Home
|
ข่าว

เริ่มแล้ว! สภาพิจารณายกเลิกคำสั่ง คสช.

Featured Image

 

 

 

 

เริ่มแล้ว สภาฯ ถกยกเลิกคำสั่ง คสช. บริหารภาคใต้-กำหนดหน้าที่ กอ.รมน. ขณะ ปชป. ชี้ ปัญหาในพื้นที่ คนท้องถิ่นต้องมีส่วนร่วม ส่วน ก้าวไกล ไม่เข้าใจ ซัดฤทธิ์เดช คสช. ใช้อำนาจตัดลูกหลานชายแดนใต้ ด้าน “ชูศักดิ์” มองคำสั่ง คสช. รวมอำนาจที่นายกฯ คนเดียว

 

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเลิกคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 14/2559 เรื่องคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการกำหนดหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่นายยูนัยดี วาบา สส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ และคณะเป็นผู้เสนอ โดยมีร่างในทำนองเดียวกันอีก 2 ร่างที่เสนอโดยนายรอมฏอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มาประกบ

 

 

 

โดยนายยูนัยดี เสนอหลักการว่า การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะพิเศษในหลายด้าน ทั้งด้านศาสนา ภาษา เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ที่ผ่านมามีสถานการณ์ความไม่สงบเป็นเวลานานเกือบ 20 ปี ปัญหาที่เกิดขึ้นมีความละเอียดอ่อน มีความซับซ้อน เชื่อมโยงหลายมิติ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ จึงมี พ.ร.บ. การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้พ.ศ. 2553 เป็นกฎหมายตราขึ้นเพื่อให้มีหน่วยงานหลักมีการบูรณาการพัฒนาแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ให้เป็นระบบ ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญ เช่น ให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์ เห็นชอบแผนงานโครงการจัดตั้งงบประมาณ มีการตั้งสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) เป็นกลไกลสำคัญในการพัฒนาแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้ มีการกำหนดให้มีตัวแทนจากคนในพื้นที่

 

 

 

ต่อมาได้มีคำสั่ง คสช. ที่ 14/2559 ทำหน้าที่แทน โดยกำหนดองค์ประกอบขึ้นใหม่ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา ไม่มีบทบาทในการแก้ไขปัญหา ให้เกิดความสงบสุขในท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ ตนและคณะจึงเสนอให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว และให้สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้กลับมาบริหารงานดังเดิม

 

 

 

ขณะนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอหลักการแทนนายรอมฎอนว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้มีมายาวนนานมากกว่า 100 ปี ร่างของพรรคก้าวไกลต้องการยกเลิกคำสั่ง คสช. เป็นการล้างมรดกของการรัฐประหาร เป็นการฟื้นสภาที่ปรึกษาชายแดนภาคใต้ ฟื้นพลเรือนให้มีบทบาทในการแก้ไขเหนือทหาร แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์

 

 

ทั้งนี้ การพูดถึงเขตปกครองพิเศษอาจมีความจำเป็น การพูดถึงการให้เขาได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่จะดูแลปัญหาพื้นที่ภาคใต้ด้วยรูปแบบการปกครองนั้นอาจมีความจำเป็น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดหลังจากรัฐประหาร 2557 ที่ผ่านมา อย่างน้อยที่สุด มีทั้งหมด 4 คำสั่ง รวมถึงประกาศที่ส่งผลถึงการทำหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

 

 

นายณัฐวุฒิ ยังเล่าถึงคำสั่งต่างๆ ทั้ง 4 ฉบับ พร้อมกล่าวว่า ตนถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการมาชี้แจงต่อวิปฝ่ายค้านว่าความจำเป็นคืออะไร แต่หน่วยงานตอบว่าก็เป็นตามคำสั่ง ตนจึงต้องไปอ่านว่าคำสั่งเขียนว่าอย่างไร ก็พบว่ามีเหตุผลจำเป็นบางประการที่ทำให้การใช้กฎหมายในชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะสภาที่ปรึกษา ไม่อาจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่มีคำตอบว่าเป็นอย่างไร

 

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ตัดเขาไปได้อย่างไร ลูกหลานเจ้าหน้าที่ของรัฐ คนในพื้นที่ ตัดอำนาจเขาได้อย่างไร ตนไม่เข้าใจวิธีคิดและมุมมองของฝ่ายรัฐ ใช้วิธีแบบเดิม ผลก็เป็นแบบเดิมและมีความรุนแรงเพิ่มขั้น เป็นฤทธิ์เดชของ คสช.

 

 

ด้านนายชูศักดิ์ เสนอหลักการว่า คำสั่ง คสช 14/2559 เป็นการรวมศูนย์อำนาจไปไว้ที่ส่วนกลางเพื่อเสนอนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีตัวแทนจากแต่ละภาคส่วน การบริหารเช่นนี้เป็นผลทำให้การบริหารปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งยังมีปัญหาเพิ่มขึ้น แม้แต่รัฐบาลปัจจุบันก็ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากหลายหน่วยงานว่า ควรยกเลิกคำสั่ง คสช. แล้วกลับไปใช้กฎหมายเดิม กล่าวได้ว่าทั้ง 3 ร่าง พ.ร.บ. ที่มีผู้เสนอมา มีเจตจำนงเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์

 

 

ส่วนระบบกฎหมายของไทยขณะนี้ ถ้าท่านยึดอำนาจการปกครองประเทศ แล้วออกคำสั่งประกาศต่างๆ ใช้เวลาเท่าใด บางท่านก็ว่าใช้เวลาวันเดียว พอยึดอำนาจแล้วศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ออกกฎหมายอะไรได้หมด ครั้นเราจะยกเลิก ต้องเสนอร่าง พ.ร.บ. ผ่านวาระต่างๆ อาจใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนหรือเป็นปี เรื่องนี้สภาผู้แทนราษฎรควรต้องตระหนัก ว่าระบบแบบนี้ควรหมดไปจากประเทศไทย โดยทั้งสภาฯ และศาล ต้องไม่ยอมรับประกาศคำสั่งใดๆ ไม่ยอมรับการยึดอำนาจรัฐประหาร ว่าไม่ใช่สิ่งดีงาม ไม่ร่วมมือด้วย ฝากเป็นข้อคิดอุทาหรณ์ไปยัง สส. ว่าเราควรต้องตระหนักถึงหน้าที่ของเราในส่วนนี้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube