ส่องสถิติ! “หงส์แดง” ล้างตา “แมนฯยู” ศึกแดงเดือด

เรียกว่าเป็นเกม บิ๊กแมตช์ ที่แฟนๆทั่วโลกต่างเฝ้ารอ สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก ซุปเปอร์ซันเดย์ เป็น ศึกแดงเดือดหนที่3 ของฤดูกาลนี้ โดยในเกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล

หลังฤกาลนี้ เจอกัน 2 ครั้งก่อน แมนยูทำได้เหนือกว่า เกมแรกบุกไปเสมอ 0-0 ถึงถิ่นแอนฟิลด์ส่วนเกมเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทัพปีศาจแดงก็ย้ำชัยไปได้อีก 4-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ งานนี้ทำให้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล หมายมั่นปั้นมือหวังล้างตาให้ได้ ในเกมนี้ แถมยังมีถ้วยพรีเมียร์ลีกที่อยากจะคว้ามาเป็นของขวัญให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก่อนจะอำลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

ก่อนการแข่งขันสถานการ์ของทีมเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนี้เตะไปแล้ว 30 นัดมี 48 แต้ม รั้งอันดับ 6 ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ส่วนทีมเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล แข่งไป 30 นัดเช่นกัน มี 70 แต้ม ตกมาเป็นรองจ่าฝูง หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา อาร์เซนอล สามารถบุกไปชนะ ไบรท์ตัน ได้ 3-0 ประตู แซงขึ้นไปเป็นที่ 1 แล้ว เท่านั้นไม่พอ ลิเวอร์พูลยังโดนแมนฯซิตี้ไล่กดดนมาอีกทาง เมื่อ ทีมเรือใบ บุกไปชนะ คริสตัล พาเลซ ที่แข่งมากกว่า 1 เกมมีแต้มเท่าหงส์แดงที่ 70 คะแนนเท่ากันแล้ว ซึ่งหากลิเวอร์พูล ต้องการจะกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงต้องเอาชนะในแมตช์นี้ให้ได้

โดยความพร้อมของทีมเจ้าบ้าน “ปีศาจแดง” เพิ่งพ่ายในเกมกลางสัปดาห์กับ เชลซี ไปอย่างสุดช็อก 3-4 ประตู ในช่วงต่อเวลาพิเศษหลังครบ 90 นาที แถมได้รับข่าวร้าย เมื่อราฟาเอล วาราน ยังได้รับอาการบาดเจ็บในเกมนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ จอนนี่ อีแวนส์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ และ ไตเรลล์ มาลาเซีย เดี้ยงอยู่ก่อน ส่งผลให้เหลือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นเซ็นเตอร์อาชีพคนเดียวเท่านั้น

ขณะที่ แดนกลางต้องเช็กฟิต กาเซมีโร่ ส่วนแนวรุกเตรียมจ้ด มาร์คัส แรชฟอร์ด คืนตัวจริงแทนที่ อันโตนี่ คอยประสานงานกับ อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และหน้าเป้า ราสมุส ฮอยลุนด์

ส่วนความพร้อมทีมเยือน ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ “หงส์แดง” เกมนี้ถือเป็นเกมที่จะได้ล้างตา หลังพ่ายผีแดง ในศึกเอฟเอคัพไป 3-4 ประตู ถูกเขี่ยตกรอบในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผลงานในเกมล่าสุดลิเวอร์พูล เปิดแอนด์ฟิลด์ ชนะ เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด ไป ประตู 3-1 ประตู กลับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงได้สำเร็จ เกมนี้ทีมจะได้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ผ่านความฟิตคืนมาสู่ทีม ขณะที่ วาทารุ เอ็นโด กัปตันทีมชาติญี่ปุ่นคัมแบ็กกลับมา ยืนคุมแดนกลาง ร่วมกับ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ ที่กำลงโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ส่วนในแดนหน้า มาเต็มมีทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ผู้ถูกโฉลกยิง 13 จาก 14 เกมแดงเดือด, ดาร์วิน นูนเญซ และ ลุยส์ ดีอาซ โดยแข้งหลักที่เจ็บเหลือเพียง อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ ดีโอโก้ โชต้า นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาในระบบ (4-2-3-1) ผู้รักษาประตูเป็น อ็องเดร โอนาน่า กองหลัง 4 คนมีแอรอน วาน-บิสซาก้า, วิลลี่ กัมบวาล่า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ดีโอโก้ ดาโลต์ – ค็อบบี้ เมนู แดนกลางประกอบด้วย สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ , อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่วนกองหน้ามี มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ราสมุส ฮอยลุนด์ ยืนกระจำการ

ขณะที่ ที่เยือน ลิเวอร์พูล มาในระบบ (4-3-3) : ประตูยังเป็น ควีวิน เคลเลเฮอร์ ส่วนแดนหลังมี คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ขณะที่ โดมินิค โซโบซไล, วาทารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ยืนประสานงานในแดนกลาง ส่วน3แดน ยังเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดีอาซ เหมือนเดิม

สำหรับ ผลการดวลกัน 5 นัดหลังรวมเกมอุ่นเครื่องที่พบกัน เป็นฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย หลังจากสามารถชนะได้ 3 จาก 5 เกมที่พบกัน และการดวลกันในฤดูกาลปัจจุบัน ทัพปีศาจแดงยังไม่แพ้ให้กับลิเวอร์พูลเลย (ชนะ 1 เสมอ 1)โดยนัดล่าสุดที่ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในฤดูกาลที่แล้ว กับเกมช็อกโลกที่พวกเขาเปิดแอนฟิลด์ถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด ไปแบบขาดลอย 7-0

โดยความน่าจะเป็นของเกม แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีเกมที่ไม่สม่ำเสมอนัก พร้อมที่จะชนะ และ แพ้ได้ทุกเกม แต่ถึงกระนั้น ก็ยังเป็นตัวแสบของทีม ลิเวอร์พูล เกมนี้เชื่อว่า ทัพปีศาจแดง ได้เปรียบเสียงเชียร์ที่เล่นในบ้าน โดยมาในเกมที่ถนัด รับและโต้กลับ อาศัยกองหน้าที่มีความเร็ว ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ราสมุส ฮอยลุนด์ คอยปั่นป่วนแนวรับของทีมเยือน พร้อมหาโอกาศในการยิงประตู

ขณะที่ ฝั่งลิเวอร์พูล หวังที่จะล้างตาในเกมนี้เช่นกัน ที่สำคัญยังต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ในเกมนี้ หากยังหวังที่จะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้กับคู่แข่งสำคัญ ทั้งอาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เกมนี้เชื่อว่า ทัพหงส์แดง คงต้องใส่เต็มที่ และ มีสมาธิในเกมให้มาก ด้วยการเล่นเกมที่ตนเองถนัด เพลซซิ่ง วิ่งตัดบอลเร็ว และ ส่งให้ 3 ประสานในแดนหน้าทำประตู

งานนี้ หงส์แดง เน้นทุกดอกแน่แน่นอน และเชื่อว่าน่าจะชำระแค้นได้สำเร็จพร้อมรักษาตำแหน่งจ่าฝูงช่วงโค้งสุดท้ายได้ต่อไป ผลการแข่งขันที่คาด แมนฯยู 1-2 ลิเวอร์พูล (แมนฯยู พ่าย ลิเวอร์พูล 1 ประตูต่อ 2)

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews