“จุลพันธ์” ลุกแจงโต้ฝ่ายค้านซัดปมใช้งบล่วงหน้า 40% บอกเป็นรายจ่ายประจำ-งบผูกพันธ์ ยัน ยังไม่มีงบลงทุนโครงการใหม่จนกว่าพ.ร.บ.งบฯ 68 ประกาศ ลั่น เตรียมเห็น สึนามึการลงทุน ใน 1-2 ปี ลั่น ครม.นี้มีนายกฯคนเดียวตามกฎหมาย
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจ้งกรณีการใช้งบประมาณที่ทางรัฐบาลเผชิญมาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะการใช้งบประมาณปี 2566 ไปพลางก่อน เนื่องจากงบประมาณยังไม่ได้รับการเห็นชอบ
ซึ่งในความเข้าใจที่บอกว่ารัฐบาลได้ใช้งบประมาณไปแล้วไม่ต่ำกว่า 40% ข้อเท็จจริงถูกครึ่งหนึ่ง คือทางรัฐบาลมีการใช้งบประมาณไปพลางก่อน ผ่านงบประมาณไปกว่า 40% เป็นงบประมาณเรื่องเงินเดือนและรายจ่ายประจำ ซึ่งมีรายจ่าย
เรื่องของงบผูกพันที่มีมาก่อนหน้า เช่นงบประมาณผูกพันในปี 2566 และมีความต่อเนื่องมาถึงปี 2567
โดยยืนยันว่าไม่มีการใช้งบประมาณโครงการลงทุนใหม่แต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดที่เผชิญมา จนถึงขณะนี้ไม่มีงบประมาณที่เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้กำกับจนกระทั่งงบประมาณปี 2567 ผ่าน และหากประกาศใช้ก็จะมีงบประมาณสำหรับการขับเคลื่อนประเทศให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและของแต่ละกระทรวงทบวงกรมที่กำกับดูแลได้
ขณะเดียวกันนายจุลพันธ์ ยังระบุอีกว่า ตนเป็นห่วงการอภิปรายพอสมควร เนื่องจากใช้คำพูดที่ค่อนข้างแรง ทั้ง”เศรษฐีไหน จะโง่มาลงทุน” ตนต้องชี้แจงว่า แม้จะแสดงข้อห่วงใยในการที่ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนต่างประเทศ
ไปแสวงหาเม็ดเงินลงทุนและพันธมิตร ไปแสดงจุดยืนว่าประเทศไทยเปิดกลับมาสู่ตลาดโลกอีกครั้ง ตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการไปได้รับสัญญาณในทางบวกจากผู้ลงทุนภาคเอกชนนานาชาติ
แต่ต้องยอมรับว่ากระบวนการลงทุนลักษณะนี้ เงินแสนล้านไม่มีใครตัดสินใจได้ในวันเดียว กระบวนการหลังจากให้ความสนใจแล้วก็ต้องมีกระบวนการในการติดตามพูดคุย และเจรจาให้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งทางรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีหลายท่านได้เดินทางไปต่างประเทศ และตนได้มีโอกาสไปติดตามภารกิจและสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้เปิดการเจรจาและเปิดการหาหรือไว้ ซึ่งได้รับสัญญาณเชิงบวกมา ซึ่งตนเชื่อว่าอีกไม่นาน
แม้ว่าวันนี้ตัวเลขของการลงทุนสัญญาณเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากประเทศไทยเต็มไปด้วยศักยภาพ ทั้งจุดที่ตั้ง และทรัพยากรทางธรรมชาติ ศักยภาพแรงงาน ซึ่งไทยมีแรงจูงใจ และศักยภาพที่จะไปขายเพื่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ตนชื่อว่าสามารถใช้คำนี้ได้ว่า “เราจะได้เห็นสึนามิ ของการลงทุนเกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงปี1- 2 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน” จากการลงทุนของต่างชาติที่จะไหลเข้ามาสร้างงานสร้างเงินสร้างอาชีพและมีการถ่ายโอนความรู้เทคโนโลยี เพื่อที่จะให้คนไทยมีความพร้อมรองรับตลาดโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไป
ขณะเดียวกันนายจุลพันธ์ ชี้แจงว่า ประเด็นห่วงใหญ่เรื่องสายงานการบังคับบัญชา สรุปว่า ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี และยังมีท่านใดอีกหรือไม่ ตนในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าสามารถพูดแทนคณะรัฐมนตรีทุกคนได้ว่า สิ่งนี้เป็นจินตนาการของท่านเอง ไม่ได้มีข้อเท็จจริงใดๆ ประเทศไทยเรามีนายกรัฐมนตรี 1 คน คือนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของคณะรัฐมนตรี และการทำงานของพวกเราและการดำเนินการของพวกเราขึ้นตรงกับนายกฯ ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล เป็นไปตามกลไกของรัฐบาลและกฎหมายทุกประการ
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนจะลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้งในประเด็นที่เกี่ยวข้องอย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และยืนยันว่า 10 เมษายนนี้มีข่าวดีให้กับประชาชนคนไทยทุกคนอย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews