Home
|
ข่าว

กกต. เก็บข้อมูลคอร์สทำความรู้จักฮั้วสมัคร สว.แล้ว

Featured Image
กกต. เก็บข้อมูลคอร์สทำความรู้จักฮั้วสมัคร สว.แล้ว ปัดนิ่งเฉย-ละเลย พร้อมประสาน 26 หน่วยงานตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครป้องกันสภาผัวเมีย ด้าน “คำนูณ” เชื่อ “แก้ รธน.-ถกงบฯ 68” ภารกิจรับ สว.น้องใหม่

 

 

 

 

นายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวในการสัมมนา “บทบาทหน้าที่ อำนาจ และการได้มาซึ่งวุฒิสภาชุดใหม่ 2567” ที่คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา จัดขึ้น โดยได้กล่าวตอนหนึ่งถึงกรณีที่มีการกระแสข่าวการจัดตั้ง หรือจัดอบรมสัมมนา เรียกเก็บเงินเพื่อทำความรู้จักกันเตรียมความพร้อมในการรับสมัคร สว.แบบผู้สมัครเลือกกันเอง เพื่อให้การเลือกตั้ง สว.แบบเลือกกันเองไม่สุจริต

 

 

โดยยืนยันว่า กกต.มีการเก็บข้อมูล และมีเครือข่ายพื้นที่แล้ว ดังนั้น ใครจะไปดำเนินการที่อำเภอไหน ตำบลใด สำนักงาน กกต.ในจังหวัด มีข้อมูลทั้งหมด เพื่อเตรียมนำไปประกอบการพิจารณาหากมีเหตุร้องเรียน จึงยืนยันว่า กกต.ไม่ได้นิ่งเฉย หรือละเลย เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และสร้างความเท่าเทียมแก่ผู้สมัครทุกคน

 

 

รองเลขาธิการ กกต. ยังยืนยันด้วยว่า สำนักงาน กกต.ได้เตรียมความพร้อมในการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกวุฒิสภา ที่จะหมดวาระในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ซึ่งหลังมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาฯ กกต.จะกำหนดวัน กำหนดการต่าง ๆ รวมถึงวันเลือกระดับอำเภอ และจังหวัด รวมถึงในเร็ว ๆ นี้ จะมีการออกประกาศ

 

 

ขยายความกลุ่มอาชีพ สว.ว่าครอบคลุมตำแหน่งใดบ้าง แต่อาจไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่หากผู้สมัครยืนยัน และมีพยานรับรองความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้นได้ จึงยืนยันว่า ผู้สมัครทุกคน จะต้องมีกลุ่มลงสมัครแน่นอน ซึ่งอย่างน้อย ก็จะเป็นกลุ่มอื่น ๆ ที่จะรองรับนอกเหนือ 19 กลุ่มอาชีพ หรือแม้จะมีความรู้ความเชี่ยวชาญใน 19 กลุ่ม แต่ละลงสมัครในกลุ่มอื่น ๆ ดังกล่าวก็ได้

 

 

ส่วนการตรวจสอบผู้สมัคร สว.เพื่อป้องกันในกรณีที่เป็นบุพการี-บุตรนอกสมรสกันนั้น รองเลขาธิการ กกต. ยืนยันว่า สำนักงาน กกต.มีหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยในการตรวจสอบกลั่นกรอง 26 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้าม ทั้งฐานข้อมูลพรรคการเมือง ตำแหน่งต่าง ๆ ซึ่ง กกต.มีเวลา 5 วัน ตรวจสอบหลังการรับสมัครเลือกตั้ง

 

 

ซึ่งสำนักงาน กกต.ทุกจังหวัด สามารถตรวจสอบได้ในบางเรื่องบางประการที่ กกต.มีข้อมูล แม้ตรวจไม่พบ แต่ผ่านการเลือกตั้ง มาระดับอำเภอ และจังหวัดมาแล้ว ก็ต้องถือว่าเป็นโมฆะ หรือเจอในชั้นใด ก็ลบชื่อในชั้นนั้นได้ และผู้สมัคร สามารถร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้

 

 

สำหรับการรับสมัครที่ผู้สมัครต้องมีผู้รับรองความเชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้น ๆ มองว่า ผู้รับรองผู้สมัคร จะต้องระมัดระวังด้วย เพราะหากรับรองเป็นเท็จ ก็อาจจะมีโทษด้วย ซึ่งการแนะนำตัวผู้สมัครในกลุ่มนั้น จะต้องรอระเบียบจาก กกต.ที่จะออกประกาศ แต่ขอให้งดเว้นการหาเสียงก่อน แต่สามารถเปิดเผยแนะนำตัวตนตนเองได้

 

 

ขณะกรณีการตรวจสอบสถานะการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐนั้น รองเลขาธิการ กกต. ย้ำว่า กกต.ยึดหลักตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่หากเข้าองค์ประกอบใด ก็ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ผู้สมัคร ก็สามารถสอบถามไปยังหน่วยงานต้นสังกัดได้ก่อนว่า ตนเองมีสถานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นหรือไม่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ตนเองพยายามตรวจสอบตัวเองมาแล้วในชั้นต้น

 

 

ทั้งนี้ วงสัมมนา ยังได้ถกเถียงกันว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.สามารถลงสมัครเลือก สว.ได้หรือไม่ เนื่องจาก ได้รับเงินค่าตอบแทนจากรัฐรองเลขาธิการ กกต.ยังเชื่อว่า การรับสมัคร สว.ครั้งนี้ จะมีผู้สมัครรวมทั้งประเทศจำนวนมาก แต่เมื่อเข้าสู่ระดับจังหวัดแล้ว เชื่อว่า จะเหลือจังหวัดละประมาณ 500 คน ซึ่งหากรวมทั้งประเทศแล้ว อาจจะมีจำนวนรวมมาก แต่มั่นใจว่า กกต.จะสามารถบริหารจัดการได้ พร้อมชี้แจงขั้นตอนการประกาศผลการเลือกตั้งว่า อาจจะไม่รวดเร็ว เพราะจะต้องคำนึงถึงข้อร้องเรียน ภายหลังจากที่จังหวัดได้ส่งผลคะแนนมายัง กกต.ด้วย

 

 

ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ยังมั่นใจว่า สว.ชุดใหม่ จะเป็นชุดแรกในประวัติศาสตร์โลก ที่มีการเลือกตั้งทางอ้อม และยังคงมีบทบาทสำคัญว่า จะมีส่วนร่วมแก้ไข หรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับหรือไม่ เพราะ สว.ยังมีบทบาทร่วมลงมติ 1 ใน 3 หรือ 67 เสียง จาก 200 เสียงด้วย และอาจจะเป็นเรื่องแรกที่วุฒิสภาชุดใหม่ จะต้องพิจารณา ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับ สว.ชุดใหม่ว่า จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ประสบความสำเร็จหรือไม่

 

 

นายคำนูณ ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเป็นร่างกฎหมายงบประมาณประวัติศาสตร์ ที่เป็นการตั้งงบประมาณแบบขาดดุลมากที่สุด แต่วุฒิสภา จะไม่มีอำนาจแก้ไข และจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จในวาระเดียวเท่านั้น จึงถือเป็นหน้าที่ของ สว.ชุดใหม่ ที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบด้วย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube