มาตามนัด!”ศรีสุวรรณ”ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด ส.ส.-ส.ว.รวม 208 คน เห็นชอบร่างแก้ รธน.วาระ3 อาจเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ ลั่นไม่กลัวฟ้องกลับ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยกรณีกลุ่มสสและสวจำนวน 208 คนให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ฝ่าฝืนคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น ส.ส.และส.ว. 208 คน ถือว่าเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ จึงขอ ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยลงโทษตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้พรรคการเมืองอีกไม่น้อยกว่า8พรรคที่ให้ความเห็นชอบในวาระ 3 อาจเข้าข่ายความผิดตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ม.92(2)มีโทษถึงขั้นอาจถูกยุบพรรคได้ จึงขอให้มีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ไม่เกรงกลัวหากมีการฟ้องร้องกลับมายังตนเอง เพราะหากตนกลัวตนคงไม่ยื่นร้อนเรียนต่อหน่วยงานต่างๆมาตลอด อีกทั้งหากมีการฟ้องจริงแล้วศาลยกฟ้องตนก็ฟ้องกลับได้อีกเช่นกัน ฐานนำความเท็จขึ้นสู่ศาล
“ศปปส.” จี้” ประธานสภา” สอบจริยธรรม ส.ส.ก้าวไกล หลังชูป้ายกลางหน้าประชุมเรียกร้องปล่อยตัวผู้ต้องการคดี 112
ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบ จรรยาบรรณความเหมาะสมและทัศนคติ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีต่อสถาบัน เนื่องจากในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มี ส.ส.พรรคก้าวไกลนำรูป 11 ผู้ต้องหา มาตรา 112 ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ พร้อมป้ายที่มีข้อความว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” มาชู พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องหาทั้งหมด
ทางกลุ่มจึงเห็นพฤติกรรมของ ส.ส.พรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งเป็นผู้แทนของประชาชน ที่ต้องดำรงรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยที่ผ่านมาทางกลุ่มและกลุ่มอื่นๆ เคยมายื่นต่อประธานสภาฯ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ส.ส.เหล่านี้ตั้งแต่เรื่องที่ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มที่เคลื่อนไหวจาบจ้วงสถาบัน มาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้าว่า สภาฯ จะดำเนินการอย่างไรกับ ส.ส.กลุ่มนี้ วันนี้จึงขอมายื่นเรื่องดังกล่าวและขอทวงถามเรื่องที่เคยยื่นไปแล้วด้วย
ด้านนายสมบรูณ์ กล่าวว่า การตรวจสอบจริยธรรมของ ส.ส.เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจริยธรรม หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถยื่นคำร้องมาให้ประธานสภานำเรื่องตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ส่วนตัวจะนำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และจะนำเรียนความคืบหน้าให้กับทางกลุ่มได้ทราบอีกครั้ง
“ชวน”ยันคุย”วิษณุ-พรเพชร”แล้ว เปิดวิสามัญถก พรบ.ประชามติ 7-8 เม.ย.ได้ โยนถามรัฐบาลเรื่องยุบสภา เมิน “ศรีสุวรรณ”ร้องเอาผิด 208 ส.ส.-ส.ว.
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ประธานวุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรแล้วว่าสามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 -8 เมษายนนี้ได้ เชื่อว่า ใช้เวลา พิจารณา 2 วัน ก็จะเพียงพอ ขณะนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ก็ยืนยันว่า จะพิจารณาให้แล้วเสร็จ เพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระได้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด ส่วนกระแสข่าวให้มีการยุบสภา นายชวน ระบุว่าต้องถามฝ่ายรัฐบาลว่า จะดำเนินการอย่างไร แต่ขณะนี้รัฐสภายังไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการยุบสภา
สำหรับกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีสมาชิกรัฐสภา 208 คน ลงมติให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าชอบด้วยกฎหมายและขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายชวน กล่าวว่า ให้เป็นไปตามกฎหมาย ใครถูกร้อง ก็ต้องเตรียมตัวแก้ข้อกล่าวหาตาม ที่ถูกร้อง แต่ย้ำว่าการลงมติในวันดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายและ ข้อบังคับ เมื่อถามย้ำว่าการลงมติครั้งนี้ ผิดตั้งแต่การเสนอญัตติแล้วหรือไม่ นายชวน ระบุว่า ให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเอง
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึง กรณีที่นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ขอให้ตรวจสอบ กรณีที่มี สส. เข้าร่วมการชุมนุม เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่สนามหลวงถือว่า มีความผิดทางจริยธรรม และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่
นายชวน ระบุว่า ตอนนี้ไม่สามารถวินิจฉัยแทนใครได้ เพราะความผิดต้องพิจารณาจากเจตนาด้วย และต้องรอให้มีผู้ร้องมาก่อน และต้องรอผลจากการวินิจฉัยด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
