึกษาประเด็นนี้จากปปช. ในขณะที่ “รมช.จุลพันธ์” มีการออกมาพูดถึงผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้รัฐบาลเร่งโครงการแจกเงินดิจิทัลให้เกิดความชัดเจนโดยเร็วว่าไม่ถือเป็นการกดดัน และ ว่า รัฐบาลยังไม่ได้รับหนังสือของผู้ตรวจการแผ่นดินหากส่งมาถึงก็จะไปชี้แจงทำความเข้าใจ
และพร้อมตอบ และส่งรายละเอียดโครงการให้ทราบไม่ว่าจะเป็นส่วนงานใดที่ประสงค์อยากทราบข้อมูลและว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ต่างจากเดิม โดยรัฐบาลรอความเห็นจาก ปปช.เมื่อส่งมาแล้วก็จะนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลเพื่อหาหนทางดำเนินการต่อและชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายให้ตรงกัน
เรียกว่ากลายเป็นว่าสัปดาห์นี้ ครม.สัญจร 2-3 วัน ที่โฟกัสเป้าไปที่โครงการแลนด์บริดจ์ที่ระนองแถมวันพุธที่ 24 ม.ค.ยังมีเคส ศาลตัดสินคดี “พิธา” ถือหุ้นถูกประเมินว่า กลายเป็นเหมือน “คั่นเบรก” 2 ประเด็นไฮไลท์ทั้ง ปม “คนชั้น14” และปมดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีการเคลื่อนขยับเร้าสถานการณ์มาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วและเตรียมขยับต่อในสัปดาห์นี้ผ่านการแอ๊คชั่นของ สว.ไปโดยปริยาย.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews