สุขสันต์เนื่องใน เทศกาลสงกรานต์ หรือ วันปีใหม่ไทย..ชุ่มฉ่ำไปด้วยการเล่นสาดน้ำปะแป้งตามประเพณีอันดีงามแห่งสยามประเทศมาช้านาน จนถูกดันให้เป็น ซอฟต์พาวเวอร์ ลำดับแรกๆของ รัฐบาลเพื่อไทย โดย “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร บุตรสาว “ทักษิณ ชินวัตร”ผู้นำแห่งจิตวิญญาณพรรค
หากรัฐบาลปฏิบัติตามนโยบายเป็นวาระแห่งชาติลดฝุ่นควันพิษ PM.2.5 ลงได้บ้าง ผลักดันสงกรานต์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สมกับเป็นมรดกโลกให้เป็นผลจริง ปราบปรามธุรกิจสีเทาได้เป็นรูปธรรม ไร้มลพิษแห่งกิจกรรมท่องเที่ยว..แต่ห้วงเทศกาลสงกรานต์ฤดูกาลนี้ “ทักษิณ”ยังต้องตกอยู่ในสภาพเป็น “ตัวประกันทางการเมือง”อยู่ในบ้านพัก ภายใต้ “คดี112”อัยการสูงสุดเลื่อนการสั่งฟ้องคดีออกไป 29 พฤษภาคม หลังวันที่ สมาชิกวุฒิสภาลากตั้ง ของฝ่ายอำนาจนิยม ปลดระวาง 11 พ.ค. เท่ากับว่าระหว่างนี้ “เพื่อไทย”และ “ฝั่งอำนาจนิมยม”จะยังเจรจาต่อรองกันได้ใช่หรือไม่..
ความเป็นไปของ “คดี112ทักษิณ” เสมือนปฏิบัติการทางการเมืองยังไม่ตรงตามดีลเสียทีเดียว ผลประโยชน์แห่งอำนาจและผลประโยชน์การเมืองยังไม่ตอบสนอง “กลุ่มทุนการเมือง”แต่ละฝ่าย ขณะ “รัฐบาลเพื่อไทย”โดย “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน”นำแถลงความชัดเจน นโยบายเรือธง โครงการหาเสียง แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต”จับ “มวลชน”เป็น “ตัวประกัน”ไปกว่า 50 ล้านคน
หาก “รัฐบาลเศรษฐา” ไม่พูดอย่างทำอย่าง แบบที่ผ่านมาอาจยื้อฟิว “การกระตุ้นเศรษฐกิจ” ไปได้อีกระยะ หากมาตรการนี้จะเริ่มใช้ ปลายปี 2567 ด้วยความมั่นใจใน ข้อกฎหมาย ที่ “ฝั่งอนุรักษ์นิยม” เคยใช้เป็น “ข้อต่อรอง” เนื่องจากรัฐบาลยืนยันถึง “ที่มาของเงิน”ในโครงการจากงบประมาณแผ่นดินทั้งปี 2567 และผูกพันธ์งบปี 2568 จำนวน 5 แสนล้านบาทครบจำนวนโดยไม่ต้องออกเป็น “พระราชกำหนด”หรือ “พระราชบัญญัติ”ที่ต้องใช้ “ความเร่งด่วน”และ “วิกฤติทางเศรษฐกิจ”เป็น “เงื่อนไข” และคงสมผลประโยชน์เม็ดเงิน คงหมุนเข้ากระเป๋า “กลุ่มทุนการเมือง” ที่มีเครือข่ายตั้งแต่ “ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ” “ห้างจำหน่ายสินค้าส่ง”กระทั่งครบวงจร
ด้วยสัจจธรรม “ไม่มีมิตรแท้และศรัตรูที่ถาวรทางการเมือง” หากอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง “คดี 112 ทักษิณ ”ฝั่งอนุรักษ์นิยม มิอาจมี “ตัวประกัน”การันตี ดีลทางการเมือง ต่อไปได้อีก ระดับการต่อรอง ยังไม่ถึงฉีกดีลขั้นแตกหักอาจเท่ากับการสั่งฟ้องคดีเข้าสู่ชั้นศาลความเข้มข้นทางการเมืองอาจเพิ่มอุณหภูมิขึ้นอีกระดับ
ผลแห่ง “นิติสงคราม”จากกลยุทธ์การขับเคลื่อนทางการเมืองในทุกสมรภูมิ โดย “เพื่อไทย”พยายามสร้างเกมเพื่อความได้เปรียบบนกระดานการเมือง ตั้งแต่ความพยายามสร้างความมั่นใจ ให้กับคนในพรรคเพื่อไทยเองเป็นเบื้องต้น ความไม่ยอมศิโรราบ และ ประกาศจะกลับมากำชัยในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า โดย “อุ๊งอิ๊ง”ผู้มีส่วนผสม DNA ของพ่อและแม่ประกอบกันเป็น “ผู้นำพรรค” และจะไม่ยอมเป็น “พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่”หรือเป็น “พรรคตัวแทนฝั่งอนุรักษ์นิยม” ขณะยุทธการขับเคลื่อนในสภาฯ “เพื่อไทย”และ “พรรคก้าวไกล”พยายามทอดไมตรีต่อกัน โดย “ก้าวไกล”ไม่ยอมพุ่งเป้าโจมตีไปที่ “พรรคเพื่อไทย”และหลีกเลี่ยงเป้าหมายตรงไปที่ “ทักษิณ”ทั้งที่เป็น “จุดอ่อนสุด”ในศึกซักฟอกที่ผ่านมา เพื่อให้เกมการเมืองเปิดกว้างต่อกัน
ทั้งสองพรรคยังสามารถเป็น “พันธมิตร”กันได้ทางการเมือง ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งฤดูกาลหน้า โดยเฉพาะห้วงหลัง “250สว.”ปลดระวาง เพิ่มอำนาจการต่อรองไม่ให้ “ฝั่งอนุรักษ์”มอง “เพื่อไทย”เป็น “หมูในอวย” เพื่อไทยไม่ได้อยู่ในสภาพ “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ”กับ “พรรคก้าวไกล”
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร การสงครามนั้นเป็นการใช้เลห์เพทุบาย หากผลแห่งดีลไม่เป็นไปตามข้อตกลง คดีฉกรรจ์ทางการเมืองของเพื่อไทยยังจะถูกดึงเข้าสู่เกมอีกหลายสำนวน ทั้งคดี “นายก”เศรษฐา”ให้รถหลวงไปเยี่ยมไข้ “ทักษิณ”ยัง “ทำเนียบจันทร์ส่องหล้า” คดียุบพรรคเพื่อไทย ขณะ “คดียุบพรรคก้าวไกล”รอเพียงจังหวะการกำจัด กระทั่ง “คดีจริยธรรมร้ายแรง 44 สส.”ของพรรคในคณะกรรมการและป้องกันการทุจจริตแห่งชาติ(ปปช.) เพียงแต่อำนาจยุบสภาอยู่ในมือของ “นายกเศรษฐา” อำนาจ “การใช้สิทธิ์เลือกตั้ง”เป็นของประชาชน..“ความเป็นธรรม”และ”การบังคับใช้กฎหมาย”ไม่สามารถโอนให้แก่กันได้ หากแต่เป็นสิทธิโดยกำเนิดของพลเมือง.!?
พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
