เหมือนถูกวางสคริปต์ จากภาพ “ซูเปอร์VIP” เพื่อนเลิฟเก่าแก่กับ “ทักษิณ” อย่าง “ฮุนเซน” มาเยี่ยมกินข้าวด้วยกันถึง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” หลังกลับจาก “ชั้น14 รพ.ตำรวจ” แบบเท่ ๆ มาได้วันสองวัน โชว์ภาพสัมพันธ์ปึ๊ก ที่ถูกตีความไปต่างๆ นานา
ทั้ง การโชว์พาวเป็นออเดิร์ฟว่าอยู่ในระดับ “ซูเปอร์คอนเนคชั่น” ทั้ง ความระแวงจาก “ฝ่ายอนุรักษ์” ถึงเรื่องที่ค้างคา MOU43ระหว่าง เขมร-ไทย ที่เคยเป็นประเด็นขัดแย้งถูกจุดเป็นเรื่อง “ชาตินิยม” ปมปัญหาเขตแดนผลประโยชน์ทางทะเลพลังงานธรรมชาติ จนต้องสู้คดีกันต่อ “ศาลโลก” (ทักษิณ+ฮุนเซน+)
ที่ด้านหนึ่งยิ่งทำให้ทุกฝ่ายจับตา “บทบาท” ของ “ทักษิณ” ใน “ทางเปิด” กับ “รัฐบาลเศรษฐา”ที่กำลังถูกมองเป็น “1 รัฐบาล 2 นายกฯ” โดยเฉพาะ “นายกฯนิด” ที่แม้ถูกวิจารณ์ เป็น “นายกฯขาลอย”ทันทีเมื่อ “ทักษิณ” ได้รับการพักโทษกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่กำลังกลายเป็น “ศูนย์กลางอำนาจการเมือง”ที่ทั้งนักการเมือง-กลุ่มทุน จะวิ่งเข้าหา ไม่ต่างจากสมัย “บ้านป่ารอยต่อ” ของ “บิ๊กป้อม” แม้ “ทักษิณ” จะเหลือเวลาต้องรับโทษอีก 6 เดือน (ทักษิณ+นายก+ประวิตร+)
แต่ด้านหนึ่งก็เหมือน “นายกฯเศรษฐา” จะฮึดขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนจะบอกถึงความมั่นใจว่าจะไปต่อได้ 4 ปีจากที่มีการวิเคราะห์ว่า “ทักษิณ” ต้องมีการ “ฟูมฟัก” ฝึกปรือความพร้อมทางการเมืองให้กับ “อุ๊งอิ๊ง” บุตรสาว ทั้งในมิติการบ้าน และ การเมือง กับภาพการ “แอ๊คชั่น” การใช้อำนาจนายกฯ ขยับจี้งานรัฐมนตรีช่วงหลายวันที่ผ่านมา หรือ การโชว์วิชชั่นรัฐบาล เมื่อวาน (22ก.พ.) ที่เปรียบเหมือน แถลง” ผลงาน6เดือน”
ในที่แม้จะยังไม่เป็นชิ้นอัน แถมอาจเป็น “จุดตายทางการเมือง” ที่ถูกเตะตัดสกัดจาก “ฝ่ายขั้วอำนาจเก่า”กลุ่มอนุรักษนิยม กับ “นโยบายเรือธง” ดิจิทัลวอเล็ต อันพร่าเลือนและสุ่มเสี่ยง จนต้องเลื่อนแล้วเลื่อนเล่าและเลื่อนต่อไป อย่างที่ “สว.” จองกฐินไว้วันที่ 25 มี.ค.67 ในการ “อภิปราย” ที่มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าช่วงเวลานั้น อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ถึงขั้นมีการเปลี่ยนตัวนายกฯจาก “เศรษฐา” ที่ต้องตัดสินใจว่าจะ “ลาออก” หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างที่ “ตู่-จตุพร” วิเคราะห์ฟันธงหลายรอบระยะหลัง ว่าช่วงก่อนการ “ซักฟอก” ของ สว. หรือหลังจากนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลง โดยนายกฯที่จะมาแทนอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล (นายก+ทักษิณ+อุ๊งอิง+สว.+จตุพร+)
ขณะเดียวกันปม “บทบาท” ของ “ทักษิณ” ในทางเปิด ก็น่าสนใจในทิศทางข้างต้นที่เหมือนมาเป็นสเต็ป แบบ “มองข้าม” ไปถึง “อาการสร้างความหมั่นไส้” ให้มากยิ่งขึ้นจาก “โจทก์เก่า” ฝ่ายกลุ่มอนุรักษนิยม ที่จ้องเล่นงานเรื่องอาการป่วยของ “ทักษิณ” ว่าป่วยจริงหรือไม่ โดยเฉพาะช็อตล่าสุดวันนี้ (23ก.พ.) กับการที่ “พ.ต.ท.มนตรี” รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ
ออกมาบอกว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เข้าพบ ‘ทักษิณ’ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วเพื่อแจ้งเงื่อนไขข้อกำหนด “การพักโทษ” ที่จู่ ๆ ก็มีการย้ำถึงการ “ไม่มีข้อห้าม” ที่จะให้ “ทักษิณ” ไปนั่งบอร์ดกรรมการ-ที่ปรึกษาทางการเมือง โดย “ทักษิณ” สามารถทำหน้าที่ต่าง ๆ ได้ แต่ต้องไปดูว่าบอร์ดกรรมการหรือตำแหน่งที่ปรึกษาในทางการเมืองนั้น
กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่งโดยมีข้อยกเว้นใดหรือไม่เท่ากับว่า ระหว่างการพักโทษจึงยังไม่มีการห้ามในงานทางการเมือง ที่ต้องไม่ลืมว่า ในทิศทางท่วงทำนอง การจะมาเป็น “กุนซือ” ของ “ทักษิณ” นั้น ถูกพูดถึงตั้งแต่ก่อนการกลับมา และกลับมาทั้งจากคนในรัฐบาลเพื่อไทยเอง. (ทักษิณ+มนตรี+)
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews