Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“พิธา” สู้ “ทักษิณ” วัดบารมี ยุบก้าวไกล ปรับครม. โด๊ปศก.

 

 

 

วิเคราะห์เกมลึก “ทักษิณ-พิธา” บินเชียงใหม่ เป้าหมายใหญ่ยึดพื้นที่ ชิงคะแนนเสียง ฐานที่มั่น หวังเลือกตั้งสมัยหน้า ต้องแลนด์สไลด์ เกมนี้ “นักวิชาการ” ชี้ชัด การเมืองไทยร้อนระอุ ยิ่งมีข่าวยุบพรรคก้าวไกล ยิ่งจุดชนวนกระแสมวลชน ชวนให้ติดตาม

 

โดย “รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย” อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เป้าหมายใหญ่ของ 3 ผู้นำ คือ อดีตนายกฯทักษิณ, “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายที่แตกต่างกัน

 

โดยอดีตนายกฯทักษิณขึ้นไปเพื่อที่จะทวงคืนเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย หลังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เสียพื้นที่ให้กับพรรคก้าวไกลมากพอสมควร ส่วนนายพิธาขึ้นไปเชียงใหม่ก็เพื่อที่จะตรึงพื้นที่เพื่อสู้กับกระแสของอดีตนายกฯทักษิณ แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ภาพที่มีประชาชนและบุคคลสำคัญไปต้อนรับอดีตนายกฯทักษิณ ไม่ว่าจะเป็น “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือแม้กระทั่ง “บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รองผบ.ตร. สะท้อนให้เห็นถึงบารมีทางการเมืองของอดีตนายกฯทักษิณมากพอสมควร

 

“ผมคิดว่าแต่ละคนที่ขึ้นไป มีภารกิจหรือเป้าหมายที่ต่างกัน แต่ทั้งนี้ 3 ผู้นำหลักๆ ที่เราเห็นคือ คุณทักษิณ คุณเศรษฐา และก็คุณพิธา ต่างมีเป้าหมายที่ต่างกัน คุณทักษิณขึ้นไปเพื่อที่จะทวงคืนเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย คือ เชียงใหม่ และก็การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็เสียพื้นที่ให้ก้าวไกลไปเกือบทั้งหมด ถึง 7 ที่นั่ง และก็เพื่อไทยเองได้มา 2 พลังประชารัฐได้มา 1 เพราะฉะนั้นครั้งนี้จะต้องทวงคืนในเรื่องของพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญแห่งหนึ่งของพรรคเพื่อไทย และก็เป็นบ้านเกิดคุณทักษิณด้วย

 

ในขณะเดียวกัน การขึ้นไปของคุณเศรษฐา ก็คือขึ้นไปเพื่อที่จะไปขับเคลื่อนโครงการต่างๆ อย่างเช่นล่าสุดที่ไปฝรั่งเศสมาก็ไปดีล Formula ที่จะมาลงที่เชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนโครงการของรัฐบาลในการที่จะเรียกคะแนนนิยมคู่ขนานไปด้วย ส่วนคุณพิธาขึ้นไปเชียงใหม่ก็เพื่อไปตรึงพื้นที่ทางการเมือง ซึ่งอย่าลืมว่าครั้งนี้ สส.ของพรรคก้าวไกลได้มาถึง 7 ที่นั่ง จาก 10 ที่นั่งเลยที่เดียว แต่ สส.ที่ได้มา ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นสส.สมัยแรก เป็นสส.หน้าใหม่ เพราะฉะนั้นการที่จะมีแม่เหล็กอย่างคุณพิธาขึ้นไปตรึงพื้นที่เพื่อสู้กับกระแสของคุณทักษิณจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และก็ทำให้เราได้เห็นภาพของคุณพิธาที่ขึ้นไปในช่วงเวลาเดียวกันนี้”

 

ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. จะเกิดขึ้นในห้วงจังหวะนี้หรือไม่ “รศ.ดร.ยุทธพร” กล่าวว่า มีโอกาสเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของการทำงานในรอบ 6 เดือน หรือ 1 ปี ที่จะต้องมีการประเมิณผลงาน โดยมองว่ากระทรวงเศรษฐกิจถือเป็นกระทรวงเป้าหมายของการปรับครม.ซึ่งยึดโยงกับผลงาน

 

“การปรับคณะรัฐมนตรีมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นปกติของการทำงานในรอบ 6 เดือน 1 ปี ก็ต้องมีการประเมิณ หรือว่าการดูผลงาน และก็รวมไปถึงเรื่องของการขยับตำแหน่งที่ให้เหมาะสมกับบุคคลต่างๆมากขึ้น แต่กระทรวงที่จะปรับ ก็คงเป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจ เพราะอันนี้คือโจทย์ใหญ่และเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นตรงนี้ ก็คือกระบวนการซึ่งมีโอกาสที่จะปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้นได้”

 

และสำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจจากนี้ไป “รศ.ดร.ยุทธพร” กล่าวว่า จะเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งนโยบายเศรษฐกิจทุกพรรคให้ความสำคัญอยู่แล้ว และในทุกรัฐบาลก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเรื่องเศรษฐกิจก็จะเป็นประเด็นใหญ่ ที่ทุกพรรคจะต้องเอามาต่อสู้แข่งขันกัน

 

และเมื่อถามถึงกรณีที่ กกต. มีมติเอกฉันท์ ให้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องมาจากการที่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการหาเสียงด้วยนโยบายการแก้ ม.112 เป็นการล้มล้าง การปกครองฯจะทำให้เกิดการชุมนุมทางการเมืองไม่ คำตอบที่ได้ น่าสนใจ

 

“อาจจะมีบ้างนิดหน่อย อย่างเช่นในกรณีที่ยุบพรรค แล้วก็มีการออกมาชุมนุมประท้วง แต่ว่าการออกไปชุมนุมประท้วง แต่การประชุมนุมประท้วงใหญ่แบบพักค้างผมว่ายังไม่ง่ายขนาดนั้น แต่ว่าการชุมนุมประท้วงต่างๆ มีโอกาสที่จะเกิดขึ้น เหมือนกับกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อ 4-5 ปีก่อน”

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการเดินสายเช็กเรทติ้งสร้างคะแนนนิยมของอดีตนายกฯทักษิณ และ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล อย่าง “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อย่างใกล้ชิด เพราะทั้งหมดนี้ คือการเดิมพันครั้งใหญ่ ในการชิงมวลชลฐานที่มั่น สู่การเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube