ดีลลับ“ยิ่งลักษณ์”กลับไทย-ปรับครม.?
ประเด็นกลับบ้าน “จันทร์ส่องหล้า”ของ “ทักษิณ” ยังไม่ทันซาไปจากเสียงโจษขาน ว่าด้วยอาการป่วย ผ่านภาพที่ปรากฎทั้ง ระหว่างการอออกมาจากโรงพยายาบาลตำรวจที่สื่อถ่าย และ ที่ออกมาจากริมสระน้ำในบ้านจันทร์ส่องหล้าที่ “อุ๊งอิ๊งค์”ลูกสาวคนเล็ก นำมาโพสในIG จนมาถึงภาพที่นั่งบนรถเข็นสภาพเหมือนคนป่วย ระหว่างการไปรายงานตำรวจกับอัยการคดี ม.112 ที่เมื่อวาน(19ก.พ.) “อัยการ”บอกแล้วว่า “อาการป่วย-ขั้นวิกฤติ”จึงให้ประกันไป ท่ามกลางเสียงวิจารณ์“2มาตรฐาน” แม้ในทางกระบวนการกฎหมาย จะได้รับการยอมรับ“การพักโทษ”หลังได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี เท่ากับ เหลือเวลาที่“ทักษิณ” จะถูกควบคุมตัวอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หลังลงมาจากห้องผู้ป่วยชั้น14 อีก 6 เดือน
หากแต่ ที่เป็นประเด็นคือ เงื่อนงำ ความเหมาะความสม ที่ถูกสังคมกังขา กับ อาการป่วยที่ไม่เคยเปิดเผย และกลายเป็น “ข้ออ้าง”การไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำ แต่มารักษาตัวที่รพ.ตำรวจ ตั้งแต่คืนวันที่ 22 ส.ค.67 ในวันเดียวกับที่ “รัฐสภา”มีการโหวตให้ “เศรษฐา”เป็นนายกฯคนที่ 30 กระทั่งถึงวันที่ 18 ก.พ.ที่ลงจากชั้น14รพ.ตำรวจ ยิ่งเมื่อมาปรากฏ 3 ภาพไปผนวกกับที่ “ทักษิณ”
เคยประกาศไว้จะกลับบ้านอย่างเท่ๆ เพราะไม่ได้มีความผิด ก็ยิ่งทำให้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ และประเด็นนี้ถูกมองว่ากำลังสะสมอุณหภูมิร้อนไปเรื่อยๆแบบพร้อมประทุ แม้ยังไม่นับรวมท่าทีผู้คนในรัฐบาล ไม่แต่ “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง”หรือบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล “กลุ่มอำนาจเก่า”ที่ดูท่าจะยอมรับให้ “บ้านจันทร์ส่องหล้า”เป็น “ศูนย์กลางจักรวาลอำนาจการเมือง”หลังผ่าน6เดือนจากนี้ กับบทบาท “นายกฯเงา”ที่มีอำนาจของ “ทักษิณ”
กระนั้นก็มีจังหวะ“ตัดแทรก”ที่น่าสนใจระหว่างที่ประเด็น “ทักษิณ”ที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ แม้ว่าคดี112 จะถือเป็นคดีสุดท้ายที่จะไปเคาะกันอีกที่ 10เม.ย.67 โดย จู่ๆ ก็มีประเด็น “ดีลลับยิ่งลักษณ์”ต้องการกลับไทยถูกเปิดขึ้นมา จากที่ “นักข่าว”นำมาถามถึงท่าทีรัฐบาลต่อเรื่องนี้กับ “นายเศรษฐา”วันนี้(20ก.พ.)ที่ทำให้ “นายกฯนิด”ต้องรีบออกตัวปฏิเสธ โดยยืนยันว่ายังไม่มีเรื่องนี้เข้ามา และย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมี “ดีลลับ”นั้น ยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่าตั้งแต่ “ทักษิณ”กลับไทยในวันที่ 22 ส.ค.66 ทุกอย่างเป็นไป
ตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน “นายกฯนิด”ยังพูดถึง แนวคิดการควบ รมว.กลาโหม หลังมีข่าวการปรับ ครม. ว่า วันนี้ รมต.ทุกคนพยายามเร่งเข็นผลงานออกมา ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ส่วนการเดินสายพบกับผู้นำเหล่าทัพ เป็นการไปเจอเจ้าหน้าที่หลายกระทรวงทบวง กรม ไม่ได้มีนัยยะอะไร
เรียกว่าปม “ดีลลับกลับบ้านยิ่งลักษณ์”ตามพี่ชายนั้น ถูกจับตาล้อไปกับภาพคู่ขนานทั้งคดีของ “ทักษิณ”ที่มีแนวโน้มใน3ทางจากอัยการ ที่ทุกฝ่ายประเมิน “ทิศทางลม”จะออกมาในทางเป็น “บวก”กับ “ทักษิณ”อันสะท้อนมาสู่ “สัญญาณ”ไปสู่ “ดีลลับ”การกลับประเทศไทย ในเส้นทางโมเดลเดียวกันกับ “พี่ชาย”ของ “ยิ่งลักษณ์”ที่มี คดีติดตัวหลายคดี โดยมี “คดีจำนำข้าว”ที่ถูกตัดสินลงโทษจำคุก5ปีและมีคดีที่กำลังจะตัดสินใกล้ๆนี้ คือ กรณีการ“จัดโรดโชว์ โครงการสร้างอนาคตไทย 240 ล้าน ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษาวันที่ 4 มี.ค.67 นี้ หลังมีการไปติดประกาศแจ้งให้ ‘ยิ่งลักษณ์”ที่ถูกออกหมายจับเพราะหนีไปต่างประเทศ รับทราบเป็นทางการไปแล้ว
ที่ต้องไม่ลืมว่า “อ.วิษณุ”อดีตรองนายกฯ “รัฐบาลลุงตู่”เคยออกมาเหมือน “ชี้ช่อง”ทางกฎหมายในที ต่อการกลับประเทศขอ “ยิ่งลักษณ์” ไว้ช่วงปลายเดือน ธ.ค.ปี66 ก่อนวันที่ศาลฎีกาการเมืองยกฟ้องและเพิกถอนหมายจับ(26ธ.ค.66) ในคดีย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” โดย “อ.วิษณุ”ตอนนั้น บอกว่า “ยิ่งลักษณ์”จำเป็นต้องกลับมา “รับโทษ”ก่อนเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ที่ช่วงนั้นถูกมองว่าเป็น “สัญญานแรก”ของการจะกลับไทยของ “ยิ่งลักษณ์”แต่ต้องหลังจากดีลของ“ทักษิณ”บรรลุผลไปแล้ว อย่างที่สะท้อนผ่านภาพการกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อวันอาทิตย(18ก.พ.)ที่ผ่านมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
