การประชุมวุฒิสภาวันนี้ พิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 เพื่อซักถามและเสนอแนะรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติ โดยมี สว. ลงชื่ออภิปรายทั้งหมด 27 คน ครอบคลุมใน 7 ประเด็น ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่างเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาล ทำงานมา 7 เดือน มีผลงานคืบหน้า แม้ไม่ได้ใช้งบประมาณ ส่วนโครงการเงินดิจิทัล Wallet ก็มีไทม์ไลน์ชัดเจน
โดยการประชุมวุฒิสภา วันนี้ นายศุภชัย สมเจริญ และพลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร สลับกันทำหน้าที่ประธานการประชุม ในวาระการอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. และคณะเป็นผู้เสนอ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งเป็นการอภิปรายครั้งแรกของ สว. ชุดนี้
สำหรับการประชุมในวันนี้ มี สว. ลงชื่ออภิปรายจำนวน 27 คน กรอบเวลา 11 ชั่วโมง 20 นาที คาดว่า จะเสร็จสิ้นในเวลา 24.00 น. ภายใต้ปัญหาสังคม 7 ด้าน ได้แก่ ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย ปัญหาด้านพลังงาน ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม ปัญหาด้านการต่างประเทศและท่องเที่ยว ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาการปฏิรูปประเทศ และการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
ทั้งนี้ นายเสรี สุวรรณนภานนท์ สว. อภิปรายเปิดญัตติ ยืนยันว่า การอภิปรายครั้งนี้ของ สว. ไม่ได้เป็นการล้มรัฐบาล หรือทำให้รัฐบาลเสียหาย ดังนั้น สิ่งที่วุฒิสภาชุดนี้ เสนอญัตติต่อประธาน ก็เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีมาพูดคุยกันในสภา ให้เกิดการแก้ปัญหาของประเทศ
พร้อมมองว่า นายกรัฐมนตรี มัวแต่บินไปต่างประเทศ ตั้งตัวเป็นเซลล์แมน แทนที่จะไปแบบผู้บริหาร CEO ส่วนการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ก็ทำไม่ได้ ปล่อยให้ฝ่ายค้านโชว์พาวเวอร์ตัดหน้า รวมถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ติดข้อกฎหมาย ส่อทุจริตได้ง่าย และการกู้เงินมา ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ต้องการได้ กลายเป็นกระตุ้นความลำบาก ความยากจนให้กับพี่น้องประชาชนมากเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลชุดนี้ มีผลงานดีเด่น คือ “เอาคนผิดกลับประเทศ” ทำลาย กระบวนการยุติธรรม
ส่วนนายสมชาย แสวงการอภิปรายว่า ขอนายกรัฐมนตรี อย่าเอาแต่หมกมุ่นเกี่ยวกับโครงการดิจิทัล Wallet และดันทุรัง เพราะมองว่า เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ การกู้เงินมา เสี่ยงผิดกฎหมาย โดยอาจจะซ้ำรอยกับโครงการรับจำนำข้าว ที่นายกรัฐมนตรีต้องหนีออกนอกประเทศ และข้าราชการหรือคนร่วมกระบวนการต้องติดคุก ส่วนประเด็นกระบวนการยุติธรรม ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนความอยุติธรรม และนายกฯ มีส่วนรับผิดชอบสำคัญในฐานะหัวหน้าสำคัญ เป็นประธาน กต.ร. แต่ปล่อยให้มีเรื่องที่ทำให้พี่น้องประชาชนเจ็บอยู่ในใจกับความ 2 มาตรฐาน ที่นักโทษกว่า 120,000 คนอยู่ในเรือนจำ กลับเอื้อประโยชน์ให้แก่คนๆ เดียว ทั้งนี้ ได้มีการเปิดคลิปของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ กลางที่ประชุมด้วย
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกระทรวงการฟังไปอมยิ้มไปในบางช่วง ก่อนลุกแจงว่า ส่วนตัวไม่น้อยเนื้อต่ำใจที่บริหารงานมา 7 เดือน ก็ถูก สว. อภิปรายทั่วไป เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ต้องมาชี้แจงอยู่แล้ว พร้อมยืนยันไปเชียงใหม่ ไม่ได้ดื่มไวน์ เพราะมีอาการป่วย ไม่สบาย และมั่นใจทำงานได้ แม้งบประมาณยังไม่ประกาศใช้ แต่มีผลงานคืบหน้า ส่วนโครงการเงินดิจิทัล Wallet ยืนยันรัฐบาลมีไทม์ไลน์ชัดเจน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews