ฝ่ายค้านส่อชิ่งวงปรับเวลาซักฟอกอีก อ้างเตรียมพร้อมมาตามกรอบเดิมแล้ว ตัดเวลาก่อนอภิปรายแค่ 1 ชม.ไม่ยุติธรรม
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อตกลงกรอบเวลาการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ใหม่ โดยลดเวลาของฝ่ายค้านจาก 22 ชั่วโมงเหลือ 18 ชั่วโมง และเพิ่มให้รัฐบาล จาก 6 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมงว่า ฝ่ายค้านยังหารือกันอยู่ว่า จะไปร่วมประชุมตกลงกรอบเวลาดังกล่าวหรือไม่
เพราะขณะนี้ทุกคนอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมสำหรับการอภิปรายทั่วไป และคิดว่าการตกลงให้เวลาฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง และ ครม. 6 ชั่วโมง เป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา และฝ่ายรัฐบาลเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้เอง ประเมินเองว่า จะใช้เวลาตามนี้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ขอเพิ่ม และถามว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกรอบใหม่ได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่า เปลี่ยนได้ หากมาปรับเปลี่ยนหลังวันที่ 23 มีนาคมในไม่กี่วัน แต่การจะมาเปลี่ยนข้อตกลง 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการอภิปราย ซึ่งฝ่ายค้านได้มีการเตรียมการและเตรียมผู้อภิปรายกันมาหมดแล้ว 22 ชั่วโมง แล้วอยู่ๆ จะมาตัดเวลาในการอภิปรายของฝ่ายค้านออก 4 ชั่วโมงภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนการอภิปราย
ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีความยุติธรรมและไม่มีความชอบธรรมใดๆ เลย ที่จะทำแบบนั้น และความจริงตนต้องขอเรียกร้องไปยังประธานด้วยว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น และประธานก็ควรต้องวางตัวเป็นกลางว่า การเปลี่ยนข้อตกลงก่อน 1 ชั่วโมงที่จะมีการพิจารณาจริงโดยที่เป็นกรอบเวลาที่เป็นข้อตกลงร่วมทุกฝ่าย เป็นธรรมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและฝ่ายค้านหรือไม่
สำหรับกรณีที่ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่าเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อความเป็นธรรม ให้รัฐบาลมีเวลาในการชี้แจงได้ครบถ้วนนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากคำนึงถึงความเป็นธรรม ก็ต้องถามกลับไปว่า การตัดเวลาของฝ่ายค้านลงไป 4 ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่า 1 ใน 5 ของเวลาที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก เป็นธรรมกับฝ่ายค้านหรือไม่ และฝ่ายรัฐบาลเป็นคนเสนอเวลามาเอง ซึ่งตนขอย้ำว่าในที่ประชุมวันนั้น ตนยังหันกลับไปถาม กับฝ่ายรัฐบาล คนหนึ่งอย่างไม่เป็นทางการด้วยซ้ำว่า
ระยะเวลา 6 ชั่วโมงในการชี้แจงพอจริงหรือ และในเมื่อทางรัฐบาลยืนยันว่า พอ ทางฝ่ายค้านก็ตกลงไปตามนั้น แต่การจะมาเพิ่งคิดได้ทีหลังว่าอาจจะไม่พอ ตนก็ยินดีที่จะเพิ่มเวลาให้ โดยเลิกประชุมดึกกว่าเดิม ทั้ง 2 วันก็ได้ ตนไม่มีปัญหาและฝ่ายค้านก็อยากจะได้คำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลเช่นกัน ซึ่งเราไม่มีปัญหาเลย หาก ครม.จะใช้เวลา ชี้แจงเยอะ แต่จะมาตัดเวลาฝ่ายค้านแล้วมาตกลงกัน 1 ชั่วโมงก่อนที่จะอภิปรายนั้น คิดว่าทำไม่ได้ จึงขอยืนยันเวลาของฝ่ายค้านที่ 22 ชั่วโมง เนื่องจากได้มีการจัดสรรเวลากับพรรคร่วมฝ่ายค้านกันแล้ว
ส่วนหากตกลงกันไม่ได้แล้วรัฐบาล ใช้เสียงข้างมากในการลงมติเรื่องกรอบเวลาจะทำอย่างไรนั้น ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ต้องเจรจากันก่อนอยู่แล้ว เพราะต้องยอมรับว่า หากลงมติกัน ไม่มีวันที่ฝ่ายค้านจะชนะ และขอให้จับตาดูว่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่เวทีตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านที่มีอยู่เพียงไม่กี่เวที จะมาใช้เสียงข้างมากลากไป เพื่อจะมาเปลี่ยนจำนวนเวลาในการอภิปราย คิดว่าประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยในระบบรัฐสภาไม่เคยมีแบบนี้
ถ้ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะมาปิดกั้น ขัดขวางระบบการตรวจสอบของรัฐสภาแบบนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นั้น ตนคิดว่าไม่สง่างามเลย
ทั้งนี้ จะมีการเตรียมตั้งรับอย่างไรนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็คงต้องมีการเจรจากัน และอาจจะต้องมีการพูดคุยเจรจากันในห้องประชุมใหญ่ก่อนที่จะเริ่มอภิปรายว่าตกลงจะเอาอย่างไร แต่การคุยตอนเช้าก่อนประชุมนั้นตนคงไม่สะดวกที่จะเข้าร่วม แต่เราก็มีวิปพรรครัฐบาลหลายคน ซึ่งยังคงประเมินกันอยู่
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าในวันพรุ่งนี้หากฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมประชุมวิป3 ฝ่าย ก็อยากให้สาธารณชนได้ทราบไว้ก่อนว่า เอกสารใดๆ ที่ออกมา ไม่มีส่วนร่วมของทางฝ่ายค้าน และเป็นการพูดคุยตกลงกันเองของฝ่ายรัฐบาล ที่จะขัดขวางการตรวจสอบของฝ่ายค้าน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews