เป็นร้อนในจนร้อนใจอีกแล้ว สาเหตุนี่มาจากไหนกันนะ?
เวลาจะกินอะไรอร่อยๆทั้งที แต่ต้องมีอุปสรรคกับการ เป็นร้อนใน ทุกครั้ง ทีนี้จะกินอะไรก็ไม่อร่อย เพราะมัวแต่รู้สึกเจ็บๆแสบๆตรงแผลร้อนใน กว่าจะหายก็ต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ หลายคนคงสงสัยกันใช่ไหมล่ะว่าแผลร้อนในนั้นเกิดจากอะไร? ทำไมร้อนในต้องมาขัดขวางการกินอาหารของเราด้วยนะ วันนี้ทีม INN จะมาบอกสาเหตุเบื้องต้นของการเกิดร้อนในให้ทุกคนได้รู้ไปพร้อมๆกัน
ร้อนใน หรือแผลร้อนใน (Aphthous Ulcers) คือจะเป็นแผลที่มีลักษณะสีเหลืองหรือขาวที่ล้อมรอบไปด้วยสีแดง แผลจะมีขนาดเล็กและตื้น สามารถเกิดขึ้นในบริเวณส่วนใดของช่องปากก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่กระพุ้งแก้ม ลิ้น หรือด้านในริมฝีปาก และทำให้เราเกิดความเจ็บเวลากินอาหาร ดื่มน้ำ หรือเกิดความลำบากในการพูดคุยได้
สาเหตุเบื้องต้นของการเกิดร้อนในหรือแผลร้อนใน เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน เช่น
- เกิดจากความเครียด ไม่ว่าจะเกิดจากการทำงานหรือเครียดจากปัญหาภายในครอบครัว เพราะจากการศึกษาพบว่า การเกิดแผลร้อนในมีความสัมพันธ์กับอาชีพและระดับความวิตกกังวล
- นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเหนื่อยล้า นอนดึก นอนน้อย (เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของสิ่งที่มากระตุ้น)
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน มีประจำเดือน
- การขาดแร่ธาตุหรือวิตามิน โดยเฉพาะขาดธาตุเหล็ก สังกะสี กรดโฟลิก วิตามินบี 12
- ดื่มน้ำน้อยเกินไป
- กินอาหารที่มีรสจัดมากเกินไป ไม่ว่าจะเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด รวมถึง ของทอด ของมัน เนื้อติดมัน เหล้า เบียร์ ขนมปัง เบเกอรี่ ของหวานต่างๆ
- ไม่แปรงฟัน ไม่รักษาความสะอาดในช่องปาก
- การแพ้สารบางอย่างในยาสีฟัน เช่น จากการใช้ยาสีฟันที่เจือปนสาร Sodium lauryl sulfate หรือ Sodium lauroyl sarcosinate
- ได้รับบาดเจ็บภายในช่องปาก เช่น เผลอกัดลิ้นในขณะกินข้าว
นอกจากนี้โอกาสที่จะเป็นแผลร้อนในจะเพิ่มมากขึ้นหากพบว่าคนในครอบครัวเป็นแผลร้อนในบ่อย ซึ่งอาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่เหมือนกัน และโดยส่วนใหญ่ร้อนในจะเกิดขึ้นมาเองโดยไม่ต้องมีสิ่งมากระตุ้น ซึ่งโดยปกติแล้วแผลร้อนในเป็นโรคที่ไม่รุนแรง มักหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ และมักจะไม่ก่อให้เกิดแผลเป็น
และนี่ก็คือสาเหตุเบื้องต้นของการเกิดร้อนในที่ทางทีม INN ได้นำมาฝากทุกคนกัน สำหรับใครที่กำลังเป็นร้อนในอยู่ และกำลังมองหาตัวช่วย ลองไปหาดูได้ที่นี่ แนะนำ 5 ยาแก้ร้อนในที่ควรมีติดบ้าน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news