“บิ๊กอ๊อด” อ่วม! พันคดี “บอส” ส่องขุมอำนาจคับทุกวงการ!

 

 

 

 

คดี ‘บอส อยู่วิทยา’ ซิ่งชน ดาบตำรวจ ดับ มีความคืบหน้าไปอีกขั้น เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุด ลงดาบ ตามมติ ป.ป.ช.สั่งฟ้อง “บิ๊กอ๊อด-พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับพวก รวม 8 คน ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนช่วยเหลือ เสี่ยบอส ในคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต โดยมีสื่อหลายช่องต่อสายตรง”บิ๊กอ๊อด” ซึ่งเจ้าตัวยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนช่วยเหลือให้ “บอส” พ้นผิด พร้อมปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม

 

 

 

สำหรับตัว “บิ๊กอ๊อด” มีเส้นทางชีวิตสุดโลดโผน โด่งดังในหลายวงการ เป็น ผู้มากบารมีมีพรรคพวกทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ เจ้าพ่อ มาเฟียมากมาย ในภาครั้วปทุมวัน เคยขึ้นสูงสุดเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่10ใน ปี 2557 สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยฐานเศรษฐกิจ เคยลงข้อมูลว่า “บิ๊กอ๊อดเป็นอดีตตำรวจติดตามนายมนตรี พงษ์พานิช

 

 

 

 

ซึ่งต่อมาได้แนะนำให้เขารู้จัก “เนวิน ชิดชอบ” ขาใหญ่อีสานใต้ลูกพี่เสี่ยหนู มท.1 จนสนิทสนมแนบแน่น “บิ๊กอ๊อด” ยังเป็นลูกน้องพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน และยังเป็นน้องในไส้บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร อีกด้วย

 

 

 

 

ไม่เท่านั้น”บิ๊กอ๊อด” ยังสนิทกับ “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” พี่ชายคุณหญิงพจมาน อดีตภรรยา ทักษิณ ชินวัตร ศูนย์รวมอำนาจตัวจริงของรัฐบาลนี้ “บิ๊กอ๊อด” ยังสนิทกับ นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนายหัวชวน หลีกภัย อีกด้วย

 

 

 

ช่วงปี 2561 “บิ๊กอ๊อด” หลุดปาก ให้สัมภาษณ์สื่อช่องหนึ่ง ประเด็นยืมเงิน 300 ล้านบาท จาก เสี่ยกำพล เจ้าของอาบอบนวดชื่อดัง ว่า “อาชีพตำรวจเป็นไซด์ไลน์ อาชีพหลักๆ ผมคือทำธุรกิจ” จากนั้นโดนถล่มหนักจน”บิ๊กอ๊อด”ต้องส่งไลน์ขอโทษตำรวจ มีใจความสำคัญว่า “ตลอดชีวิตการรับราชการของผม ผมรักและภาคภูมิใจในอาชีพตำรวจ ไม่เคยคิดดูถูก ดูหมิ่น ดูแคลน แต่อย่างใด มีความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ในสายเลือดของผม ผมต้องขออภัยต่อเพื่อนตำรวจมา ณ ที่นี้ ”

 

 

ส่วนในวงการธุรกิจ เขาเป็นประธานกรรมการ บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UPซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และทาง Sanook Money ได้ลงข้อมูลธุรกิจของ บิ๊กอ๊อดไว้ว่าเป็นกรรมการบริษัท 6 แห่ง ถือหุ้นบริษัท 11 รายการ มูลค่าหุ้นทั้งหมด เกือบ700ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบรายชื่อ บิ๊กอ๊อด ถือหุ้นบริษัทดังๆอีกหลายแห่งเช่น บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ของตระกูลวิไลลักษณ์

 

 

ส่วนในวงการฟุตบอล เขาเพิ่งสิ้นสุดวาระ 8 ปี การทำหน้าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล เจ้าของวลีเด็ด “ใครไม่อาย ผมอาย” ที่กล่าวไว้ หลังทีมชาติไทยแพ้ญี่ปุ่น 4-0 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เมื่อปี2560 โดยหลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว “บิ๊กอ๊อด” เข้าสู่วงการฟุตบอลไทยเต็มตัว โดยเมื่อปี พ.ศ.2559 ชนะเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สมัยแรก และดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี ต่อมากุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ชนะเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นสมัยสองติดต่อกัน

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามคดี บอส อยู่วิทยา ที่โยงมาถึง”บิ๊กอ๊อด” นั้นมีต้นธารมาจากที่ บิ๊กตู่ อดีตนายกฯแต่งตั้งให้นายวิชา มหาคุณ เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง และนายวิชาเคยสรุปไว้ว่า “มีความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบของพนักงานในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทนายความ พยานและบุคคลทั่วไป ในการเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเริ่มดำเนินคดี จนถึงปัจจุบัน โดยใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อิทธิพลบังคับและสร้างพยานหลักฐานเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการดำเนินคดีตามกฎหมาย”

 

 

 

 

นับแต่บัดนี้”บิ๊กอ๊อด”ในวัย 69 ปี กำลังเข้าสู่โหมดระทึกขวัญ เป็นวิบากกรรมในช่วงบั้นปลายชีวิตอย่างแท้จริง ขณะที่นายพลหนุ่มอย่าง”บิ๊กโจ๊ก”ก็ยังโดนเล่นงานต่อเนื่อง ล่าสุด “วีระ สมความคิด” แจ้งเอาผิด ม.157 “บิ๊กโจ๊ก” ปมโวมีข้อมูลลับบิ๊กสีกากีทุจริต แต่กลับไม่ดำเนินการทางกฎหมายใดๆ ซึ่งต้องติดตามว่าทั้ง2บิ๊กอย่าง บิ๊กอ๊อด-บิ๊กโจ๊ก จะไปสุดท้ายปลายทางในรูปแบบใด?