จังหวะพรุ่งนี้(10เม.ย.)มี3 สถานการณ์ ที่ ถูกจับตา ผลกระทบในปรากฎการณ์ และ ผลลัพธ์บทสรุปที่จะออกมาอันจะส่งผลกระทบต่อ ทิศทางการเมือง “รัฐบาลเศรษฐา”หรือ “กลุ่มอำนาจซ้อน”ทั้งที่อยู่หน้าและหลังฉากในสมการอำนาจการเมือง
ไม่ว่าจะเป็น 1.ข้อสรุปที่ชัดเจนซักที เมื่อไหร่ วันไหน กี่โมงได้ ของ “โครงการแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต1หมื่น” 2.การนัดสั่งคดีฟ้องไม่ฟ้องในคดี 112 ของ “นช.ทักษิณ” ไม่นับรวม ผลการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นวันเดียวกัน รวมถึง “วันสัญลักษณ์”ของทั้งคนเสื้อแดง และ ฝ่ายกองทัพ กับวันครบรอบ 14 ปี เหตุการณ์ 10เม.ย.2553 ที่เสื้อแดงมีการจัดงานรำลึกในทุกปี
โดยในปีนี้ อยู่ในจังหวะที่ “พรรคเพื่อไทย”ที่ “เสื้อแดง” เป็น FC ฐานเสียงเดิมเป็น “แกนนำรัฐบาล”มี “นายกนิด”ที่ชื่อ “เศรษฐา” มี ว่าที่“นายกฯเล็ก”และ “นายกนายใหญ่” ที่ถูกมองเป็น “ผู้นำจิตวิญญาณ”อย่าง “ทักษิณ” ที่วันก่อนเพิ่ง “ออกตัว”ปฏิเสธไม่ได้เป็น “ศูนย์หน้าอนุรักษ์นิยมใหม่”ให้กับ “กลุ่มอนุรักษ์นิยม”
น่าสนใจ กับข่าวที่ถูกปล่อยออกมาวันนี้ผ่านสื่อใหญ่ที่เคยรายงานข่าวการปรับครม.ดึง “กลุ่มส.ส.ประชาธิปัตย์” เข้าร่วมช่วงก่อนถึง “ศึกซักฟอกโดยไม่ลงมติ”เพียง1วัน ว่า “อัยการส่อแววว่าจะทำการ เลื่อน การมาฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดี 112 ของ “ทักษิณ” ด้วยเหตุการตรวจสอบผลการสอบสวนเพิ่มเติมยังไม่แล้วเสร็จ น่าสนใจว่าหากเป็นไปดังว่า จะสะท้อนเป็น “นัยยะ”ของสถานการณ์ถัดไปอย่างไร
จากที่มีหลายฝ่ายเคยวิเคราะห์ว่าพรุ่งนี้ออกได้ 3 หน้า คือ ถ้าสั่งฟ้องตามที่อัยการคนเดิมมีความเห็นไว้ ก็จะนำตัวทักษิณไปศาลอาญา อีกหน้า จะ มีการ เลื่อนออกไปให้มาฟังคำสั่งใหม่ประมาณต้น พ.ค. และ สุดท้ายคือ สั่งไม่ฟ้อง แล้วส่งเรื่องกลับให้ตำรวจ หากผบ.ตร.ไม่เห็นแย้งก็ยุติคดี ม.112 ที่การออกมาใน “หน้า”การเลื่อน ถูกวิเคราะห์ การต่อรอง ระหว่างผู้ประสานทวงดีลกลับบ้าน กับ
“ทักษิณ”ยังไม่ลงตัวในทางบวกกับ “ทักษิณ”ที่จะต้องถูกล็อคปีก ต่อไปอีก1เดือน
โดยประเด็นคดีทักษิณ ถูกโยงเชื่อมกับ ปมดิจิทัลวอเล็ต ว่าเป็น “ข้อต่อรอง”ให้มาลงวันที่ 10 เม.ย. ในระหว่างที่ช่วงเดือนเม.ยมี2 ประเด็นการเมืองที่ถูกจับตาเช่นกัน คือ “คดียุบพรรคก้าวไกล”ที่อยู่ในขั้นตอนศาลให้ก้าวไกลส่งคำชี้แจงใน15วัน ที่ตกอยู่ในเดือนเม.ย.ช่วงหลังสงกรานต์ เช่นเดียวกับ “ข่าวลือปรับครม.”ที่ออกมาก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าจะเป็นช่วงหลังสงกรานต์ จนหลายคนจับอาการความเคลื่อนไหวแอ๊คชั่นของบรรดารัฐมนตรีที่เคยเป็นข่าวว่า มีชื่ออาจถูกปรับขยับรวมถึงรัฐมนตรีที่ไม่มีชื่อ
แม้บางฝ่ายจะวิเคราะห์ว่า ปัจจัยสำคัญอีกอันอยู่ที่“ไทม์มิ่ง”การหมดอำนาจ “การโหวตนายกฯ”ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ60 ของ สว.11พ.ค.ที่เมื่อวาน “กกต.”บอกกำลังเตรียมการเลือกตั้งสว.แล้ว ที่ประเด็นเลือกสว. “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม”มีการจับตาความเคลื่อนไหวของ เครือข่ายการเมืองของ “พรรคส้ม”ที่ประกาศปักธง “สว.ส้มทั้งแผ่นดิน”ที่ประเด็นนี้สัมพันธ์กับจังหวะเวลาคดี “ยุบก้าวไกล”ว่าจะถูกรวบรัดหรือขยับออกเพื่อไม่ให้เกิดเอฟเฟ็กต์
“ยิ่งยุบยิ่งโต”หรือไม่
น่าสนใจว่าประเด็น “ปรับครม”มีท่าทีจาก “นายกฯเศรษฐา”เมื่อวาน(8เม.ย.) ที่ออกมาพูดเรื่องปรับครม.ค่อนข้างยาวเป็นครั้งแรก โดย ย้ำว่ายังไม่ได้ส่งสัญญาณกับพรรคร่วมรัฐบาล กับการ ปรับ ครม. โดยหากจำปรับ นายกฯ มีอำนาจจรดปากกาเพียงคนเดียว ส่วนจะปรับเล็กหรือปรับใหญ่ ถึงเวลาเดี๋ยวรู้เอง โดยบอกทุกคนสามารถถามตนได้ไม่มีใครต้องเงี่ยหูฟังเพราะถามตนโดยตรงได้ ส่วนที่มองกันว่าโควตาในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังเหลืออีกหนึ่งตำแหน่ง
ฉะนั้นอาจจะมีการปรับนั้นเรายังมีอีกตำแหน่งที่เหลืออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวค่อยไปว่ากันเมื่อถึงเวลา ส่วนของ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังไม่ได้ส่งชื่ออีกหนึ่งโควตาที่เหลืออยู่มา ถ้าเลขา พปชร.บอกมาก็จะรับทราบ พร้อมย้ำว่า อย่างที่ได้บอกว่าเป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐหากจะเสนอใครก็เสนอเข้ามา และผ่านไปที่คณะกรรมการตรวจสอบ และว่า สัญญาณที่ตนได้ส่งถึงพรรคร่วมรัฐบาลมาโดยตลอด และให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือปัญหาพี่น้องประชาชนในทุกปัญหา ฉะนั้นพวกท่านทราบกันดีอยู่แล้วท่านมีวุฒิภาวะที่สูงกันทุกคนแล้ว ก็ทราบว่าความต้องการของพี่น้องประชาชนในปัจจุบันคืออะไร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews