ไม่แต่ “นายกเศรษฐา” หรือ รมต.ต่างประเทศ “ปานปรีย์” ที่จะปฏิเสธ ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่ได้ตามข่าวกับการที่ จู่ ๆ วันนี้ “นายจักรภพ เพ็ญแข” อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดนเดินทางกลับเข้าประเทศไทยเพื่อเข้ามอบตัวตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่
โดย “นายกนิด” มาแนวตามน้ำเชื่อว่ารัฐบาลเราให้ความสำคัญกับความยุติธรรมอยู่แล้วใครที่มีปัญหาในอดีต ถ้ากลับเข้ามาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้องแต่ก็ออกตัว ว่าไม่ได้ติดตามกรณีของ “นายจักรภพ” ในรายละเอียดว่ามีอะไรเมื่อนักข่าวถามมาก็ต้องบอกว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอใช้คำนี้เป็นหลักเช่นเดียวกับ “รมต.ปานปรีย์” ที่ก็ออกตัวเช่นกันว่า “จักรภพ” ไม่ได้ประสานมาทาง กต.เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง และตนก็ไม่ได้เกาะติดผู้ลี้ภัยทางการเมืองในต่างประเทศที่ต้องอยู่ถูกกฎหมายประเทศนั้น ๆ แต่ใครอยากกลับติดต่อมาได้
เรียกว่าทั้ง นายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เหมือนจะออกตัวให้เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนทั้งทางกฎหมาย รวมถึงฝ่ายความมั่นคงจะดำเนินการ แม้หลายฝ่ายจะเชื่อว่าทั้งนายกฯ และ รมต.ต่างประเทศย่อมทราบจากรายงานของฝ่ายความมั่นคงได้ตั้งแต่เมื่อวาน(27มี.ค.)ที่ “จักรภพ” โพสFB ระบุว่า “วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 เวลา 07.35 น.จักรภพ เพ็ญแข กลับไปรับใช้ เมืองไทยครับ” โดยวันนี้ หลังจากลงเครื่องและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามหมายจับคดีครอบครองอาวุธปืน -อั้งยี่ เมื่อปี 2560 และได้รับการประกันตัว “จักรภพ” มีการให้สัมภาษณ์ เปิดใจหลังลี้ภัย 15 ปี ไม่ปฏิเสธกลับวงการ การเมือง แต่ขอไม่เป็นตัวขัดแย้ง
ที่น่าสนใจคือการที่ “จักรภพ” แม้ไม่ได้บอกว่าได้รับ “สัญญานไฟเขียว” มาจากไหน ในการเดินทางกลับมา แต่เพราะมั่นใจว่าสถานการณ์กลับสู่ความปกติ ที่จะได้รับความเป็นธรรมจึงเดินทางกลับมาแต่บอกว่าจะขอเป็น “หนูทดลองยา” ในการเป็น “โต้โผ” ประสานพาเหล่าบรรดาคนเสื้อแดง ทั้งระดับแกนนำ ที่เป็นอดีตรัฐมนตรีหลายคน ที่เป็นผู้ลี้ภัยในต่างประเทศได้กลับบ้าน โดยพูดถึง “นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” อดีตรมว.มหาดไทย ผู้ลี้ภัยที่อาจเป็นคิวต่อไป แถม “จักรภพ” ยังบอกเตรียมมีการเข้าพบ “นายทักษิณ” หลังจากนี้
