ปธน.เยอรมันยินดีการเมืองไทยเข้มแข็ง หลังผ่านการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย ชี้ คำพิพากษา”พิธา” รอดหุ้นสื่อ ถือเป็นการพัฒนาการเมืองไทย พร้อมร่วมผลักดันเอฟทีเอไทย-อียู สำเร็จโดยเร็ว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวร่วมกับนายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ภายหลังการหารือข้อราชการโดยนายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระบุว่า ประเทศไทยและเยอรมนีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันกว่า 160 ปี ซึ่งได้ทำการค้า และสำรวจเส้นทางเดินเรือ ตั้งแต่เป็นประเทศสยาม จึงเกิดความสัมพันธ์ข้ามระยะเวลามานาน และวันนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ประเทศไทย ที่มีเสรีภาพและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
เพราะผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเข้มแข็ง และรัฐบาลนี้ที่นำโดยนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ขอให้ประสบผลสำเร็จ และร่วมผลักดันความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวท่อง ซึ่งในปี 2566 มูลค่าการลงทุนมีถึง 1 4,000 ล้านยูโร โดยประเทศไทยมีบริษัทสัญชาติเยอรมันกว่า 600 แห่งเข้ามาลงทุนภายในประเทศ รวมถึงสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกันการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศในทุกๆ ปีมีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันกว่า 2 แสนคน เดินทางเข้ามายังประเทศไทย จึงหวังว่าทั้ง 2 ประเทศจะมีความร่วมมือ ประสานทำงานร่วมกันในด้านนี้
ทั้งนี้มีความคาดหวังว่าประเทศไทยจะให้ความร่วมมือในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ในขณะเดียวกันก็ต้องการเห็นการสร้างความเข้มแข็ง ในการอำนวยความสะดวก ในการลงทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการสนับสนุนเขตการค้าเสรีหรือ FTA ระหว่างสหภาพยุโรป และประเทศไทย โดยหวังจะเห็นการบรรลุข้อตกลงนี้ในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งประเทศเยอรมนีพร้อมที่จะขยายความร่วมมือ โดยเน้นนโยบายลดการพึ่งพาฝ่ายเดียว ขยายการค้าการลงทุนมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยถือว่ามีภูมิศาสตร์ประเทศที่ดีในการทำการค้า
ขณะเดียวกันมีจุดยืนในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ พร้อมกันนี้ตนเองยังได้หารือเรื่องสิทธิบทบาทของภาคประชาสังคม ซึ่งตนเองก็ยินดี ภายหลังได้รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ชี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ไม่พ้นความเป็นสมาชิกภาพ สส. และได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ สส.ต่อ โดยคำพิพากษาถือว่าออกมาดี ซึ่งเป็นการดำเนินการทางการเมืองที่ดีของไทย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการตอบคำถามสื่อมวลชน ที่ได้สอบถามถึงความร่วมมือที่ชะงักไปในช่วงที่ผ่านมาจนถึงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีเยอรมนี กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งของไทย มองเห็นแนวทางเชิงบวกในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน ตนเห็นในความเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรี ขณะที่คดีของนายพิธา ก็แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพในการแสดงออก
ส่วนนายเศรษฐา ได้ย้ำว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ตลอดเวลาที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ได้ให้สิทธิเสรีภาพอย่างเหมาะสมภายใต้กรอบกฎหมาย และสนับสนุนด้านนี้อย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องการค้าระหว่างประเทศตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา เราเดินทางไปทั่วประเทศและทั่วโลก ขณะที่จุดยืนทางการเมือง เรายึดมั่นในความเป็นกลาง ไม่สนับสนุนความขัดแย้ง พร้อมช่วยเหลือให้คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews