ม็อบ24มีนา นัดแล้ว! เย็นนี้พบกันแยกราชประสงค์ – เผยโฉม 3 ผู้ขึ้นปราศรัยถูกดำเนินคดี ม.112 -ตร.จับตาย้ำตั้งเวทีผิดกม.
เมื่อเวลา 12.30 น. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม (ม็อบ24มีนา) ได้ประกาศผ่านทวิตเตอร์ ที่ชื่อ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ระบุนัดหมายการชุมนมุในวันนี้ ว่า
“ประกาศสถานที่ วันนี้พบกัน สี่แยกราชประสงค์ !!!
ราษฎรพร้อมลุย! วันนี้พบกันที่สี่แยกราชประสงค์ (เวทีปราศรัยเริ่มเวลา 17:00 น.) มาร่วมกันนับ 1 ถึงล้าน รวมตัวกันให้เต็มสี่แยกราชประสงค์!! ขอให้ทุกท่านเดินทางมาอย่างปลอดภัย แล้วเจอกัน!!”
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทางกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้เปิดเผยผู้ปราศรัยหลักในงานการชุมนุมวันนี้ (24 มี.ค.64 ) ประกอบไปด้วย นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์, เบนจา อะปัญ และ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ซึ่งเป็น 3 เป็นหนึ่งในจำนวน 13 คน ที่ดำเนินคดีมาตรา 112 เนื่องจากการไปชุมนุมและอ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมนี
บช.น. พร้อมรับมือกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯนัดชุมนุมเย็นนี้ แม้ไม่ระบุสถานที่ รับมีข้อมูลการข่าวในมือ พร้อมย้ำเวทีปราศรัยผิดกม.
พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง กรณีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม ชักชวนเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง ว่า ได้กำชับแต่ละกองบังคับการที่เป็นเส้นทางผ่านของสถานีรถไฟฟ้า ให้จัดเตรียมกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งสิ้น 18 กองร้อย ส่วนตำรวจนครบาล จะเตรียมกำลังสำรองสนับสนุนหากมีความจำเป็น
สำหรับสถานการณ์ด้านการข่าว ยอมรับว่ามีข้อมูลในระดับหนึ่ง แต่ต้องรอดูสถานการณ์จริง ก็เป็นไปตามข้อมูลทางการสืบสวนหรือไม่ ส่วนการตั้งเวทีปราศรัย ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากการชุมนุมเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ขณะที่ พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เรื่องการจราจรยืนยันจะไม่ปิดการจราจร แต่เน้นการอำนวยความสะดวกการเดินทางตามปกติ ส่วนการนัดชุมนุมตามสถานีบีทีเอส แนะนำให้วางแผนหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะถนนสุขุมวิท และ ถนนพหลโยธิน และขอให้ติดตามข่าวสารในช่องทางต่างๆ
ด้าน พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เรื่องที่มีสื่อมวลชนบางฉบับไปยื่นหนังสือต่อศาล ทราบว่ามีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นสิทธิ์ที่สามารถดำเนินการได้ พร้อมระบุตำรวจถอดบทเรียนทุกครั้งในการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าวที่ไปปฏิบัติงานภาคสนาม ยืนยัน ตำรวจว่าไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ที่มีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บ และต้องขอให้สื่อมวลชนปฏิบัติตามคำแนะนำของตำรวจเพื่อความปลอดภัย
กลุ่ม “WE FAIR”บุกพปชร.ทวงถามรัฐสวัสดิการ จี้ทุกพรรคทำตามหาเสียงโฆษณาสัญญาประชาชน
กลุ่มเครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม หรือ “WE FAIR” จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมาจัดกิจกรรม “WE FAIR ON TOUR” พร้อมกับยื่นหนังสือและออกแถลงการณ์ต่อพรรคพลังประชารัฐ ตามสโลแกนทวงสัญญารัฐสวัสดิการ อย่าปล่อยให้รัฐสวัสดิการสงบจบลงที่ลุงตู่ เพื่อทวงถามความคืบหน้าถึงนโยบายรัฐสวัสดิการ อาทิ เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ การจ้างงานเด็กจบใหม่ ร่างพ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ นโยบายมารดาประชารัฐ การเรียนฟรี การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ โดยมีตัวแทนเจ้าหน้าที่พรรคฯ เป็นผู้รับหนังสือ
นายนิติรัฐ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ประสานงานกลุ่ม WE FAIR กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางกลุ่มเครือข่ายได้ไปพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชาติ เพราะเราต้องการเห็นรัฐสวัสดิการจากทุกพรรคการเมืองที่ต่างโฆษณานโยบายประชันแข็งขันกันช่วงเลือกตั้ง มาถึงวันนี้จึงมาทวงสัญญา และมาที่พรรคพลังประชารัฐ
จากนั้นช่วงบ่าย จะไปพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย เพื่อถามว่า 2 ปีที่ผ่านมาทำไมไม่ทำเรื่องเหล่านี้ เพื่อเป็นกันชน และเป็นตาข่ายรองรับเมื่อเกิดวิกฤตการณ์เกิดขึ้น เช่น ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ที่มุ่งสร้างความนิยมจากการตีตราความยากจน ทั้งจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเงินเยียวยาโควิด-19 ที่ล่าช้าและไม่ทั่วถึงถามว่า 2 ปีที่ผ่านมาทำไมไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ถือว่าไร้ความรับผิดชอบ ทางเครือข่ายฯรู้สึกผิดหวัง ดังนั้นข้อเสนอต่อรัฐเพียงประการเดียว คือการสร้างรัฐสวัสดิการตามที่หาเสียงไว้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เพื่อแก้ไขวิกฤตความเหลื่อมล้ำและตอบสนองการพัฒนาประเทศ
บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สน.พหลโยธิน ดูแลความสงบเรียบร้อยและคอยอำนวยความสะดวกด้านจราจร หลังยื่นหนังสือแล้ว กลุ่มเครือข่าย “WE FAIR” ได้แยกย้าย เพื่อได้เดินทางไปทำกิจกรรมต่อที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