น่าสนใจว่า การที่จู่ ๆ มีการกลับมาของ “จักรภพ” ที่ถือเป็น “อดีตแกนนำสำคัญ” ที่ประสานระหว่างฝ่ายการเมือง กับ คนเสื้อแดงกลุ่มต่าง ๆ ถึงขนาดถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมตั้ง “กลุ่มนปก.” ที่ตอนหลังเป็น “กลุ่มนปช.” มีบทบาทการเคลื่อนไหวนำคนเสื้อแดง ต้านการรัฐประหารหลังปี2549 เรื่อยมากระทั่งมาเกิดเหตุปะทะกับกองทัพในปี53 ที่กลายเป็น “บาดแผลประวัติศาสตร์” คือวันที่ 10เม.ย.53 ในช่วง “รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นนายกฯมี “บิ๊กตู่” เป็น ผบ.ทบ. ขณะนั้นได้เกิดความสูญเสียทั้ง “2 ฝ่าย” ระหว่าง ฝ่ายกองทัพ กับ ม็อบเสื้อแดง ที่ปะทะกันที่สี่แยกคอกวัวและเกิดกรณีการเสียชีวิตของ “พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม” รองเสนาธิการทหาร พล.ร.2 รอ. ถูกยิงด้วยกระสุนเอ็ม 79 เสียชีวิต และ “พล.ต.วลิต โรจนภักดี” ผบ.พล.ร.2 รอ. ณ ขณะนั้น ถูกสะเก็ดระเบิดขาหัก 3 ท่อน จากฝีมือกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย ซึ่งได้รับการฝึกฝนยุทธวิธีการรบและซุ่มยิงมาอย่างดี ที่ทำให้ในวันที่ 10เม.ย.ของทุกปี กลายเป็น “วันเชิงสัญลักษณ์” ของทั้ง “ฝ่ายเสื้อแดง” และ ฝ่ายกองทัพมาตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา
น่าสนใจกว่า คือ วันที่ 10 เม.ย. ณ พ.ศ. นี้ อีกมิติหนึ่งทางการเมืองกำลังถูกจับตาและพูดถึง “ความบังเอิญที่เหมือนไม่บังเอิญ” ที่วันดังกล่าวในปีนี้ เป็นวันที่ถูกจับตาว่า 1.ผลคดี ม.112 ของ “ทักษิณ” ในชั้นอัยการ จะมีการสั่งฟ้องหรือไม่อย่างไร และ 2.การจับตา “นโยบายเรือธง” ดิจิทัลวอเล็ตของ “รัฐบาลเศรษฐา” ที่จะมีการเคาะสรุป ในวันดังกล่าวที่ “นายกเศรษฐา”บอกว่าจะเป็นวันดี ในขณะที่ “รมช.คลัง” “จุลพันธ์” บอกว่าจะเป็นวันมงคลที่คนไทยจะมีความสุข โดยทั้ง 2 ประเด็นถูกมองว่าเบื้องหลังเป็นการต่อรองภายใต้ “ดีลกลับบ้าน” ของ “ทักษิณ” เดิม ที่ให้ “ทักษิณ” มา “นำทัพ” กลุ่มอนุรักษ์นิยมใหม่ในการสู้และสกัดการโตของ “พรรคเด็กก้าวไกล”
ที่ทำให้ศูนย์การนำของ “ฝ่ายอำนาจกลุ่มอนุรักษ์นิยม”ยอมให้ “ทักษิณ” กลับมาได้รับการ “พักโทษ” และทำท่าว่าจะกลับมามีบทบาท “ผู้มีบารมีการเมือง”เบื้องหลัง “รัฐบาลเพื่อไทย” แม้กระนั้นก็ยังไม่ทำให้ “เรตติ้ง” ของเพื่อไทย-เศรษฐา กระเตื้องแถมยังถูก “พิธา-ก้าวไกล” ทิ้งจากโพลล่าสุด เพราะเสียการสนับสนุนจากประชาชน โดยเฉพาะ “มวลชนเสื้อแดง” ที่ไหลไปทาง “ส้ม” จากครั้งเหตุการณ์ “เพื่อไทยพลิกขั้ว”
ที่ข้างต้นทำให้บางฝ่าย มีการมองการเชื่อมโยงถึงการจู่ ๆ กลับมาของ “จักรภพ” วันนี้ที่ตามมาด้วย “สัญญาน” การจะช่วยคนเสื้อแดงที่ลี้ภัยกลับบ้านและโยงไปที่ “ทักษิณ” ในจังหวะใกลั “วันสัญลักษณ์” ในความทรงจำคนเสื้อแดง10เม.ย.กับการขับเคลื่อนของ “ทักษิณ” ใน “รัฐบาลเศรษฐา”ที่สะท้อนนัยยะการเมืองในวันเดียวกัน ว่าทั้งหมดอาจไม่ใช่ “ความบังเอิญ”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews